คนกลุ่มเบบี้บูมเมอร์ส่วนใหญ่มักจะคิดว่า คนเราเมื่อวัยหนุ่มสาวก็จะใช้จ่ายมากกว่ารายได้ เพื่อใช้ในการเรียน ซื้อบ้านหลังแรก จนวัยกลางคนก็เริ่มเก็บเงินเกษียณ พอวัยเกษียณก็ขายสินทรัพย์ต่าง ๆ เพื่อเลี้ยงชีพ แล้วทีนี้พอคนรุ่นนี้ถึงวัยเกษียณก็จะเจอกับอัตราดอกเบี้ยและอัตราเงินเฟ้อที่สูง เนื่องจากพอคนเกษียณแล้วจะใช้จ่ายอย่างอิสระ ทำให้อุปสงค์ต่อสินค้าเพิ่มขึ้นจนเกิดเงินเฟ้อ และในขณะเดียวกัน การนำเงินออกมาใช้มากกว่าการเก็บออมลงทุน ส่งผลให้ทางการเงินไม่ค่อยมีความคล่องตัวต้องใช้เงินส่วนต่าง ๆ มาทดเเทนส่วนที่เสียเกินกว่าเหตุไป
เมื่อลองมองดูตัวอย่างจากประเทศอิตาลีและญี่ปุ่น ประเทศที่เต็มไปด้วยประชากรสูงอายุ ก็พบว่าอัตราเงินเฟ้อต่ำและอัตราดอกเบี้ยก็ต่ำมาหลายปีแล้ว
งานวิจัยของนักเศรษฐศาสตร์สองคนอย่าง Yoko Niimi และ Charles Horioka ชี้ให้เห็นว่าผู้สูงอายุชาวญี่ปุ่นนั้นใช้จ่ายเพียง 1-3% ของความมั่งคั่งต่อปี นั่นหมายความว่าหลาย ๆ คนจะจากไปพร้อมกับทรัพย์สมบัติมากมาย
หรืออย่างในอิตาลี งานวิจัยของ Luigi Ventura และ Horioka ก็พบว่า 40% ของคนสูงอายุที่เกษียณก็สะสมความมั่งคั่งต่อไป
ทำให้นักลงทุนมองว่าคนเบบี้บูมเมอร์เป็นกลุ่มคนที่ชอบเก็บเงินมากกว่าจะเป็นคนที่ใช้เงินสุรุ่ยสุร่าย คนรุ่นเบบี้บูมเมอร์บางส่วนก็เลือกที่จะลดขนาดบ้านลง ทำให้มีเงินเหลือไปใช้จ่ายอย่างอื่นในชีวิต เเละ ทำไมคนเบบี้บูมเมอร์ถึงใช้เงินน้อยกัน ?
นั่นก็เป็นเพราะคนยุคเบบี้บูมเมอร์ลังเลที่จะใช้จ่ายเงินที่เก็บมาอย่างเต็มที่ คาดว่ามาจาก 3 ปัจจัยหลัก ๆ นั้นก็คือ
คนรุ่นนี้รู้สึกว่าตัวเองโชคดีที่สามารถเก็บเงินจนมั่งคั่งได้ ก็เลยอยากส่งต่อมรดกให้ลูกหลาน ที่อาจต้องลำบากในการจะหาเงินซื้อบ้าน ค่าเล่าเรียน จากข้อมูลพบว่ากระแสเงินจากคนที่เสียชีวิตแล้วส่งต่อไปยังคนที่ยังอยู่ สูงขึ้นในกลุ่มประเทศที่ร่ำรวย อย่างในสหรัฐมีการรับมรดกในแต่ละปี มากกว่าในช่วง ทศวรรษ 1980-1990 ถึง 50%
จากโควิดที่เข้ามาทำให้พฤติกรรมคนเปลี่ยนไป คนเบบี้บูมเมอร์นั้นออกไปกินอาหารนอกบ้านน้อยลงกว่าก่อนเกิดโควิด ตลอดจนใช้จ่ายเพื่อซื้อประสบการณ์น้อยลงหลังจากเกิดโควิดจึงทำให้การใช้จ่ายลดลงไปอย่างเห็นได้ชัด
ด้วยความที่เทคโนโลยีก้าวหน้าจนคนอายุยืนกว่าในอดีต คนเบบี้บูมเมอร์บางคนอาจจะอายุเกิน 100 ปี นั่นหมายความว่าพวกเขาจะต้องใช้ชีวิตหลังเกษียณอีกเป็นเวลานาน ซึ่งอาจจะกลายเป็นภาระทางการเงินในอนาคตหลังเกษียณ โดยเฉพาะคนที่จำเป็นต้องได้รับการดูแลรักษาตลอด 24 ชั่วโมง จากการสำรวจพบว่าสัดส่วนของคนอเมริกันที่มั่นใจว่าตัวเองมีเงินเก็บเพียงพอสำหรับเกษียณ ลดลงจาก 40% ในช่วงกลางทศวรรษ 2000 เหลือเพียง 30% เพราะด้วยค่าใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้นเศรษฐกิจเรื่องเงินที่เฟ้อมากยิ่งขึ้น
ถึงแม้ว่าคนเบบี้บูมเมอร์ในประเทศร่ำรวยจะมีความมั่งคั่งสูง และเน้นการเก็บออมเพื่ออนาคต ทำให้สิ่งที่นักเศรษฐศาสตร์คาดการณ์ผลกระทบต่อเศรษฐกิจและการเติบโตของตลาดอาจจะไม่ได้เหมือนเมื่อก่อนอีกต่อไปเเละมีการคาดเคลื่อนในเศรษฐกิจในปัจจุบัน
ให้ทุกเรื่องการเงินเป็นเรื่องง่าย เริ่มต้นวันดีๆ ไปกับเรา MAKE A GREAT DAY WITH ACU PAY
Cookie | Duration | Description |
---|---|---|
cookielawinfo-checkbox-analytics | 11 months | This cookie is set by GDPR Cookie Consent plugin. The cookie is used to store the user consent for the cookies in the category "Analytics". |
cookielawinfo-checkbox-functional | 11 months | The cookie is set by GDPR cookie consent to record the user consent for the cookies in the category "Functional" |
cookielawinfo-checkbox-necessary | 11 months | This cookie is set by GDPR Cookie Consent plugin. The cookies is used to store the user consent for the cookies in the category "Necessary". |
cookielawinfo-checkbox-others | 11 months | This cookie is set by GDPR Cookie Consent plugin. The cookie is used to store the user consent for the cookies in the category "Other". |
cookielawinfo-checkbox-performance | 11 months | This cookie is set by GDPR Cookie Consent plugin. The cookie is used to store the user consent for the cookies in the category "Performance". |
viewed_cookie_policy | 11 months | The cookie is set by the GDPR Cookie Consent plugin and is used to store whether or not user has consented to the use of cookies. It does not store any personal data. |