fbpx
Search
Close this search box.

แบงก์ชาติ เตรียมทดสอบ “เงินบาทดิจิทัล”

กับ “ธนาคารกรุงศรี” “SCB” “2C2P” ในกลุ่มผู้ใช้งานประมาณ 10,000 ราย

แบงก์ชาติ เตรียมทดสอบ “เงินบาทดิจิทัล”
สารบัญ

        “เงินบาทดิจิทัล” คือเงินที่เราใช้ในปัจจุบันแค่จะถูกแปลงสภาพไปอยู่ในรูปแบบดิจิทัล ไม่ว่าเป็นแบงก์หรือเหรียญ ซึ่งจะมีมูลค่าหรือคุณสมบัติ ความเสถียรภาพเหมือนกับเงินบาท และเป็นสกุลเงินที่ออกโดยธนาคารกลาง (CBCD : Central Bank Digital Currency)

        ซึ่งในอนาคตมีโครงการที่จะนำมาใช้ทำธุรกรรมระหว่างสถาบันการเงิน Wholesale CBDC และใช้ในภาคธุรกิจ และประชาชน(Retail CBDC)อีกด้วย

         ทางด้านคุณวชิรา อารมย์ดี รองผู้  ว่าการ ด้านบริหาร ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยว่า การพัฒนาสกุลเงินดิจิทัลที่ออกโดยธนาคารกลางเพื่อให้ประชาชนใช้งาน (Retail Central Bank Digital Currency: Retail CBDC) เป็นเรื่องที่ธนาคารกลางทั่วโลกให้ความสนใจ และอยู่ระหว่างศึกษาและพัฒนา เนื่องจากมีศักยภาพที่จะช่วยพัฒนาระบบการเงินในอนาคต

        Retail CBDC คืออะไร Retail CBDC เปรียบเสมือนธนบัตรที่เป็นเงินตราตามกฎหมายและออกโดย ธปท. เพียงแต่อยู่ในรูปแบบ “ดิจิทัล” การพัฒนา Retail CBDC นั้น ถือเป็นแนวทางหนึ่งในการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานทางการเงิน ซึ่งมีศักยภาพที่จะยกระดับการชำระเงินให้มีประสิทธิภาพ รวดเร็ว เข้าถึงได้สะดวก รวมถึงโอกาสในการรองรับการเขียนโปรแกรม (Programmability) บน Retail CBDC ซึ่งจะช่วยให้ผู้ให้บริการทางการเงินสามารถพัฒนานวัตกรรมต่อยอดบน Retail CBDC และเชื่อมโยงกับผู้ให้บริการรายอื่นได้รวดเร็ว ต้นทุนต่ำ ซึ่งจะช่วยให้เกิดบริการทางการเงินใหม่ๆ ที่ตอบโจทย์ผู้ใช้บริการทั้งประชาชน ภาคธุรกิจ และหน่วยงานภาครัฐ ได้ดียิ่งขึ้น

         และยังเปิดเผยว่า ธปท. เป็นธนาคารกลางแรก ๆ ที่เล็งเห็นถึงศักยภาพและความสำคัญของ CBDC ที่จะเป็นโครงสร้างพื้นฐานทางการเงิน ที่จะช่วยเพิ่มโอกาสให้ภาคธุรกิจและประชาชนเข้าถึงบริการทางการเงินที่สะดวกสบายและมีความหลากหลายมากขึ้น พร้อมกับต้นทุนที่ลดลง นอกจากโครงการ Wholesale CBDC ต่าง ๆ  และการทดสอบ Retail CBDC ร่วมกับภาคธุรกิจในห้องปฏิบัติการ (Proof of Concept) แล้ว ธปท. ยังเห็นความจำเป็นที่จะขยายขอบเขตการศึกษาและพัฒนา Retail CBDC ไปสู่การใช้งานจริงในวงจำกัด (Pilot) ร่วมกับภาคเอกชน เพื่อประเมินถึงประโยชน์และความเสี่ยง รวมทั้งกำหนดนโยบายและปรับปรุงการออกแบบ CBDC ในอนาคต โดยแผนการทดสอบ Retail CBDC ระยะ pilot นี้ แบ่งเป็น 2 ส่วนหลัก คือ

  1. การทดสอบระดับพื้นฐาน (Foundation track) เพื่อประเมินประสิทธิภาพและความปลอดภัยของระบบ รวมถึงรูปแบบของการนำเทคโนโลยีมาใช้งานจริงกับประชาชนรายย่อย โดยจะทดสอบการนำมาใช้ชำระค่าสินค้าบริการในพื้นที่เฉพาะ และในกลุ่มผู้ใช้งานประมาณ 10,000 ราย ที่กำหนดโดย ธปท. และภาคเอกชนที่ร่วมทดสอบ 3 ราย  ได้แก่ ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) และบริษัท ทูซีทูพี (ประเทศไทย) จำกัด ซึ่งการทดสอบนี้จะนำเทคโนโลยีของบริษัท Giesecke+Devrient มาประยุกต์ใช้ โดยจะเริ่มตั้งแต่ช่วงปลายปี 2565 ไปจนถึงกลางปี 2566 
  2.  การทดสอบระดับนวัตกรรม (Innovation track) ด้านความสามารถในการเขียนโปรแกรม (Programmability) ซึ่งจะเอื้อให้เกิดการพัฒนานวัตกรรมต่อยอดบน Retail CBDC ทำให้เกิดบริการทางการเงินใหม่ ๆ ที่ตอบโจทย์ผู้ใช้บริการที่หลากหลาย และช่วยให้ ธปท. นำมาปรับปรุงการออกแบบ CBDC ที่เหมาะสมกับบริบทของไทยในอนาคต ทั้งนี้ ธปท. จะเปิดให้ภาคเอกชนและบุคคลทั่วไปเข้าร่วมนำเสนอรูปแบบทางธุรกิจ (Use cases) ในการพัฒนาต่อยอด Retail CBDC ผ่านโครงการ “CBDC Hackathon” ซึ่งผู้สนใจสามารถสมัครเข้าร่วมได้ระหว่างวันที่ 5 สิงหาคม – 12 กันยายน 2565 โดยทีมหรือผู้ที่ได้รับคัดเลือกให้เข้ารอบ จะได้รับคำปรึกษา (Mentoring) จากสถาบันการเงินที่มีความเชี่ยวชาญและมีประสบการณ์ในโครงการอินทนนท์5 (ติดตามรายละเอียดได้จากเว็บไซต์ ธปท.)
 

        อย่างไรก็ตามธปท. ขอย้ำว่าการทดสอบ Retail CBDC นี้ เป็นส่วนหนึ่งของการศึกษาและพัฒนา Retail CBDC เพื่อประเมินความเหมาะสมของเทคโนโลยีและการออกแบบ รวมถึงการนำไปต่อยอดบริการให้กับประชาชน โดย ธปท. ยังไม่มีแผนที่จะออก Retail CBDC เนื่องจากการออก CBDC ต้องพิจารณาประโยชน์และความเสี่ยงอย่างรอบด้านก่อน เพราะอาจส่งผลต่อระบบการเงินของประเทศได้

         นอกจากนี้ ธปท. ขอเตือนประชาชนให้ระมัดระวังการแอบอ้างในรูปแบบต่าง ๆ ว่าสามารถให้บริการ Retail CBDC ได้ หรือหลอกให้ลงทุนใน Retail CBDC ของ ธปท. เนื่องจากการทดสอบนี้ จะจำกัดอยู่ในกลุ่มผู้ใช้งานที่ถูกระบุไว้ก่อนแล้วเท่านั้น 

ที่มา : bot

บทความที่เกี่ยวข้อง

เพื่อนๆสามารถติดตาม ACU PAY Thailand ผ่านช่องทางการติดตามอื่นๆ ได้ที่