fbpx
Search
Close this search box.

ทำความรู้จัก “สถาบันค้ำประกันเครดิตแห่งชาติ” (NaCGA) : การพลิกโฉมกลไกการค้ำประกันในไทย

เมื่อวันที่ 13 สิงหาคม 2567 ที่ผ่านมา คณะรัฐมนตรีของประเทศไทยได้เห็นชอบแนวคิดการจัดตั้ง “สถาบันค้ำประกันเครดิตแห่งชาติ” หรือ NaCGA (National Credit Guarantee Agency) ซึ่งเป็นความพยายามในการปรับปรุงและยกระดับกลไกการค้ำประกันของภาครัฐในประเทศไทย เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการเข้าถึงแหล่งทุนของผู้ประกอบการ SMEs และผู้ประกอบการรายย่อยที่มีความต้องการเงินทุน แต่ขาดแคลนหลักประกันที่เพียงพอ

เนื้อหา

วัตถุประสงค์และลักษณะของ NaCGA

สถาบันค้ำประกันเครดิตแห่งชาติ (NaCGA) เป็นหน่วยงานของรัฐที่มีสถานะเป็นนิติบุคคล โดยไม่เป็นทั้งส่วนราชการและรัฐวิสาหกิจ ซึ่งจะทำให้มีความยืดหยุ่นและรวดเร็วในการดำเนินงานต่างๆ มีวัตถุประสงค์หลักเพื่อพลิกโฉมระบบการค้ำประกันในประเทศไทย โดยเฉพาะสำหรับผู้ประกอบการ SMEs และธุรกิจรายย่อยที่มักจะประสบปัญหาในการเข้าถึงแหล่งเงินทุนจากสถาบันการเงินหลัก เนื่องจากขาดแคลนหลักประกันที่เพียงพอ

NaCGA จะทำการค้ำประกันโดยตรง (Direct Guarantee) ซึ่งหมายความว่า จะเป็นผู้ประเมินความเสี่ยงด้านเครดิตของลูกหนี้เอง ตั้งแต่การตรวจสอบข้อมูล การประเมินความเสี่ยงส่วนบุคคล การคิดค่าธรรมเนียม และการออกหนังสือค้ำประกัน โดยรายได้ของ NaCGA จะมาจาก 3 แหล่งหลัก ได้แก่ เงินสมทบจากรัฐบาล เงินสมทบจากผู้ประกอบธุรกิจสินเชื่อ และค่าธรรมเนียมจากผู้ขอสินเชื่อ

ขั้นตอนการดำเนินงานของ NaCGA

การดำเนินงานของ NaCGA จะเริ่มต้นจากขั้นตอนที่เรียบง่ายและโปร่งใส ดังนี้:

  1. การยื่นขอสินเชื่อ : ผู้ที่ต้องการขอสินเชื่อจะต้องติดต่อ NaCGA เพื่อขอรับการค้ำประกัน
  2. การประเมินความเสี่ยง : NaCGA จะทำการประเมินความเสี่ยงของผู้ขอสินเชื่อตามข้อมูลที่ได้รับ
  3. การคำนวณค่าธรรมเนียม : ค่าธรรมเนียมในการค้ำประกันจะถูกกำหนดตามระดับความเสี่ยงของลูกหนี้ โดยรัฐบาลและสถาบันการเงินจะช่วยสมทบค่าใช้จ่าย
  4. การออกหนังสือค้ำประกัน : เมื่อการคำนวณและการอนุมัติเสร็จสิ้น NaCGA จะออกหนังสือค้ำประกันให้แก่ผู้ขอสินเชื่อ
  5. การนำไปใช้ : ผู้ขอสินเชื่อจะนำหนังสือค้ำประกันไปยื่นขอสินเชื่อกับสถาบันการเงิน
  6. การอนุมัติสินเชื่อ : สถาบันการเงินจะพิจารณาอนุมัติสินเชื่อเนื่องจากมีการค้ำประกันจาก NaCGA

เป้าหมายและประโยชน์ของ NaCGA

การจัดตั้ง NaCGA มีเป้าหมายหลักเพื่อ :

  • ส่งเสริมการเข้าถึงแหล่งเงินทุน : NaCGA จะช่วยให้ผู้ประกอบการ SMEs และธุรกิจรายย่อยสามารถเข้าถึงแหล่งเงินทุนที่หลากหลายได้ด้วยต้นทุนทางการเงินที่เหมาะสมและสอดคล้องกับความเสี่ยง ซึ่งจะช่วยลดความพึ่งพาหนี้นอกระบบ
  • ส่งเสริมการพัฒนาเศรษฐกิจ : NaCGA จะช่วยผลักดันอุตสาหกรรมสำคัญตามนโยบายของรัฐบาล และสนับสนุนการพัฒนาทางเศรษฐกิจของประเทศ
  • สร้างเสถียรภาพทางเศรษฐกิจ : NaCGA จะทำหน้าที่เป็นกลไกในการรักษาเสถียรภาพของระบบเศรษฐกิจในกรณีที่เกิดวิกฤตหรือความเสี่ยงทางการเงิน

ข้อดีและข้อควรระวัง

ข้อดี :

  • ลดต้นทุนทางการเงิน : การค้ำประกันที่อิงตามระดับความเสี่ยง (Risk-Based Pricing) จะช่วยลดต้นทุนในการเข้าถึงเงินทุนของผู้ประกอบการ SMEs
  • การเข้าถึงที่หลากหลาย : NaCGA จะเปิดโอกาสให้เข้าถึงแหล่งทุนในรูปแบบที่หลากหลาย รวมถึงการค้ำประกันสินเชื่อจาก Non-Bank และหุ้นกู้
  • การให้คำปรึกษาและความรู้ : NaCGA จะให้คำปรึกษาทางการเงินเพื่อช่วยในการเข้าถึงแหล่งทุนที่เหมาะสม

ข้อควรระวัง :

  • การประเมินความเสี่ยงที่แม่นยำ : NaCGA ต้องมีการประเมินความเสี่ยงอย่างแม่นยำเพื่อหลีกเลี่ยงความเสี่ยงที่ไม่คาดคิด
  • ความโปร่งใสในการคำนวณค่าธรรมเนียม : ค่าธรรมเนียมที่กำหนดต้องสะท้อนถึงความเสี่ยงอย่างถูกต้องและเป็นธรรม

การจัดตั้ง “สถาบันค้ำประกันเครดิตแห่งชาติ” หรือ NaCGA ถือเป็นก้าวสำคัญในการปรับปรุงกลไกการค้ำประกันของไทย ซึ่งจะช่วยให้ผู้ประกอบการ SMEs และธุรกิจรายย่อยสามารถเข้าถึงแหล่งเงินทุนที่หลากหลายได้ง่ายขึ้น พร้อมทั้งลดต้นทุนทางการเงิน และเพิ่มความยืดหยุ่นในการเข้าถึงแหล่งทุน NaCGA จะเป็นส่วนสำคัญในการส่งเสริมเศรษฐกิจไทยและสร้างเสถียรภาพให้กับระบบเศรษฐกิจในระยะยาว

แหล่งข้อมูลอ้างอิง

ผู้เขียน

Picture of ACU PAY Thailand

ACU PAY Thailand

ให้ทุกเรื่องการเงินเป็นเรื่องง่าย เริ่มต้นวันดีๆ ไปกับเรา MAKE A GREAT DAY WITH ACU PAY

บทความที่เกี่ยวข้อง

เพื่อนๆ สามารถติดตาม ACU PAY Thailand ผ่านช่องทางการติดตามอื่นๆ ได้ที่