fbpx
Search
Close this search box.

AI หรือเศรษฐกิจ? 218 บริษัทเทคฯ ปลดพนักงาน 1.12 แสนคน

ปลดพนักงานเทค, เลิกจ้างบริษัทเทค, ผลกระทบเศรษฐกิจ, AI แทนแรงงาน

            ในโลกที่เทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI) ถูกมองว่าเป็นคลื่นลูกใหม่แห่งการเติบโตที่ไร้ขีดจำกัด กลับมีตัวเลขที่น่าตกใจสะท้อนถึงความผันผวนครั้งใหญ่ในอุตสาหกรรมเทคฯ เมื่อมีรายงานว่าในช่วงเวลาไม่กี่เดือน มีบริษัทเทคโนโลยีถึง 218 แห่งที่ประกาศปลดพนักงานรวมกันกว่า 112,000 คน คำถามสำคัญที่เกิดขึ้นในใจของคนทำงานและนักลงทุนคือ นี่คือสัญญาณเตือนของภาวะเศรษฐกิจถดถอยที่กำลังคืบคลานเข้ามา หรือเป็นเพียงการปรับโครงสร้างครั้งใหญ่เพื่อทุ่มทรัพยากรไปสู่การแข่งขันด้าน AI กันแน่

       

การปลดพนักงานครั้งนี้ไม่ได้จำกัดอยู่แค่สตาร์ทอัพขนาดเล็ก แต่ลุกลามไปถึงยักษ์ใหญ่ของวงการที่กำลังทำกำไรมหาศาลอย่าง Google, Meta และ Microsoft ซึ่งกำลังแข่งขันกันอย่างดุเดือดเพื่อครองความเป็นผู้นำด้าน AI โดยภาพรวมของสถานการณ์การเลิกจ้างในอุตสาหกรรมเทคโนโลยีในปัจจุบัน สามารถจำแนกโดยสังเขปได้ดังนี้

  • ตัวเลขการเลิกจ้างยังคงสูง: ในปี 2025 มีบริษัทเทคฯ กว่า 218 แห่งที่ปลดพนักงานไปแล้วกว่า 112,000 คน
  • การปรับโครงสร้างเชิงกลยุทธ์: การเลิกจ้างไม่ใช่แค่การลดต้นทุนธรรมดา แต่เป็นการปรับทัพเพื่อจัดสรรทรัพยากรใหม่ โดยย้ายการลงทุนจากกำลังคนไปยังโครงสร้างพื้นฐานด้าน AI
  • AI คือปัจจัยสำคัญ: บริษัทหลายแห่งยอมรับว่าการนำ AI และระบบอัตโนมัติมาใช้ ทำให้บางตำแหน่งงานไม่จำเป็นอีกต่อไป และมีการจัดลำดับความสำคัญของบทบาทที่เกี่ยวข้องกับ AI มากขึ้น
  • ผลพวงจากการจ้างงานเกินขนาดช่วงโควิด: บริษัทเทคฯ หลายแห่งจ้างงานเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วในช่วงการระบาดใหญ่ และตอนนี้กำลังปรับขนาดองค์กรให้กลับสู่สภาวะปกติ
  • แรงกดดันทางเศรษฐกิจ: ความไม่แน่นอนของเศรษฐกิจโลก อัตราเงินเฟ้อ และอัตราดอกเบี้ยที่สูงขึ้น ทำให้บริษัทต่างๆ ต้องรัดเข็มขัดและเพิ่มประสิทธิภาพการดำเนินงาน
  • การเปลี่ยนผ่านทักษะ: แม้จะมีการปลดคนในตำแหน่งเดิม แต่ความต้องการแรงงานที่มีทักษะเฉพาะทางด้าน AI, แมชชีนเลิร์นนิง, และวิทยาศาสตร์ข้อมูลกลับเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง 

 

จากข้อมูลข้างต้น แนวโน้มจะส่งผลต่อการจ้างงานของบริษัทเทคฯ ในอนาคตอย่างมีนัยสำคัญ ดังนี้

  • ความต้องการทักษะ AI พุ่งสูงขึ้น: ตำแหน่งงานที่เกี่ยวข้องกับการพัฒนา AI, วิทยาศาสตร์ข้อมูล (Data Science), และวิศวกรรมแมชชีนเลิร์นนิง (ML Engineering) จะเป็นที่ต้องการอย่างมากและมีค่าตอบแทนสูง
  • การจ้างงานซ้ำซ้อนจะลดลง: บริษัทต่างๆ จะระมัดระวังในการจ้างงานมากขึ้น และมุ่งเน้นไปที่บทบาทที่มีความสำคัญเชิงกลยุทธ์ต่อเป้าหมายหลักขององค์กร
  • การปรับทัพองค์กร: บริษัทเทคฯ จะมุ่งเน้นการจัดโครงสร้างองค์กรให้มีความคล่องตัวมากขึ้น และใช้ประโยชน์จากระบบอัตโนมัติที่ขับเคลื่อนด้วย AI เพื่อทดแทนงานบางอย่าง
  • การเปลี่ยนผ่านด้านทักษะ (Skill Transition): การพัฒนาทักษะใหม่ (Reskilling) และการยกระดับทักษะ (Upskilling) จะกลายเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับพนักงานปัจจุบัน เพื่อให้สามารถทำงานร่วมกับเทคโนโลยี AI ได้
  • การจ้างงานแบบยืดหยุ่น (Gig Economy): อาจมีการจ้างงานแบบสัญญาจ้างหรือฟรีแลนซ์มากขึ้นสำหรับโครงการ AI เฉพาะทาง เพื่อความยืดหยุ่นในการบริหารจัดการต้นทุน

         ในปี 2025 อุตสาหกรรมเทคฯ กำลังอยู่ในช่วงเปลี่ยนผ่านครั้งใหญ่ ผู้ที่สามารถปรับตัวและพัฒนาทักษะให้สอดคล้องกับความต้องการของตลาดใหม่นี้ได้เท่านั้นที่จะอยู่รอดและเติบโตในยุคที่เทคโนโลยีเข้ามามีบทบาทในทุกอณูของธุรกิจต่อไปในอนาคต

ผู้เขียน

Picture of ACU PAY Thailand

ACU PAY Thailand

ให้ทุกเรื่องการเงินเป็นเรื่องง่าย เริ่มต้นวันดีๆ ไปกับเรา MAKE A GREAT DAY WITH ACU PAY

บทความที่เกี่ยวข้อง

เพื่อนๆ สามารถติดตาม ACU PAY Thailand ผ่านช่องทางการติดตามอื่นๆ ได้ที่