Menu
ดร.ศุภวุฒิ สายเชื้อ จาก KKP ชี้ว่าเศรษฐกิจไทยปี 2568 จะฟื้นตัวแบบไม่ต่อเนื่อง โดยครึ่งปีแรกอาจได้แรงหนุนจากภาคการท่องเที่ยวและการส่งออก แต่ครึ่งปีหลังจะเริ่มอ่อนแรงลง เนื่องจากภาคการคลังเริ่มหมดแรงกระตุ้นขณะที่ภาคการเงินยังตึงตัวสูง กนง.อาจต้องหันกลับมาลดดอกเบี้ยเพื่อประคองเศรษฐกิจ
นายพิพัฒน์ เหลืองนฤมิตชัย แห่ง KKP ระบุว่าเศรษฐกิจไทยกำลังอยู่ในช่วง “ไหลลง” ทั้งจากปัจจัยระยะสั้น เช่นผลกระทบจากนโยบายของ “ทรัมป์ 2.0” และปัจจัยระยะยาวอย่างโครงสร้างเศรษฐกิจที่ล้าสมัย และการเข้าถึงสินเชื่อที่ถดถอยลงเรื่อยๆ
กสิกรไทยเปรียบเศรษฐกิจไทยปีนี้ว่า “คนป่วยพายเรือในมรสุม” ต้องเผชิญความวุ่นวายจากปัจจัยภายนอก เช่น ความไม่แน่นอนของสงคราม และนโยบายเศรษฐกิจโลก ขณะที่ภายในประเทศก็ยังไร้ภูมิคุ้มกันทางเศรษฐกิจ จึงจำเป็นต้องเร่งสร้างความแข็งแกร่ง จากภายใน และหาเครื่องยนต์ขับเคลื่อนใหม่ให้เร็วที่สุด
ดร.อมรเทพ จาวะลา จาก CIMB ไทย ให้ภาพปี 2568ว่าเป็น “ปีงูเลื้อยคดโค้ง” บนถนนที่เต็มไปด้วยแรงต้าน ทั้งเศรษฐกิจโลกที่เปลี่ยนแปลง และการพึ่งพาตลาดต่างประเทศที่มีความเสี่ยงสูง แม้จะมีแรงหนุนจากการลงทุนใน EV และแบตเตอรี่ แต่ปัญหากำลังซื้อที่อ่อนแอ และการแข่งขันจากจีนยังเป็นข้อจำกัดสำคัญ
นายสมประวิณ มันประเสริฐ จาก SCB EIC ระบุว่าเศรษฐกิจไทยกำลังเข้าสู่ภาวะ “ติดลบ” เชิงศักยภาพ โดยเศรษฐกิจโตไม่ถึงระดับที่ควรจะเป็น พร้อมเตือนว่าหากไม่เร่งปฏิรูปโครงสร้าง เราอาจจะต้องเผชิญกับ “โลกสองใบ” อย่างชัดเจนยิ่งขึ้น คือโลกของคนที่อยู่รอดกับโลกของคนที่ถูกทิ้งไว้ข้างหลัง ซึ่งไม่เพียงเป็นปัญหาเศรษฐกิจ แต่จะลุกลามสู่ปัญหาทางสังคมในอนาคต
ปี 2568 ยังไม่ใช่ปีแห่งการฟื้นตัวเต็มรูปแบบของเศรษฐกิจไทย แม้บางส่วนจะเริ่มเห็นแสงสว่าง แต่เศรษฐกิจโดยรวมยังอ่อนแรงจากปัจจัยภายนอกที่ผันผวน และโครงสร้างภายในที่เปราะบาง ภาครัฐจึงจำเป็นต้องเร่งหามาตรการเชิงรุก ทั้งในด้านการเงิน การคลัง และการปฏิรูปเชิงโครงสร้าง เพื่อไม่ให้เศรษฐกิจไทยไถลลงไปกว่านี้
ให้ทุกเรื่องการเงินเป็นเรื่องง่าย เริ่มต้นวันดีๆ ไปกับเรา MAKE A GREAT DAY WITH ACU PAY
