Menu
เมื่อวันแรงงานที่ผ่านมา (1 พ.ค. 2567) นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน (รมว.แรงงาน) ได้มีการพูดถึงการปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ 400 บาท/วันในทุกกิจการ ทุกอาชีพ ทุกจังหวัด ซึ่งถือเป็นนโยบายสำคัญของรัฐบาลในการประกาศประกาศไว้ในปี 2567
โดย นายพิพัฒน์ ได้ยืนยันเจตนารมย์ว่า แม้จะไม่สามารถปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำเป็น 400 บาท ทั่วประเทศได้ทันทีในวันที่ 1 พฤษภาคม 2567 แต่ภายในปี 2567 นี้ มั่นใจว่าจะสามารถปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ 400 บาท ให้ได้ครอบคลุมทุกจังหวัดทั่วประเทศ
ยิ่งกว่านั้น นายพิพัฒน์ กล่าวอีกว่า 1 ตุลาคมนี้ ทั่วประเทศจะได้ค่าแรงขั้นต่ำที่เท่าเทียมกันทุกพื้นที่ 77 จังหวัดของไทย ไม่ว่าจังหวัดนั้นจะเป็นปัตตานี ยะลา นราธิวาส ที่เดิมมีการปรับเพิ่มขึ้นเพียง 2 บาท ครั้งนี้จะปรับให้อยู่ในอัตราส่วนที่เท่าเทียมกัน เพื่อที่จะเดินหน้าไปสู่วันละ 600 บาทในปี 2570
สำหรับค่าแรงขั้นต่ำปี 2567 กระทรวงแรงงาน โดยคณะกรรมการค่าจ้าง ประกาศปรับอัตราค่าจ้างขั้นต่ำ มีผลบังคับใช้ตั้งแต่ 1 มกราคม 2567 เป็นต้นไป
อัตราค่าแรงขั้นต่ำโดยเฉลี่ยอยู่ที่ 340 บาท เป็นค่าแรงที่กระจายไปตามพื้นที่ต่าง ๆ กว่า 16 จังหวัด รองลงมาคือ ค่าแรงที่ 345 บาท กินพื้นที่ 15 จังหวัด ส่วนจังหวัดที่มีค่าแรงขั้นต่ำ ต่ำที่สุด ได้แก่ นราธิวาส, ยะลา และปัตตานี อยู่ที่ 330 บาท ส่วนจังหวัดที่มีค่าแรงขั้นต่ำ สูงที่สุด คือ ภูเก็ต อยู่ที่ 370 บาท
โดยในแต่ละพื้นที่ของประเทศ มีอัตราการขึ้นค่าแรงขั้นต่ำไม่เท่ากัน ขึ้นอยู่กับปัจจัยของแต่ละจังหวัด เช่น สภาพเศรษฐกิจ สังคม ขนาดอุตสาหกรรม และความจำเป็นในการใช้แรงงานที่แตกต่างกันออกไป
จากเมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมา ได้มีประกาศปรับค่าแรงขั้นต่ำขึ้นแบบเต็มเพดาน วันละ 400 บาท ถึงเดือนเมษายน แต่ยังมีขอบเขตเฉพาะที่เป็นกิจการโรงแรมระดับ 4 ดาวขึ้นไป และมีลูกจ้างตั้งแต่ 50 คนขึ้นไป โดยนำร่องพื้นที่ท่องเที่ยว 10 จังหวัด ในเขตพื้นที่ที่มีรายได้จากการท่องเที่ยวสูง ได้แก่
ผลที่ตามมาจากการปรับค่าแรงที่เพิ่มขึ้น นั่นก็คือ ค่าครองชีพ โดยเฉพาะเหล่าบรรดาสินค้าและบริการ ก็สูงขึ้นตาม เพราะการขึ้นอัตราค่าแรงขั้นต่ำของแรงงาน ทำให้ต้นทุนในการผลิตสูงขึ้น ส่งผลให้สินค้าและบริการมีราคาเพิ่มขึ้นด้วยเช่นกัน
ให้ทุกเรื่องการเงินเป็นเรื่องง่าย เริ่มต้นวันดีๆ ไปกับเรา MAKE A GREAT DAY WITH ACU PAY
