fbpx
Search
Close this search box.

การรีไฟแนนซ์บ้าน: สิ่งที่ควรรู้และข้อควรพิจารณา

การรีไฟแนนซ์บ้านคือกระบวนการที่เจ้าของบ้านเปลี่ยนแปลงเงื่อนไขของการกู้เงินเพื่อซื้อบ้าน ซึ่งโดยปกติแล้วจะทำเพื่อให้ได้รับอัตราดอกเบี้ยที่ต่ำลงจากเพดานเดิมหรือเพื่อปรับเปลี่ยนระยะเวลาในการชำระหนี้ ซึ่งอาจจะมีผลดีต่อการเงินส่วนบุคคลของคุณ อย่างไรก็ตาม การรีไฟแนนซ์อาจไม่ได้เหมาะสมกับทุกคนเช่นกัน เพราะล้วนแล้วการรีไฟแนนซ์บ้านมีหลายปัจจัยที่ต้องพิจารณาก่อนทำการตัดสินใจนั่นเอง ฉนั้น วันนี้ ACU PAY จะพาทุกคนมารู้จักกับข้อควรรู้และข้อควรพิจารณาต่างๆ ของการรีไฟแนนซ์บ้านเองครับ

เนื้อหา

การรีไฟแนนซ์บ้านคืออะไร?

การรีไฟแนนซ์บ้านคือการนำเงินกู้ปัจจุบันที่ใช้ในการซื้อบ้านมาปิดยอดด้วยเงินกู้ใหม่จากสถาบันการเงินอื่น หรือจากสถาบันเดิม โดยมีการเปลี่ยนแปลงเงื่อนไขของเงินกู้ เช่น อัตราดอกเบี้ย ระยะเวลาในการชำระหนี้ หรือประเภทของดอกเบี้ย (คงที่หรือแปลเปลี่ยน) การรีไฟแนนซ์สามารถช่วยลดการชำระดอกเบี้ยรวม หรือปรับเปลี่ยนสัญญาเงินกู้ให้เหมาะสมกับสภาพการเงินในปัจจุบันนั่นเอง

ข้อดีของการรีไฟแนนซ์

  1. ลดอัตราดอกเบี้ย : แทนที่จะปล่อยให้ดอกเบี้ยในปีถัดๆ ไปเพิ่มขึ้น จากเดิมดอกเบี้ยคงที่อยู่ที่ 3% ในปีถัดมาอาจจะกระโดดขึ้นเป็น 4-6% เลยทีเดียว การรีไฟแนนซ์เพื่อลดดอกเบี้ยจะทำให้สามารถชำระดอกเบี้ยในอัตราที่น้อยลงได้ ซึ่งอัตราของดอกเบี้ยอาจจะลดลงเหลือเพียง 2.75% หรือน้อยกว่านั้น ขึ้นอยู่กับนโยบายของแต่ละธนาคาร 
  2. ลดระยะเวลาการกู้ : การรีไฟแนนซ์อาจทำให้คุณสามารถลดระยะเวลาในการชำระหนี้ได้ ซึ่งอาจช่วยให้คุณหมดหนี้เร็วขึ้น
  3. ปรับเปลี่ยนเงื่อนไข : สามารถปรับเงินผ่อนชำระให้มีความยืดหยุ่นตามความต้องการได้ อีกทั้งยัง ทำให้เพิ่มความสามารถในการชำระหนี้ของผู้กู้ได้อีกด้วย

ข้อควรระวังและปัจจัยที่ต้องพิจารณา

  1. ค่าธรรมเนียมและค่าใช้จ่าย : การรีไฟแนนซ์มักจะมีค่าธรรมเนียมและค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้อง เช่น ค่าธรรมเนียมการประเมินบ้าน ค่าธรรมเนียมการดำเนินการเอกสาร และค่าใช้จ่ายในการจัดการเงินกู้ใหม่ ค่าธรรมเนียมเหล่านี้อาจทำให้การรีไฟแนนซ์ไม่คุ้มค่าในบางกรณี
  2. ระยะเวลาในการคืนทุน : ควรพิจารณาว่าการรีไฟแนนซ์จะช่วยให้คุณประหยัดเงินได้เท่าไรเมื่อเปรียบเทียบกับค่าใช้จ่ายทั้งหมด การรีไฟแนนซ์อาจไม่คุ้มค่าถ้าต้องจ่ายค่าใช้จ่ายเริ่มต้นที่สูงหรือมีแผนจะขายบ้านในเวลาอันใกล้
  3. อัตราดอกเบี้ยที่เปลี่ยนแปลง : ถ้าคุณเลือกดอกเบี้ยแบบลอยตัว อัตราดอกเบี้ยอาจเพิ่มขึ้นในอนาคต ซึ่งอาจทำให้การชำระหนี้ของคุณสูงขึ้นตามไปด้วย
  4. ผลกระทบต่อประวัติเครดิต : การรีไฟแนนซ์อาจมีผลกระทบต่อเครดิตการขอกู้ของคุณ ขึ้นอยู่กับการจัดการการกู้และการชำระหนี้ในระหว่างกระบวนการว่าทำได้ดีตามที่ควรจะเป็นหรือไม่

วิธีการรีไฟแนนซ์บ้าน

  1. ประเมินสถานะการเงินของคุณ : ตรวจสอบการเงินของคุณ เช่น รายได้และหนี้สิน เพื่อให้แน่ใจว่าคุณสามารถจัดการกับการชำระเงินใหม่ได้
  2. ค้นหาตัวเลือกสินเชื่อ : เปรียบเทียบข้อเสนอจากธนาคารและสถาบันการเงินต่างๆ เพื่อหาข้อเสนอที่ดีที่สุดสำหรับคุณ
  3. ตรวจสอบค่าธรรมเนียมและเงื่อนไข : อ่านรายละเอียดเกี่ยวกับค่าธรรมเนียมและเงื่อนไขของการรีไฟแนนซ์อย่างละเอียด
  4. สมัครและจัดเตรียมเอกสาร : ดำเนินการสมัครรีไฟแนนซ์และเตรียมเอกสารที่จำเป็น เช่น เอกสารส่วนตัว เอกสารแสดงหลักฐานทางการเงิน และเอกสารหลักประกันการรีไฟแนนซ์บ้าน

การรีไฟแนนซ์บ้านคือ การเปลี่ยนธนาคารในการกู้ใหม่ โดยนำเงินที่กู้จากธนคารใหม่มาจ่ายธนาคารเก่า แล้วเริ่มผ่อนกับธนาคารใหม่ที่ทำการกู้ เพื่อให้ได้ดอกเบี้ยที่ถูกลง โดยปกติแล้ว 1-3 ปีแรกที่กู้เงิน อัตราดอกเบี้ยจะต่ำกว่าธนาคารเก่า ทำให้หลายๆ คนเลือกที่จะรีไฟแนนซ์ เพื่อลดภาระค่าใช้จ่าย ซึ่งวิธีรีไฟแนนซ์บ้านก็สามารถทำได้ง่าย ไม่ยุ่งยาก โดยเริ่มจากการตรวจเอกสารการกู้เดิม หาธนาคารที่ดอกเบี้ยถูก เงื่อนไขดี ยื่นเอกสาร และทำสัญญาใหม่ เพียงเท่านี้ก็สามารถทำการรีไฟแนนซ์บ้านได้แล้ว แต่ต้องพิจารณาให้รอบคอบเกี่ยวกับค่าใช้จ่ายและเงื่อนไขต่างๆ เพื่อให้มั่นใจว่าการตัดสินใจของคุณเป็นไปตามเป้าหมายทางการเงินที่ตั้งไว้

แหล่งข้อมูลอ้างอิง

ผู้เขียน

Picture of ACU PAY Thailand

ACU PAY Thailand

ให้ทุกเรื่องการเงินเป็นเรื่องง่าย เริ่มต้นวันดีๆ ไปกับเรา MAKE A GREAT DAY WITH ACU PAY

บทความที่เกี่ยวข้อง

เพื่อนๆ สามารถติดตาม ACU PAY Thailand ผ่านช่องทางการติดตามอื่นๆ ได้ที่