Menu
เข้าแล้วออกยาก! ใครเคยเป็นเหมือนกันบ้าง เคยใช้ของแบรนด์ๆนึงอยู่ พอวันหนึ่งมาเปลี่ยนใช้อีกแบรนด์รู้สึกเข้ากันไม่ได้ เช่นใช้โทรศัพท์มือถือแอนดรอยด์มาทั้งชีวิต พอวันหนึ่งจะตัดสินใจเปลี่ยนมาใช้ IOS ก็ทำใจลำบาก เพราะตัวเองไม่ถนัด บอกเลยว่าวงการอะไรแบบนี้มักจะเข้าง่ายออกยากเมื่อใช้จนชินและคุ้นเคยไปแล้วหรือจะเรียกง่ายๆว่า ทาสแบรนด์นั้นเอง เดี๋ยวเรามาดูกันดีกว่าว่าหุ้นของแบรนด์ยอดฮิตจะมีอะไรบ้าง ใช่แบรนด์ที่คุณกำลังใช้อยู่หรือเปล่า และบอกเลยว่ารายได้ของแต่ละแบรนด์ แต่ละบริษัท ดุดัน ไม่เกรงใจใคร เอามากๆ จะเป็นยังไงไปดูกันเลย
เป็นธุรกิจเกี่ยวกับเทคโนโลยีที่ไม่มีใครไม่รู้จัก เป็นหนึ่งในผู้ที่บุกเบิกในการทำโซเซียลมีเดียชื่อดังผ่านแอปพลิเคชัน Facebook สำหรับใครที่เคยเป็นสายเกมออนไลน์อยู่บ่อยๆ จะคุ้นเคยกันอยู่แล้ว และในปัจจุบัน Meta ได้เติบโตอย่างรวดเร็วด้วยมูลค่า 2.92 แสนล้านเหรียญ ถึงแม้ช่วงหลังจะมีข่าวออกมาว่าราคาหุ้นตกอย่างไรก็ตาม จำนวนผู้ใช้งานต่อเดือนยังคงมากพอและเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ โดยมีผลตอบแทนตลอดระยะ 10 ปี เฉลี่ยปีละ 16.28 เปอร์เซ็น
เป็นธุรกิจเกี่ยวกับเทคโนโลยี เป็นแบรนด์ที่ผลิตไม่ว่าจะเป็น ไอโฟน ไอแพด Apple Watch หรือ AirPods เป็นต้น ด้วยนวัตกรรม และการดีไซน์ออกแบบที่ทันสมัยทำให้ผู้คนเลือกที่จะยอมจ่ายเงินไม่ว่าราคาจะแพงแค่ไหน โดยมูลค่าบริษัทประมาณ 2.35 ล้านล้านเหรียญ และมีผลตอบแทนในระยะ 10 ปี เฉลี่ยตกปีละ 22.66 เปอร์เซ็น
เป็นธุรกิจเกี่ยวกับการเงิน การลงทุน เป็นธุรกิจที่คุณอาจไปใช้บริการอย่างไม่รู้ตัว ลองหยิบบัตร ATM หรือบัตรเครดิตขึ้นมาดูจะมีโลโก้อยู่ตามมุมบัตรที่ระบุว่า Visa นั้นแหละค่ะคุณกำลังใช้บริการของ Visa อยู่ ซึ่ง Visa เป็นแพลตฟอร์มที่ให้บริการด้านการชำระเงิน โดยมูลค่าบริษัทของ Visa ประมาณ 4.35 แสนล้านเหรียญ และมีผลตอบแทนในระยะ 10 ปี เฉลี่ยตกปีละ 19.34 เปอร์เซ็น
เป็นธุรกิจเกี่ยวกับการเงินและการลงทุนเช่นกันกับ Visa และมีลักษณะคล้ายๆกับ Visa โดยจะมีลักษณ์ของ Mastercard บนบัตรเครดิตเช่นเดียวกัน เรียกได้ว่าเป็นคู่แข่งคู่แค้นกับ Visa ไปกันเลย โดยMastercard จะมีมูลค่าบริษัทอยู่ที่ 3.25 แสนล้านเหรียญ และมีผลตอบแทนในระยะ 10 ปี เฉลี่ยตกปีละ 21.95 เปอร์เซ็น
เป็นธุรกิจเกี่ยวกับเทคโนโลยี ที่ไม่ว่าใครต้องเคยใช้บริการ ยิ่งนักเรียน นักศึกษา หรือวัยทำงานอย่างเรานั้นต้องเคยสัมผัส ไม่ว่าจะเป็น Word , Excel , Powerpoint เป็นต้น Microsoft เป็นเทคโนโลยีที่ใช้สำหรับจัดเก็บข้อมูล โดยที่เราไม่ต้องจัดเก็บข้อมูลลงบนกระดาษที่หนาๆ โดยมูลค่าบริษัท Microsoft ประมาณ 1.80 ล้านล้านเหรียญ และมีผลตอบแทนในระยะ 10 ปี เฉลี่ยตกปีละ 25.40 เปอร์เซ็น
