fbpx
Search
Close this search box.

จะเกิดอะไรขึ้น หาก ‘ทรัมป์’ ชนะการเลือกตั้งสหรัฐฯ 2024 อีกครั้ง

ในช่วงเวลาที่ผ่านมา เราคงได้เห็นข่าวการเลือกตั้งจากประเทศสหรัฐอเมริกา เมืองแห่งเสรีภาพ อยู่บ้างตามโซเชียลมีเดียหรือแม้แต่ผ่านการถ่ายทอดสดจากโทรทัศน์ โดยมี 2 พรรคการเมืองใหญ่นั่นคือเดโมแครตที่มีโจ ไบเดนเป็นแคนดิเดตและรีพับลิกันที่มีโดนัลด์ ทรัมป์เป็นแคนดิเดต

เนื้อหา

แต่ในวันที่ 14 กรกฎาคมที่ผ่านมา เกิดเหตุการณ์ โดนัลด์ ทรัมป์ถูกลอบยิงขณะปราศรัยหาเสียงในเมืองบัตเลอร์ รัฐเพนซิลเวเนีย จากรายงานมีผู้เสียชีวิต 2 คน คือหนึ่งในเหล่าผู้ชมที่เข้าร่วมชมการปราศรัย และมือปืนที่ลอบยิง ทรัมป์ เอง ก็ถูกสังหารโดยหน่วยรักษาความปลอดภัย โดยทรัมป์เองก็ได้รับบาดเจ็บที่ใบหูขวา

จากเหตุการณ์ลอบยิงในครั้งนี้ ทำให้ฝั่งที่สนับสนุนพรรคและนโยบายของทรัมป์เกิดการตื่นตัว รวมไปถึงผู้ที่เป็นกลางเอง ก็หันมาสนับสนุนทรัมป์อยู่ไม่น้อยเลย เนื่องจากเขาถูกมองว่ามีภาพลักษณ์ที่ “แข็งแกร่ง”หลังถูกลอบยิงแล้วรอดมาได้ นั่นจึงทำให้นักวิเคราะห์หลายคน มองว่าเป็นผลบวกต่อทรัมป์และอาจทำให้เขาชนะเลือกตั้งในครั้งนี้ได้

หลังจากเผชิญกับแรงกดดันถาโถมอย่างหนักจากภายในพรรคและบรรดาผู้สนับสนุน ล่าสุด โจ ไบเดน ประธานาธิบดีคนปัจจุบัน ยอมยกธงขาว ประกาศถอนตัวจากการเป็นแคนดิเดตพรรคเดโมแครตลงชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ แล้ว นอกจากที่เขาจะประกาศถอนตัวจากการเป็นผู้แทนพรรคแล้ว เขายังกล่าวสนับสนุนให้รองประธานาธิบดีของเขา คามาลา แฮร์ริส มาเป็นผู้แทนพรรคเดโมแครตแทนที่ แต่ก็ยังสูสีกันในเรื่องคะแนนของผลโพลโดยรวม 

สิ่งที่มีโอกาสเกิดขึ้นหาก ทรัมป์ ชนะเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ

อย่างแรกที่เขาจะทำและให้คำมั่นสัญญาว่า ‘จะยุติสงครามที่เกิดขึ้นภายใน 24 ชั่วโมง’ หลังจากที่เขาได้ดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ คำพูดถ้อยคำดังกล่าวทำให้เกิดความวิตกกังวลถึงผลที่จะตามมาว่าเขาอาจจะกดดันให้ยูเครนยอมยกดินแดนให้รัสเซียหรือไม่ เพราะว่าเขาเองก็ไม่ได้อธิบายเพิ่มเติมว่าแผนการดังกล่าวมีรายละเอียดอย่างไร แต่ในขณะเดียวกันก็มีผู้ที่เริ่มเข้ามาสนับสนุนอีกเช่นกัน โดยศูนย์วิจัย PEW พบว่า 49% ของผู้ตอบแบบสอบถามจากพรรคพับลิกันกล่าวว่า รัฐบาลกลางใช้จ่ายเงินมากเกินควรไปกับยูเครน ในขณะที่พรรคเดโมแครตมี 17% เท่านั้น

อีกหนึ่งในนโยบายด้านเศรษฐกิจที่สำคัญของทรัมป์ คือ การเพิ่มภาษีนำเข้าสินค้าทุกชนิด 10% เพราะทรัมป์มองว่า ทุกประเทศในโลกนี้ ไม่ใช่เฉพาะจีน เป็นคู่แข่งทางการค้าของสหรัฐฯ เพราะส่งออกสินค้าราคาถูกเข้ามาให้สหรัฐฯ และทำให้สหรัฐฯ ขาดดุลการค้า โดยในปี 2023 สหรัฐฯ ขาดดุลการค้าถึง 7.73 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือราว 28 ล้านล้านบาท

ตัวเลขผู้ที่ข้ามพรมแดนสหรัฐฯ-เม็กซิโก พุ่งสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง จนปัญหาผู้อพยพกลายเป็นประเด็นสำคัญของทั้งสองพรรคการเมือง และในสมัยแรกที่ทรัมป์ได้ดำรงตำแหน่งประธานาธิบดี เขามีนโยบายเกี่ยวกับการรับคนเข้าเมืองที่ดุดัน เขาเองก็กล่าวว่าจะทำให้เข้มงวดยิ่งขึ้นหากได้ตำแหน่งอีกครั้ง และจะเริ่มปฏิบัติการ ‘การเนรเทศที่ใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์อเมริกา’ อีกด้วย

ในเว็บไซต์หาเสียงของทรัมป์ระบุว่า เขาจะถอนตัวออกจากข้อตกลงปารีสด้านการเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศ เขาสัญญาว่าจะ ‘ขุด’ เพื่อหาน้ำมันพร้อมให้คำมั่นว่าจะมีพลังงานในราคาที่ถูกกว่า ในขณะที่ด้านพรรคเดโมแครตนั้นเน้นการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมและสภาพอากาศจนถึงขั้นว่าได้รับการยอมรับว่าเป็นพรรคการเมืองที่ทำเพื่อสิ่งแวดล้อมที่สุดของสหรัฐ นั่นทำให้นักสิ่งแวดล้อมหรือแม้แต่อดีตคณะกรรมการระหว่างรัฐบาลด้านการเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศออกมาบอกว่า ชัยชนะของทรัมป์จะเป็น “ฝันร้าย” ด้านสภาพภูมิอากาศของสหรัฐฯ ดังนั้นจะไม่แปลกเลยที่แผนการพัฒนาด้านสิ่งแวดล้อมระหว่างทั้งสองพรรคจะมีปณิธานและแรงจูงใจที่สุดขั้วกันได้ขนาดนี้ ซึ่งผลการเลือกตั้งครั้งนี้จะเปลี่ยนแปลงไปอย่างไรต่อนั้น ต้องติดตามกันต่อไป 

แหล่งอ้างอิง

ผู้เขียน

Picture of ACU PAY Thailand

ACU PAY Thailand

ให้ทุกเรื่องการเงินเป็นเรื่องง่าย เริ่มต้นวันดีๆ ไปกับเรา MAKE A GREAT DAY WITH ACU PAY

บทความที่เกี่ยวข้อง

เพื่อนๆ สามารถติดตาม ACU PAY Thailand ผ่านช่องทางการติดตามอื่นๆ ได้ที่