แต่ในวันที่ 14 กรกฎาคมที่ผ่านมา เกิดเหตุการณ์ โดนัลด์ ทรัมป์ถูกลอบยิงขณะปราศรัยหาเสียงในเมืองบัตเลอร์ รัฐเพนซิลเวเนีย จากรายงานมีผู้เสียชีวิต 2 คน คือหนึ่งในเหล่าผู้ชมที่เข้าร่วมชมการปราศรัย และมือปืนที่ลอบยิง ทรัมป์ เอง ก็ถูกสังหารโดยหน่วยรักษาความปลอดภัย โดยทรัมป์เองก็ได้รับบาดเจ็บที่ใบหูขวา
จากเหตุการณ์ลอบยิงในครั้งนี้ ทำให้ฝั่งที่สนับสนุนพรรคและนโยบายของทรัมป์เกิดการตื่นตัว รวมไปถึงผู้ที่เป็นกลางเอง ก็หันมาสนับสนุนทรัมป์อยู่ไม่น้อยเลย เนื่องจากเขาถูกมองว่ามีภาพลักษณ์ที่ “แข็งแกร่ง”หลังถูกลอบยิงแล้วรอดมาได้ นั่นจึงทำให้นักวิเคราะห์หลายคน มองว่าเป็นผลบวกต่อทรัมป์และอาจทำให้เขาชนะเลือกตั้งในครั้งนี้ได้
หลังจากเผชิญกับแรงกดดันถาโถมอย่างหนักจากภายในพรรคและบรรดาผู้สนับสนุน ล่าสุด โจ ไบเดน ประธานาธิบดีคนปัจจุบัน ยอมยกธงขาว ประกาศถอนตัวจากการเป็นแคนดิเดตพรรคเดโมแครตลงชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ แล้ว นอกจากที่เขาจะประกาศถอนตัวจากการเป็นผู้แทนพรรคแล้ว เขายังกล่าวสนับสนุนให้รองประธานาธิบดีของเขา คามาลา แฮร์ริส มาเป็นผู้แทนพรรคเดโมแครตแทนที่ แต่ก็ยังสูสีกันในเรื่องคะแนนของผลโพลโดยรวม
อย่างแรกที่เขาจะทำและให้คำมั่นสัญญาว่า ‘จะยุติสงครามที่เกิดขึ้นภายใน 24 ชั่วโมง’ หลังจากที่เขาได้ดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ คำพูดถ้อยคำดังกล่าวทำให้เกิดความวิตกกังวลถึงผลที่จะตามมาว่าเขาอาจจะกดดันให้ยูเครนยอมยกดินแดนให้รัสเซียหรือไม่ เพราะว่าเขาเองก็ไม่ได้อธิบายเพิ่มเติมว่าแผนการดังกล่าวมีรายละเอียดอย่างไร แต่ในขณะเดียวกันก็มีผู้ที่เริ่มเข้ามาสนับสนุนอีกเช่นกัน โดยศูนย์วิจัย PEW พบว่า 49% ของผู้ตอบแบบสอบถามจากพรรคพับลิกันกล่าวว่า รัฐบาลกลางใช้จ่ายเงินมากเกินควรไปกับยูเครน ในขณะที่พรรคเดโมแครตมี 17% เท่านั้น
อีกหนึ่งในนโยบายด้านเศรษฐกิจที่สำคัญของทรัมป์ คือ การเพิ่มภาษีนำเข้าสินค้าทุกชนิด 10% เพราะทรัมป์มองว่า ทุกประเทศในโลกนี้ ไม่ใช่เฉพาะจีน เป็นคู่แข่งทางการค้าของสหรัฐฯ เพราะส่งออกสินค้าราคาถูกเข้ามาให้สหรัฐฯ และทำให้สหรัฐฯ ขาดดุลการค้า โดยในปี 2023 สหรัฐฯ ขาดดุลการค้าถึง 7.73 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือราว 28 ล้านล้านบาท
ตัวเลขผู้ที่ข้ามพรมแดนสหรัฐฯ-เม็กซิโก พุ่งสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง จนปัญหาผู้อพยพกลายเป็นประเด็นสำคัญของทั้งสองพรรคการเมือง และในสมัยแรกที่ทรัมป์ได้ดำรงตำแหน่งประธานาธิบดี เขามีนโยบายเกี่ยวกับการรับคนเข้าเมืองที่ดุดัน เขาเองก็กล่าวว่าจะทำให้เข้มงวดยิ่งขึ้นหากได้ตำแหน่งอีกครั้ง และจะเริ่มปฏิบัติการ ‘การเนรเทศที่ใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์อเมริกา’ อีกด้วย
ในเว็บไซต์หาเสียงของทรัมป์ระบุว่า เขาจะถอนตัวออกจากข้อตกลงปารีสด้านการเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศ เขาสัญญาว่าจะ ‘ขุด’ เพื่อหาน้ำมันพร้อมให้คำมั่นว่าจะมีพลังงานในราคาที่ถูกกว่า ในขณะที่ด้านพรรคเดโมแครตนั้นเน้นการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมและสภาพอากาศจนถึงขั้นว่าได้รับการยอมรับว่าเป็นพรรคการเมืองที่ทำเพื่อสิ่งแวดล้อมที่สุดของสหรัฐ นั่นทำให้นักสิ่งแวดล้อมหรือแม้แต่อดีตคณะกรรมการระหว่างรัฐบาลด้านการเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศออกมาบอกว่า ชัยชนะของทรัมป์จะเป็น “ฝันร้าย” ด้านสภาพภูมิอากาศของสหรัฐฯ ดังนั้นจะไม่แปลกเลยที่แผนการพัฒนาด้านสิ่งแวดล้อมระหว่างทั้งสองพรรคจะมีปณิธานและแรงจูงใจที่สุดขั้วกันได้ขนาดนี้ ซึ่งผลการเลือกตั้งครั้งนี้จะเปลี่ยนแปลงไปอย่างไรต่อนั้น ต้องติดตามกันต่อไป
ให้ทุกเรื่องการเงินเป็นเรื่องง่าย เริ่มต้นวันดีๆ ไปกับเรา MAKE A GREAT DAY WITH ACU PAY
Cookie | Duration | Description |
---|---|---|
cookielawinfo-checkbox-analytics | 11 months | This cookie is set by GDPR Cookie Consent plugin. The cookie is used to store the user consent for the cookies in the category "Analytics". |
cookielawinfo-checkbox-functional | 11 months | The cookie is set by GDPR cookie consent to record the user consent for the cookies in the category "Functional" |
cookielawinfo-checkbox-necessary | 11 months | This cookie is set by GDPR Cookie Consent plugin. The cookies is used to store the user consent for the cookies in the category "Necessary". |
cookielawinfo-checkbox-others | 11 months | This cookie is set by GDPR Cookie Consent plugin. The cookie is used to store the user consent for the cookies in the category "Other". |
cookielawinfo-checkbox-performance | 11 months | This cookie is set by GDPR Cookie Consent plugin. The cookie is used to store the user consent for the cookies in the category "Performance". |
viewed_cookie_policy | 11 months | The cookie is set by the GDPR Cookie Consent plugin and is used to store whether or not user has consented to the use of cookies. It does not store any personal data. |