fbpx
Search
Close this search box.

การจ่ายเงินไร้เงินสด: Cashless Payment ในชีวิตประจำวัน

การจ่ายเงินไร้เงินสด

          ในโลกยุคดิจิทัลที่เทคโนโลยีเข้ามามีบทบาทในชีวิตประจำวัน หนึ่งในการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ที่เห็นชัดคือการเข้าสู่ สังคมไร้เงินสด (Cashless Society) ซึ่งหมายถึงการใช้จ่ายและทำธุรกรรมทางการเงินโดยไม่ต้องพกเงินสดอีกต่อไป การซื้อสินค้า การจ่ายบิล หรือแม้แต่การโอนเงินทำได้ง่ายเพียงปลายนิ้ว ผ่านบัตรเครดิต บัตรเดบิต แอปพลิเคชันธนาคาร หรือกระเป๋าเงินอิเล็กทรอนิกส์ (e-Wallet) ที่ทุกวันนี้กลายเป็นสิ่งใกล้ตัวแทบทุกคน

ปัจจัยขับเคลื่อนการใช้จ่ายแบบดิจิทัลในไทย

          การเปลี่ยนแปลงนี้ไม่ได้เกิดขึ้นชั่วข้ามคืน แต่ค่อย ๆ พัฒนาไปพร้อมกับโครงสร้างพื้นฐานทางดิจิทัลที่ดีขึ้น เมื่อก่อนการใช้อินเทอร์เน็ตเพื่อทำธุรกรรมยังเป็นเรื่องที่หลายคนกังวล เพราะความเร็วและความปลอดภัยไม่เพียงพอ แต่ปัจจุบันด้วยสมาร์ทโฟนที่แพร่หลาย อินเทอร์เน็ตที่ครอบคลุม และระบบการชำระเงินที่ได้มาตรฐาน ทำให้การใช้เงินสดลดน้อยลงอย่างชัดเจน

          ตัวอย่างที่เห็นได้คือร้านค้าเล็ก ๆ หรือแม้แต่รถเข็นริมทางก็สามารถติดป้าย QR Code ให้ลูกค้าสแกนจ่ายได้อย่างสะดวก ซึ่งสะท้อนว่าพฤติกรรมการใช้จ่ายของคนไทยกำลังเปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง ในระดับโลก หลายประเทศได้ก้าวเข้าสู่สังคมไร้เงินสดอย่างจริงจัง เช่น สวีเดนที่มีการใช้เงินสดไม่ถึง 4% ของการทำธุรกรรมทั้งหมด หรือจีนที่การสแกน QR Code ผ่านแอปฯ กลายเป็นเรื่องปกติในชีวิตประจำวัน แนวโน้มเหล่านี้ชี้ว่าประเทศไทยเองก็กำลังมุ่งหน้าไปในทิศทางเดียวกัน

ข้อดีและข้อระวังของสังคมไร้เงินสด

          ข้อดีของสังคมไร้เงินสดมีหลายด้าน ทั้งความสะดวก รวดเร็ว ลดความเสี่ยงจากการพกเงินสด ลดโอกาสการทอนผิดหรือเงินหาย รวมถึงช่วยให้ผู้คนสามารถตรวจสอบและจัดการค่าใช้จ่ายได้ง่ายขึ้น อีกทั้งยังมีผลดีต่อเศรษฐกิจในภาพรวม เพราะการทำธุรกรรมแบบดิจิทัลสามารถกระตุ้นนวัตกรรมใหม่ ๆ และลดต้นทุนการจัดการเงินสด เช่น ค่าใช้จ่ายในการพิมพ์ธนบัตรหรือค่าขนส่งเงินสด นอกจากนี้ยังเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมเพราะลดการใช้กระดาษและพลาสติกในระบบการเงินแบบเดิม

          อย่างไรก็ตาม การเข้าสู่สังคมไร้เงินสดก็ไม่ได้มีแต่ด้านบวกเท่านั้น ยังมีข้อควรระวังที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ เช่น ความเสี่ยงจากการโจมตีทางไซเบอร์หรือการหลอกลวงออนไลน์ ความฟุ่มเฟือยจากการใช้จ่ายที่ง่ายเกินไป ตลอดจนความเหลื่อมล้ำทางดิจิทัลที่อาจเกิดขึ้นกับกลุ่มผู้สูงอายุหรือคนที่อยู่ในพื้นที่ห่างไกลซึ่งไม่สามารถเข้าถึงเทคโนโลยีได้อย่างทั่วถึง

          อีกทั้งยังมีปัญหาเรื่องความเสถียรของระบบ หากอินเทอร์เน็ตล่มหรือแอปพลิเคชันขัดข้อง ก็อาจทำให้เกิดความไม่สะดวกในการใช้ชีวิตประจำวันได้เช่นกันทุกวันนี้ รูปแบบการจ่ายเงินไร้เงินสดมีความหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นการโอนเงินผ่านระบบ PromptPay การใช้ Mobile Banking การชำระผ่าน e-Wallet เช่น TrueMoney Wallet หรือ LINE Pay ไปจนถึงการใช้บัตรเครดิตและบัตรเดบิตที่มีระบบรักษาความปลอดภัยและสิทธิพิเศษต่าง ๆ สิ่งสำคัญคือผู้ใช้งานควรเลือกช่องทางที่เหมาะสมกับตนเอง รู้จักควบคุมการใช้จ่าย และระมัดระวังด้านความปลอดภัย เพื่อให้การใช้ชีวิตในสังคมไร้เงินสดเกิดประโยชน์สูงสุด

          ในอนาคต เทคโนโลยีใหม่ ๆ อย่างบล็อกเชนและเงินดิจิทัล (Cryptocurrency) อาจเข้ามามีบทบาทมากขึ้น เพิ่มทั้งความปลอดภัย ความโปร่งใส และประสิทธิภาพในการทำธุรกรรม ซึ่งจะยิ่งทำให้โลกก้าวล้ำไปอีกขั้นของการเงินดิจิทัล ดังนั้น สังคมไร้เงินสดไม่ใช่เพียงกระแสชั่วคราว แต่เป็นทิศทางสำคัญที่ทุกประเทศ รวมถึงประเทศไทย กำลังมุ่งหน้าไป และสิ่งที่ผู้คนควรทำคือเรียนรู้ ทำความเข้าใจ และปรับตัวให้พร้อมกับความเปลี่ยนแปลงนี้ เพื่อก้าวเข้าสู่อนาคตทางการเงินที่มั่นคงและยั่งยืน

อ้างอิงจาก

merkle.capital

library.parliament.go.th

ผู้เขียน

Picture of ACU PAY Thailand

ACU PAY Thailand

ให้ทุกเรื่องการเงินเป็นเรื่องง่าย เริ่มต้นวันดีๆ ไปกับเรา MAKE A GREAT DAY WITH ACU PAY

บทความที่เกี่ยวข้อง

เพื่อนๆ สามารถติดตาม ACU PAY Thailand ผ่านช่องทางการติดตามอื่นๆ ได้ที่