Menu
จะเป็นอย่างไรหากร้านข้างๆ หรือคู่แข่งทางธุรกิจของเรา สามารถที่จะรับชำระเงินได้ทุกรูปแบบ ทั้ง บัตรเครดิต บัตรเดบิต QR Payment e-Wallet หรือแม้แต่พร้อมเพย์ จากช่วงที่ผ่านเราอาจจะพอสังเกตเห็นได้บ้างจากโครงการคนละครึ่งของรัฐที่บางร้านใช้จนช่วยทำให้ยอดขายเพิ่มขึ้น และบางร้านที่ไม่ใช้อาจทำให้เสียโอกาสในการขายได้
ธนาคารแห่งประเทศไทยเผยว่า พฤติกรรมการชำระเงินของคนไทย ระบุว่าการจ่ายและรับเงินผ่าน e-Payment มีอัตราเพิ่มขึ้นเป็นอย่างมาก โดยมีจำนวนการทำธุรกรรมผ่านอินเทอร์เน็ต และ Mobile Banking ที่ขยายตัวสูงกว่า 72% ส่วนการใช้งานผ่านพร้อมเพย์มีจำนวนสูงถึง 16.3 ล้านรายการต่อวัน (ข้อมูล ณ เดือนเมษายน 2563) และคาดการณ์ว่าธุรกรรม e-Payment จะยังคงเติบโตแบบก้าวกระโดดอย่างต่อเนื่อง ตอบรับกับกระแสสังคมไร้เงินสด ดังนั้นเราลองมาดูกันครับว่าการนำการชำระเงินรูปแบบ e-Payment เมื่อนำมาใช้กับธุรกิจแล้ว จะส่งผลดีกับธุรกิจอย่างไรบ้าง
หลายๆ คนคงเคยได้จ่าย หรือรับชำระผ่านระบบออนไลน์กันมาบ้างพอสมควร ไม่ว่าจะเป็นการจ่ายเงินหรือรับเงินผ่าน e-Payment กันมากขึ้น รวมไปถึงการโอนเงินข้ามบัญชี การจ่ายค่าโทรศัพท์ การใช้จ่ายในเรื่องสาธารณูปโภค เช่น ค่าน้ำ ค่าไฟ ต่างๆ ดังนั้น ผู้ประกอบการหายกังวลในเรื่องความเข้าใจเกี่ยวกับขั้นตอนการโอนเงินต่าง ๆ ของผู้บริโภคได้เลย
ถ้าพูดถึงในมุมมองของการทำธุรกิจหรือร้านค้าเอง การจ่ายเงินและรับเงินผ่าน e-Payment มีข้อดีเป็นอย่างมาก ไม่ว่าเป็นเรื่องความรวดเร็วในการได้รับเงิน ความสะดวกในการจัดการ เช่นเดียวหากผู้ประกอบการนำช่องทางจ่ายเงินด้วย e-Payment ในรูปแบบต่าง ๆ มาใช้ ก็จะเพิ่มความสะดวกให้ลูกค้าสามารถโอนเงินได้ทุกที่ ทุกเวลา จึงเป็นการสร้างโอกาสทางธุรกิจ ขยายฐานลูกค้า ไปอย่างกว้างขว้างโดยไม่ต้องลงทุนสูง
การใช้จ่าย หรือทำธุรกรรมต่างๆ ผ่าน e-Payment ไม่ว่าจะเป็นการรับเงิน หรือโอนเงิน จะมีการเก็บประวัติโดยอัตโนมัติ และสามารถตรวจสอบได้อย่างทันท่วงทีจากหลักฐานการทำธุรกรรม ดังนั้นเราจึงไม่ต้องกังวลเรื่องความปลอดภัยว่าการใช้จ่ายของเราแต่ละครั้งว่าเงินจะสูญหาย ถูกโจรกรรมหรือไม่
ในช่วงระยะเวลาที่ผ่านมาจะเป็นได้ว่ารัฐบาลเองก็มีการสนับสนุน และนำการชำระเงินผ่าน e-Payment มาใช้ในหลายๆหน่วยงาน ไม่ว่าจะเป็นการชำระภาษีผ่าน e-Payment หรือแม้แต่โครงการคนละครึ่งที่ทำผ่านแอปพลิเคชันเป๋าตังค์เองก็ตาม นอกจากจะช่วยประชาชนแล้ว ยังช่วยลดต้นทุนในการจัดการเงินสดที่มีต้นทุนประมาณ 50,000 ล้านบาทต่อปี รวมถึงลดโอกาสที่จะเกิดการโจรกรรม หรืออาชกรรมที่คาดไม่ถึงด้วยเช่นกัน
ในอีกไม่กี่ปีข้างหน้าผู้บริโภคเองมีแนวโน้มที่จะลดการใช้เงินสดมากขึ้น จนเราอาจจะได้เห็นภาพที่หลายๆคนไม่พกเงินสดเลย อย่างในหลายๆประเทศที่มีการใช้ e-Payment เกือบจะ 100% อย่างประเทศสวีเดน และประเทศจีน ดังนั้นการที่ผู้ประกอบการอาจจะไม่ต้องจำเป็นที่ต้องมานับเงินสด หรือเสียเวลาสรุปยอดรายวัน ซึ่งไม่เพียงจะเป็นประโยชน์ต่อธุรกิจเองที่คล่องตัวมากขึ้น แต่ยังช่วยเรื่องการหมุนเวียนของเงินในระบบเศรษฐกิจที่มีความคล่องตัวและสะดวกรวดเร็วขึ้นอีกด้วย โดยไม่ต้องกังวลว่าเงินจะไปตกหล่นที่ไหนเพราะการชำระเงินผ่าน e-Payment จะง่ายต่อการจัดทำบัญชี เพิ่มความโปร่งใสในการจ่ายเงิน รับเงิน และการชำระภาษี
จะเห็นได้ว่า ผู้ประกอบการไม่ว่าจะเป็นธุรกิจออนไลน์ หรือออฟไลน์ แบบมีหน้าร้านเองก็สามารถทำใช้ หรือรับชำระเงินผ่านช่องทาง e-Payment ต่างๆได้ และที่สำคัญไม่จำเป็นที่จะต้องเลือกบริการใด บริการหนึ่งอีกด้วย เพราะเราสามารถที่จะรับชำระได้หลากหลายช่องทาง เพื่อเป็นการเพิ่มโอกาสในการขาย และอำนวยความสะดวกให้กับลูกค้าได้อีกด้วย
