fbpx
Search
Close this search box.

จับตาเศรษฐกิจไทยปี 67 โตช้า หนี้ครัวเรือนสูง

ขึ้นต้นปีใหม่ แน่นอนว่าหลายคนเริ่มตั้งเป้าหมายวางแผนชีวิตใหม่ หรือเริ่มต้นธุรกิจใหม่ ๆ แต่ถึงอย่างนั้นซึ่งหนึ่งที่เป็นปัจจัยที่อาจกระทบใครหลายคน นั่นก็คือเศรษฐกิจ ปากท้องความเป็นอยู่ ซึ่งการรู้ทันก่อน จะช่วยให้เรามีความพร้อมเตรียมรับมือกับเหตุการณ์ในอนาคตมากขึ้น 

ในครั้งนี้ ACU PAY อยากพาทุกคนมาดูการวิเคราะห์ทิศทางของเศรษฐกิจไทยในปี 2567 ว่าจะมีทิศทางอย่างไรกันบ้าง

จับตาเศรษฐกิจไทยปี 67

เริ่มกันที่ ศูนย์วิจัยกสิกรไทย ประเมินว่า การเติบโตทางเศรษฐกิจของไทยในปีนี้จะอยู่ที่ 3.1% และหากรวมโครงการดิจิทัลวอลเล็ตการเติบโตของเศรษฐกิจจะอยู่ที่ 3.6% จากปี 2566 ที่คาดจีดีพีไทยเติบโตอยู่ที่ 2.5% อย่างไรก็ตามตลาดเห็นโอกาสที่เศรษฐกิจไทยจะเข้าสู่ภาวะถดถอยเพิ่มขึ้นจาก 5% เป็น 15%

โดยกล่าวว่า ถ้าเปรียบเทียบกับเศรษฐกิจประเทศอื่น เศรษฐกิจไทยโตช้าในรอบ 10 กว่าปีที่ผ่านมา มาจากการขาดการลงทุนของภาคเอกชน เห็นได้จากปีก่อนต่างชาติขายหุ้นไทยต่อเนื่อง เพราะการลงทุนเอกชนลดลง ซึ่งการลงทุนเอกชนคิดเป็น 18% ต่อจีดีพี ส่วนกำไรต่อหุ้นโตอยู่ที่ 6.7% ก็ถือว่าต่ำเมื่อเทียบกับอดีต และเพื่อนบ้าน

เพราะฉะนั้น การปรับเปลี่ยนโครงสร้างเศรษฐกิจจึงเป็นสิ่งที่สำคัญ ถ้าประเทศไทยมีแค่มาตรการมากระตุ้นช่วยฟื้นเศรษฐกิจ ก็ทำได้แค่เพียงในระยะสั้น ทางออกที่ดีที่สุดคือการปรับโครงสร้างสร้างการเติบโตในระยะยาว

มาดูในด้านธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) กันบ้าง ทางธปท. ได้เปิดเผยว่า ภาพรวมเศรษฐกิจไทยยังฟื้นตัวต่อเนื่อง การขยายตัวทางเศรษฐกิจ (GDP) อยู่ที่ 2.8% ในปี 2566 และ 4.4% ในปี 2567 โดยการขยายตัวในปีหน้าจะสูงขึ้นจากหลายแรงขับเคลื่อน ไม่ว่าจะเป็นมาตรการต่าง ๆ เข้ามากระตุ้นเพิ่ม การลงทุนโครงสร้างพื้นฐานน่าจะมาเพิ่มขึ้นคาดว่าจะทำให้ภาคเอกชนมีการลงทุนเพิ่มเติม และการส่งออกน่าจะฟื้นตัวขึ้นเป็นบวกจากฐานที่ต่ำในปีนี้โดยคาดว่าจะอยู่ที่ 4.2% ในปี 2567 รวมถึงอุปสงค์ในประเทศที่มีแนวโน้มขยายตัวต่อเนื่อง

ขณะที่ศูนย์วิจัยเศรษฐกิจและธุรกิจ ธนาคารไทยพาณิชย์ (SCB EIC) เปิดเผยว่า ปี 2567 นี้เศรษฐกิจไทยมีแนวโน้มขยายตัวต่อเนื่องในช่วงไตรมาสแรก โดยมีแรงส่งหลักมาจากการบริโภคภาคเอกชน ตามความเชื่อมั่นผู้บริโภคปรับดีขึ้น มาตรการลดค่าครองชีพ และโครงการ Easy e-receipt กระตุ้นการใช้จ่าย แต่ผลบวกของโครงการต่าง ๆ อาจไม่มากเท่าในอดีต เพราะเงื่อนไขจำกัดเฉพาะร้านที่ออก e-Tax Invoice ได้ ขณะเดียวกันการท่องเที่ยวและส่งออกยังกลับมาขยายตัวจึงคาดว่า GDP ไทยปีนี้จะอยู่ที่ 3.0% 

ทั้งนี้ มีปัจจัยบวก 2 ด้านหลัก ได้แก่

  1. การส่งออกฟื้นตัว จากแนวโน้มการค้าโลกที่ขยายตัวสูงขึ้น
  2. การลงทุนภาคเอกชนฟื้นตัวดี ตามแนวโน้มยอดขอรับการส่งเสริมการลงทุน และนโยบายส่งเสริมภาครัฐ

สำหรับเงินเฟ้อไทย SCB EIC ธนาคารไทยพาณิชย์ ได้ประเมินว่า ไทยยังไม่เข้าสู่ภาวะเงินฝืด เนื่องจากเงินเฟ้อติดลบยังไม่กระจายตัวรายสินค้าเป็นวงกว้าง แต่ปัญหาหนี้ครัวเรือนไทยยังอยู่ในระดับสูงและรายได้กลุ่มเปราะบางฟื้นช้า 

ซึ่งมีแนวโน้มเป็นแรงงานนอกระบบที่มีรายได้ไม่สูงและเข้าไม่ถึงระบบประกันสังคม ประกอบกับมีวิธีบริหารจัดการหนี้ที่ยังไม่ดีนัก จึงพึ่งพาหนี้นอกระบบสูง และมีแนวโน้มติดอยู่ในวงจรหนี้อีกนาน จึงต้องอาศัยนโยบายระยะสั้น เพิ่มสภาพคล่องและแก้หนี้ให้กลุ่มครัวเรือนเปราะบาง ควบคู่กับนโยบายระยะยาว เช่น ปรับทักษะยกระดับรายได้ เพิ่มสัดส่วนแรงงานทำงานในระบบ เสริมความแข็งแกร่งการเงินส่วนบุคคล

สำหรับภาพรวมเศรษฐกิจโลกยังเผชิญกับความท้าทายมากมาย ทั้งความไม่แน่นอนจากนโยบายดอกเบี้ยในธนาคารกลางต่าง ๆ ทั่วโลก ปัญหาเงินเฟ้อ ความขัดแย้งและสงครามในหลาย ๆ ประเทศ อาจส่งผลกระทบต่อการค้าทั่วโลกได้เช่นกัน 

และทั้งหมดนี้คือการวิเคราะห์และคาดการณ์เศรษฐกิจไทยในปี 2567 ที่คนไทยควรเตรียมรับมือ

ผู้เขียน

Picture of ACU PAY Thailand

ACU PAY Thailand

ให้ทุกเรื่องการเงินเป็นเรื่องง่าย เริ่มต้นวันดีๆ ไปกับเรา MAKE A GREAT DAY WITH ACU PAY

บทความที่เกี่ยวข้อง

เพื่อนๆ สามารถติดตาม ACU PAY Thailand ผ่านช่องทางการติดตามอื่นๆ ได้ที่