Menu
ในยุคที่โลกการเงินเปลี่ยนผ่านอย่างรวดเร็ว e-wallet ในไทย กลายเป็นหนึ่งในเครื่องมือสำคัญที่ช่วยให้ผู้คนเข้าถึงการชำระเงินได้ง่ายขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการซื้อของออนไลน์ การชำระค่าบริการรายเดือน หรือแม้แต่การใช้จ่ายในร้านสะดวกซื้อ ทุกอย่างสามารถทำได้เพียงปลายนิ้วสัมผัส ด้วยเทคโนโลยีที่เชื่อมโยงระบบธนาคารกับชีวิตประจำวันอย่างไร้รอยต่อ ปี 2025 จึงถือเป็นอีกจุดเปลี่ยนสำคัญที่ตลาด e-wallet ในไทย เติบโตอย่างก้าวกระโดดทั้งด้านจำนวนผู้ใช้และปริมาณธุรกรรม
ตลาด e-wallet ในไทย มีแนวโน้มขยายตัวต่อเนื่องจากพฤติกรรมผู้บริโภคที่คุ้นเคยกับการใช้สมาร์ตโฟนและอินเทอร์เน็ต ธนาคารแห่งประเทศไทยระบุว่ามีผู้ใช้งาน e-wallet กว่า 60 ล้านบัญชีทั่วประเทศ โดยเฉลี่ยคนไทยหนึ่งคนมีอย่างน้อย 2 แอปในเครื่อง ซึ่งสะท้อนถึงการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมจากการพกเงินสดมาเป็นการชำระแบบดิจิทัลอย่างเต็มรูปแบบ
หนึ่งในปัจจัยสำคัญคือความสะดวกและความปลอดภัยที่สูงขึ้น แอปส่วนใหญ่มีระบบยืนยันตัวตน (KYC) ระบบรหัส PIN และระบบสแกนใบหน้า ทำให้ผู้ใช้มั่นใจในการทำธุรกรรมทุกครั้ง นอกจากนี้ การแข่งขันระหว่างผู้ให้บริการ e-wallet รายใหญ่ยังผลักดันให้เกิดนวัตกรรมใหม่ ๆ อย่างต่อเนื่อง เช่น ระบบแต้มสะสม ส่วนลดร้านค้า และโปรโมชันร่วมกับพันธมิตรต่าง ๆ
เมื่อพูดถึง e-wallet ในไทย ปัจจุบันมีหลายเจ้าที่ครองส่วนแบ่งตลาดหลัก ได้แก่
การแข่งขันที่ดุเดือดนี้ ทำให้แต่ละแบรนด์ต้องหาทางสร้างความแตกต่าง ทั้งด้านประสบการณ์ผู้ใช้ (UX) ความเร็วในการทำธุรกรรม และความคุ้มค่าที่มอบให้ผู้ใช้
คนไทยรุ่นใหม่ให้ความสำคัญกับ “ความสะดวก” และ “ความปลอดภัย” มากขึ้น การใช้ e-wallet ในไทย จึงไม่ได้จำกัดอยู่ในกลุ่มวัยรุ่นเท่านั้น แต่ขยายสู่ทุกช่วงอายุ ตั้งแต่นักเรียนไปจนถึงวัยทำงานและผู้สูงอายุที่เริ่มปรับตัวเข้ากับเทคโนโลยีในชีวิตประจำวัน e-wallet ถูกใช้ในหลายโอกาส เช่น
เมื่อระบบต่าง ๆ ในประเทศรองรับมากขึ้น เช่น รถไฟฟ้า ห้างสรรพสินค้า และหน่วยงานราชการ การใช้ e-wallet ก็จะกลายเป็นพฤติกรรมปกติที่แทบไม่ต้องพกกระเป๋าสตางค์อีกต่อไป
ปี 2025 เป็นปีที่ e-wallet ในไทย กำลังเดินหน้าสู่ยุค “รวมศูนย์บริการทางการเงิน” หรือ Super App ผู้ใช้ไม่เพียงแต่จ่ายเงินได้ แต่ยังสามารถโอน เติม ลงทุน หรือรับผลตอบแทนในรูปแบบ Point ได้ในแอปเดียว
เทรนด์ที่น่าจับตา ได้แก่
การเติบโตของ e-wallet ในไทย มีผลโดยตรงต่อเศรษฐกิจโดยรวม เพราะช่วยเพิ่มการหมุนเวียนของเงินในระบบดิจิทัล ลดต้นทุนธุรกรรมทางการเงิน และทำให้ประชาชนเข้าถึงบริการทางการเงินได้ง่ายขึ้น โดยเฉพาะกลุ่มผู้มีรายได้น้อยหรือไม่มีบัญชีธนาคาร
นอกจากนี้ ยังเป็นโอกาสสำคัญของภาครัฐในการผลักดันนโยบาย Cashless Society และระบบ Digital ID ซึ่งจะช่วยให้การจ่ายภาษี การรับเงินช่วยเหลือ หรือการซื้อขายภาครัฐทำได้อย่างโปร่งใสและตรวจสอบได้
ในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า เราอาจได้เห็น e-wallet ในไทย พัฒนาไปสู่แพลตฟอร์มที่ครบวงจรมากขึ้น ไม่ใช่แค่การ “จ่ายเงิน” แต่รวมถึงการลงทุนขนาดเล็ก (Micro Investment), การออมอัตโนมัติ (Auto Saving), และการใช้คะแนนแทนเงินสด
เมื่อเทคโนโลยี Blockchain และ AI ถูกนำมาใช้มากขึ้น ระบบ e-wallet จะกลายเป็นหัวใจของการทำธุรกรรมทุกรูปแบบ ทั้งภาคเอกชนและภาครัฐ
e-wallet ในไทย ได้ก้าวสู่จุดเปลี่ยนสำคัญจาก “เครื่องมือจ่ายเงิน” ไปสู่ “ระบบเศรษฐกิจดิจิทัลเต็มรูปแบบ” ที่คนไทยทุกคนเข้าถึงได้ง่าย รวดเร็ว และปลอดภัย
ไม่ว่าจะเป็น TrueMoney, LINE Pay, ShopeePay หรือแม้แต่ผู้เล่นใหม่อย่าง ACU PAY Application ก็ล้วนมีบทบาทสำคัญในการขับเคลื่อนประเทศไทยไปสู่สังคมไร้เงินสดอย่างแท้จริง
ให้ทุกเรื่องการเงินเป็นเรื่องง่าย เริ่มต้นวันดีๆ ไปกับเรา MAKE A GREAT DAY WITH ACU PAY
