Menu
ทุกอย่างย่อมมี2ด้านเสมอ แม้แต่ E-wallet หรือ ePaymet ที่คนไทยเรียกว่า “สังคมไร้เงินสด” หรือ “Cashless Society” ก่อนอื่นมาดูก่อนว่า สังคมไร้เงินสด คืออะไร คือการเปลี่ยนแปลงของสังคมในภาพใหญ่ที่จากเดิมต้องพกเงินสดออกจากบ้านหรือกดจากตู้ ATM ทุกครั้ง แต่พอมาเป็น “สังคมไร้เงินสด” เราจะไม่ต้องพึ่งตู้ ATM ให้เสียค่าธรรมเนียมหรือพกแบงค์ต่างๆออกจากบ้าน แต่ก็สามารถจับจ่ายซื้อของ หรือชำระค่าบริการต่าง ๆ ได้ ด้วยช่องอื่นๆ หนึ่งในนั้นคือ E-wallet (กระเป๋าสตางค์อิเล็กทรอนิกส์) จะมีข้อดีอะไร และมีข้อที่ควรระวังอะไรบ้างลองมาดูกัน
ในส่วนของผู้จ่ายหรือผู้ใช้งาน ถ้าหากเรา ไปเที่ยวต่างประเทศหรือแม้ไปเที่ยวในประเทศคนเดียวก็ตาม การพกเงินสดเป็นจำนวนมากก็อาจไม่ใช่เรื่องดีเท่าไหร่นัก แต่หากใช้บริการจ่ายเงินผ่านแอพแทน ก็ทำให้เราสามารถซื้อของที่ไหนก็ได้ โดยไม่ต้องกังวลเรื่องความปลอดภัยในการพกเงินจำนวนมากๆ
ในส่วนของผู้รับ ถ้าหากเราเป็นร้านค้าต่างๆที่รับชำระ ไม่ต้องกังวล เรื่องธนบัตรปลอม ชำรุด จ่ายไม่ครบหรือแม้กระทั่งกระหลอกลวงต่างๆ เช่นบอกว่าชำระสินค้าแล้ว ทั้งที่จริงยังไม่ได้ชำระ ด้วยการรับชำระผ่าน E-Wallet ที่จะเก็บประวัติการทำธุกรรมต่างๆไว้ทำให้เราสามารถตวรจสอบได้ทันที ทั้งยังเป็นการลดโอกาสที่จะถูกลูกจ้างโกงหรือทอนเงินผิดอีกด้วย ลดปัญหาเรื่องโจรกรรม และความเสี่ยงจากการถือเงินสดได้ด้วย
การทำธรุกรรมผ่าน e-wallet นั้น เร็วกว่าและสะดวกกว่า แค่แสกนจ่ายผ่าน QR code ใช้จ่ายได้ทุกที ทุกเวลา ไม่ต้องพกเงินสดให้ยุ่งยาก แถมลดความผิดพลาดในการกรอกข้อมูลการทำรายการอีกด้วย
เพื่อเป็นการส่งเสริมการก้าวเข้าสู่สังคมไร้เงินสด ผู้ให้บริการส่วนใหญ่ e-wallet จะมีโปรโมชันและการสะสมแต้มต่างๆ เป็นสิทธิพิเศษให้กับผู้ใช้งาน ทำให้เราสามารถชำระกับร้านค้า หรือร้านอาหารต่างๆได้ถูกลง หรือราคาเท่าเดิมแต่ได้สินค้ามากขึ้น
เปรียบเหมือนกับที่คุณแม่บ้านให้เงินคุณพ่อบ้านไปทำงานในแต่ละวัน ซึ่งเราเติมเข้า E-Walletเท่าไหร่เราก็จะสามารถใช้จ่ายได้เท่านั้น แถมยังมีฟังก์ชันที่สามารถจำแนกค่าใช้จ่ายต่างๆและตรวจสอบได้ว่าใช้้จ่ายเท่าไหร่เพื่อให้ง่ายต่อการควบคุมการใช้จ่าย
1.ระวังการตั้งรหัส PIN/Password ที่ง่ายต่อการคาดเดา และต้องเก็บรักษา User ID และ Password ให้เป็นความลับส่วนบุคคล แนะนำให้เปลี่ยน Password เป็นระยะอย่างต่อเนื่อง
2. ก่อนlogin User ID และ Password ควรตรวจสอบให้แน่ใจก่อนทุกครั้งว่าเป็นแอพหรือเว็บไซต์ของผู้ให้บริการจริงๆหรือไม่
3.เลือกใช้บริการ E-wallet ที่มีความน่าเชื่อถือและได้รับอนุญาตในให้บริการ
แม้เราจะควบคุมการใช้จ่ายได้ง่ายว่าชำระค่าอะไรบ้าง แต่การควบคุมตัวเองไม่ให้ใช้จ่ายจนเกินตัวเป็นเรื่องสำคัญ อย่าลืมแบ่งสัดส่วนรายจ่ายให้เหมาะสมกับตัวเราเองด้วยนะครับ
ปัจจุบันในโลกของเทคโนโลยีมีการพัฒนาที่สูงมากทั้งในด้านการใช้งาน และด้านความปลอดภัยเพื่อป้องกันการโจรกรรมในรูปแบบต่างๆ และผู้ให้บริการต้องได้รับใบอนุญาตจากภาครัฐในการดำเนินการ และถูกตรวจสอบอย่างเข้มงวด ดังนั้น ให้ส่วนของผู้ใช้งานจึงสามารถมั่นใจได้ว่า ทรัพย์หรือเงินของเราใน E-Wallet ไม่สูญหายไปอย่างแน่นอน
