ถ้าเมื่อพูดถึงประเทศไทย ภาพที่คนต่างชาติหลายคนมักนึกถึงเป็นอันดับต้นๆ คงหนีไม่พ้นเรื่อง อาหารริมทางหรือที่เรียกกันว่า “Street Food” ที่กระจายตัวอยู่แทบทุกตรอกซอกซอย ไม่ว่าจะเป็นสตรีทฟู้ดแบบรถเข็น ตลาดกลางคืน หรือแผงลอยเล็กๆตรงริมถนน กลายเป็นเสน่ห์เฉพาะตัวที่ผสมผสานทั้งรสชาติ ความคุ้มค่า และวัฒนธรรมที่เข้าได้กันอย่างลงตัวจนติดอันดับ “Best Street Food in the World” และนั่นคือเหตุผลว่าทำไมถึงได้ครองใจทั้งคนไทยและชาวต่างชาติ
ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ภาพรวมเศรษฐกิจโลกและเศรษฐกิจไทยเต็มไปด้วยความไม่แน่นอนหลายสาเหตุ ไม่ว่าจะเป็นอัตราเงินเฟ้อที่ยังคงขึ้นสูง ค่าเงินบาทที่กำลังแปรปรวน ผลกระทบจากความไม่แน่นอนทางภูมิรัฐศาสตร์ ไปจนถึงการแข่งที่หนักหน่วงจากตลาดต่างประเทศ ซึ่งส่งผลกระทบธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (SME) ซึ่งเป็นกลุ่มที่มีความเปราะบางต่อการเปลี่ยนแปลงมาก จึงต้องเร่งการปรับตัวเพื่อความอยู่รอดและเติบโตอย่างยั่งยืนในสภาพแวดล้อม
ในยุคปัจจุบันที่การแข่งขันระหว่างประเทศไม่ได้วัดกันแค่ความแข็งแกร่งทางเศรษฐกิจเพียงอย่างเดียว แต่ในปี 2025 “Soft Power” ที่เน้นการสร้างเสน่ห์ทางวัฒนธรรมและค่านิยมเพื่อสร้างความน่าเชื่อถือและดึงดูดจากคนทั่วโลก ดังนั้นในประเทศไทยในปี 2025 ก็ยังคงเดินหน้าขยายอิทธิพลทาง Soft Power ไปอย่างต่อเนื่อง
ในช่วงที่เศรษฐกิจโลกมีความไม่แน่นอนมากขึ้นเกิดจากหลายปัจจัย ทั้งเรื่องเงินเฟ้อ ราคาน้ำมัน รวมถึงการเปลี่ยนแปลงนโยบายของธนาคารกลางทั่วโลก ดอกเบี้ยนโยบายจึงกลายเป็นหนึ่งในเครื่องมือสำคัญที่มักจะถูกหยิบมาใช้เพื่อควบคุมสถานการณ์ โดยเฉพาะการขึ้นดอกเบี้ยที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องในหลายๆประเทศรวมถึงประเทศไทยด้วย
ยุคที่คนไทยเดินทางออกนอกประเทศกันมากขึ้นอีกครั้งหลังจากผ่านพ้นสถานการณ์โควิด19 การใช้บัตรเครดิตในการรูดจ่ายค่าสินค้าและบริการต่างประเทศกลายเป็นพฤติกรรมที่หลายคนเลือกที่จะใช้แทนการแลกเงินสดล่วงหน้าเนื่องจากมีความสะดวก ความปลอดภัย และสิทธิพิเศษจากบัตรมากมาย เช่น คะแนนสะสมหรือเครดิตเงินคืน
เมื่อใดก็ตามที่ธนาคารกลางของประเทศใดประเทศหนึ่งมีการปรับขึ้นดอกเบี้ย คำถามที่มักจะตามมาคือค่าเงินของประเทศนั้นจะ “แข็งค่าขึ้น” หรือไม่ คำตอบในทางทฤษฏีอาจตอบได้ว่าจริง แต่ในทางปฏิบัติกลับมีรายละเอียดซับซ้อนมากกว่านั้น และไม่สามารถฟันธงได้ 100% ว่าดอกเบี้ยขึ้นจะส่งผลให้ค่าเงินแข็งขึ้นเสมอไป
เศรษฐกิจไทยปี 2568 กำลังเผชิญความเสี่ยงรอบด้าน ทั้งจากปัจจัยภายในประเทศและต่างประเทศ ล่าสุด มหาวิทยาลัยหอการค้าไทยได้ปรับลดการคาดการณ์อัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจ (GDP) เหลือเพียง 1.7% จากเดิมที่คาดไว้ที่ 3%
ในยุคปัจจุบันนี้จะออกทริปทั้งทีไม่ใช่แค่เลือกจุดหมายปลายทางเพียงอย่างเดียว แต่ยังต้องใส่ใจในเรื่องของ “งบประมาณ” อีกด้วย โดยเฉพาะในช่วงที่อัตราดอกเบี้ยทั่วโลกยังอยู่ในระดับที่สูง ราคาสินค้าและบริการหลายอย่างราคาแพงขึ้น นักท่องเที่ยวสายประหยัดจึงต้องปรับพฤติกรรมบางอย่างเพื่อเที่ยวได้อย่างสบายใจโดยไม่ต้องกังวลเรื่องเงิน
ตลาดสินทรัพย์ดิจิทัลมีแนวโน้มฟื้นตัวในช่วงครึ่งหลังของปี 2568 หากธนาคารกลางสหรัฐฯ (FED) เริ่มลดอัตราดอกเบี้ยตามคาดการณ์ โดย “วรเมธ จันทร์แสน” ที่ปรึกษาการลงทุนจากบริษัท เมอร์เคิล แคปปิตอล มองว่าการลดดอกเบี้ยของเฟดในไตรมาส 3 อาจเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญที่ส่งผลบวกต่อคริปโตเคอร์เรนซี โดยเฉพาะหากปัจจัยเศรษฐกิจเอื้ออำนวย
ถ้าเมื่อพูดถึงประเทศไทย ภาพที่คนต่างชาติหลายคนมักนึกถึงเป็นอันดับต้นๆ คงหนีไม่พ้นเรื่อง อาหารริมทางหรือที่เรียกกันว่า “Street Food” ที่กระจายตัวอยู่แทบทุกตรอกซอกซอย ไม่ว่าจะเป็นสตรีทฟู้ดแบบรถเข็น ตลาดกลางคืน หรือแผงลอยเล็กๆตรงริมถนน กลายเป็นเสน่ห์เฉพาะตัวที่ผสมผสานทั้งรสชาติ ความคุ้มค่า และวัฒนธรรมที่เข้าได้กันอย่างลงตัวจนติดอันดับ “Best Street Food in the World” และนั่นคือเหตุผลว่าทำไมถึงได้ครองใจทั้งคนไทยและชาวต่างชาติ
ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ภาพรวมเศรษฐกิจโลกและเศรษฐกิจไทยเต็มไปด้วยความไม่แน่นอนหลายสาเหตุ ไม่ว่าจะเป็นอัตราเงินเฟ้อที่ยังคงขึ้นสูง ค่าเงินบาทที่กำลังแปรปรวน ผลกระทบจากความไม่แน่นอนทางภูมิรัฐศาสตร์ ไปจนถึงการแข่งที่หนักหน่วงจากตลาดต่างประเทศ ซึ่งส่งผลกระทบธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (SME) ซึ่งเป็นกลุ่มที่มีความเปราะบางต่อการเปลี่ยนแปลงมาก จึงต้องเร่งการปรับตัวเพื่อความอยู่รอดและเติบโตอย่างยั่งยืนในสภาพแวดล้อม
ในยุคปัจจุบันที่การแข่งขันระหว่างประเทศไม่ได้วัดกันแค่ความแข็งแกร่งทางเศรษฐกิจเพียงอย่างเดียว แต่ในปี 2025 “Soft Power” ที่เน้นการสร้างเสน่ห์ทางวัฒนธรรมและค่านิยมเพื่อสร้างความน่าเชื่อถือและดึงดูดจากคนทั่วโลก ดังนั้นในประเทศไทยในปี 2025 ก็ยังคงเดินหน้าขยายอิทธิพลทาง Soft Power ไปอย่างต่อเนื่อง
ในช่วงที่เศรษฐกิจโลกมีความไม่แน่นอนมากขึ้นเกิดจากหลายปัจจัย ทั้งเรื่องเงินเฟ้อ ราคาน้ำมัน รวมถึงการเปลี่ยนแปลงนโยบายของธนาคารกลางทั่วโลก ดอกเบี้ยนโยบายจึงกลายเป็นหนึ่งในเครื่องมือสำคัญที่มักจะถูกหยิบมาใช้เพื่อควบคุมสถานการณ์ โดยเฉพาะการขึ้นดอกเบี้ยที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องในหลายๆประเทศรวมถึงประเทศไทยด้วย
ยุคที่คนไทยเดินทางออกนอกประเทศกันมากขึ้นอีกครั้งหลังจากผ่านพ้นสถานการณ์โควิด19 การใช้บัตรเครดิตในการรูดจ่ายค่าสินค้าและบริการต่างประเทศกลายเป็นพฤติกรรมที่หลายคนเลือกที่จะใช้แทนการแลกเงินสดล่วงหน้าเนื่องจากมีความสะดวก ความปลอดภัย และสิทธิพิเศษจากบัตรมากมาย เช่น คะแนนสะสมหรือเครดิตเงินคืน
เมื่อใดก็ตามที่ธนาคารกลางของประเทศใดประเทศหนึ่งมีการปรับขึ้นดอกเบี้ย คำถามที่มักจะตามมาคือค่าเงินของประเทศนั้นจะ “แข็งค่าขึ้น” หรือไม่ คำตอบในทางทฤษฏีอาจตอบได้ว่าจริง แต่ในทางปฏิบัติกลับมีรายละเอียดซับซ้อนมากกว่านั้น และไม่สามารถฟันธงได้ 100% ว่าดอกเบี้ยขึ้นจะส่งผลให้ค่าเงินแข็งขึ้นเสมอไป
เศรษฐกิจไทยปี 2568 กำลังเผชิญความเสี่ยงรอบด้าน ทั้งจากปัจจัยภายในประเทศและต่างประเทศ ล่าสุด มหาวิทยาลัยหอการค้าไทยได้ปรับลดการคาดการณ์อัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจ (GDP) เหลือเพียง 1.7% จากเดิมที่คาดไว้ที่ 3%
ในยุคปัจจุบันนี้จะออกทริปทั้งทีไม่ใช่แค่เลือกจุดหมายปลายทางเพียงอย่างเดียว แต่ยังต้องใส่ใจในเรื่องของ “งบประมาณ” อีกด้วย โดยเฉพาะในช่วงที่อัตราดอกเบี้ยทั่วโลกยังอยู่ในระดับที่สูง ราคาสินค้าและบริการหลายอย่างราคาแพงขึ้น นักท่องเที่ยวสายประหยัดจึงต้องปรับพฤติกรรมบางอย่างเพื่อเที่ยวได้อย่างสบายใจโดยไม่ต้องกังวลเรื่องเงิน
ตลาดสินทรัพย์ดิจิทัลมีแนวโน้มฟื้นตัวในช่วงครึ่งหลังของปี 2568 หากธนาคารกลางสหรัฐฯ (FED) เริ่มลดอัตราดอกเบี้ยตามคาดการณ์ โดย “วรเมธ จันทร์แสน” ที่ปรึกษาการลงทุนจากบริษัท เมอร์เคิล แคปปิตอล มองว่าการลดดอกเบี้ยของเฟดในไตรมาส 3 อาจเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญที่ส่งผลบวกต่อคริปโตเคอร์เรนซี โดยเฉพาะหากปัจจัยเศรษฐกิจเอื้ออำนวย
