Menu
คำว่า “เจ” มาจากภาษาจีนที่หมายถึง “อุโบสถ” หรือการรักษาศีล ซึ่งเกี่ยวข้องกับการไม่บริโภคเนื้อสัตว์ในช่วงเทศกาลนี้ มีต้นกำเนิดจากสมัยโบราณเมื่อชาวจีนต้องการปราบศัตรูที่รุกรานโดยการรวมตัวกันรักษาศีลด้วยการงดบริโภคเนื้อสัตว์และทำจิตใจให้บริสุทธิ์ ในปัจจุบัน เทศกาลนี้ยังคงมีอยู่เพื่อเป็นการสักการะพระพุทธเจ้าและมหาโพธิสัตว์
การกินเจไม่เพียงแต่ช่วยให้สุขภาพดีขึ้น แต่ยังเป็นการทำบุญและละเว้นจากการทำร้ายสัตว์ เป็นโอกาสในการปรับตัวทั้งทางร่างกายและจิตใจ ชาวจีนเชื่อว่าการงดเนื้อสัตว์ช่วยให้ร่างกายมีสมดุลระหว่างหยินและหยาง โดยเนื้อสัตว์ถือเป็น “หยิน” ขณะที่ผักและผลไม้เป็น “หยาง”
การถือศีลในช่วงนี้ยังช่วยลดความเครียดและปัญหาสุขภาพ โดยมีการวิจัยที่แสดงให้เห็นว่าอาหารเจมีคุณค่าทางโภชนาการที่สูง ช่วยในการล้างพิษและส่งเสริมระบบย่อยอาหารให้ทำงานได้ดีขึ้น
ในช่วงเทศกาลกินเจจะมีข้อห้ามในการบริโภคหลายอย่าง ได้แก่:
อาหารที่สามารถกินได้ในช่วงนี้ประกอบด้วยผักผลไม้สด เต้าหู้ ขนมเจ และอาหารจากพืชชนิดอื่น ๆ ที่ไม่ใช่เนื้อสัตว์
ก่อนถึงเทศกาลกินเจ หลายคนจะมีการ “ล้างท้อง” เพื่อเตรียมร่างกายให้พร้อมสำหรับการบริโภคอาหารเจ โดยทั่วไปจะเริ่มล้างท้องประมาณ 1-2 วันก่อนเริ่มเทศกาล เพื่อให้ร่างกายปรับตัวได้ดียิ่งขึ้น ในระหว่างเทศกาล ควรพยายามหลีกเลี่ยงการกินอาหารที่มีรสจัดหรือมีส่วนผสมที่ไม่เป็นธรรมชาติ
การเลือกรับประทานอาหารในช่วงเทศกาลกินเจควรคำนึงถึงโภชนาการ เช่น การเลือกโปรตีนจากพืช เช่น เต้าหู้หรือโปรตีนเกษตร รวมถึงการเลือกบริโภคผักผลไม้หลากหลายสี เพื่อให้ได้รับวิตามินและแร่ธาตุที่หลากหลาย
เทศกาลกินเจไม่ใช่เพียงแค่การงดเนื้อสัตว์ แต่ยังเป็นการรวมตัวกันของชุมชน การทำบุญ และการดูแลสุขภาพด้วยการเลือกอาหารที่ดี นอกจากนี้ยังเป็นโอกาสให้ทุกคนได้พิจารณาและปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการบริโภคอาหารในชีวิตประจำวัน หากเพื่อน ๆ ยังไม่เคยลองเข้าร่วมเทศกาลนี้ในปีนี้ถือเป็นโอกาสที่ดีที่จะเริ่มต้นและสัมผัสกับความรู้สึกแห่งการทำบุญและการดูแลสุขภาพไปพร้อม ๆ กัน ลองเปิดใจให้กับการกินเจในปี 2567 นี้ และบางทีลองแล้วอาจจะชอบก็ได้นะ!
ให้ทุกเรื่องการเงินเป็นเรื่องง่าย เริ่มต้นวันดีๆ ไปกับเรา MAKE A GREAT DAY WITH ACU PAY
