การยืมเงินเรียกได้ว่าเป็นปัญหาใหญ่ระดับชาติ เป็นปัญหาที่หนักอกหนักใจมากเมื่อถูกทักมา ไม่ว่าจะเป็นเพื่อน พี่น้อง ญาติ กับประโยชน์ “พอเงินให้ยืมหรือเปล่า” และบ้างครั้งให้ยืมไปเพราะความไว้ใจ แต่พอถึงเวลาใช้คืนแล้วคุณพระ!! แทบไหว้ แทบกราบ แต่ก็ไม่คืน ทวงแล้วทวงอีก บ้างคนไม่ได้ทำสัญญาการกู้ยืมเงินแบบจริงจังเพราะคิดถึงความไว้ใจกันและกัน แต่เพราะการให้ยืมเงินก็ทำเอาความสัมพันธ์ทั้งหลายแตกหักไม่เหลือสิ้นดี ใครที่กำลังเผชิญหน้าแบบนี้ต้องอ่าน!!!
ถึงเวลาที่เจ้าหนี้อยากเราต้องเป็นใหญ่จริงๆแล้ว ใครเป็นบ้างที่ทวงหนี้แล้วทวงหนี้อีกก็ไม่ได้คืน แต่ตอนมาของยืมพูดซะดิบดีว่าจะคืนวันนั้นวันนี้ และนี้ก็คืออีกหนึ่งสาเหตุที่ทำให้แตกหักความสัมพันธ์หลายครั้งต่อหลายครั้ง ถ้าหากเราต้องการไปแจ้งความ แต่เราไม่ได้ให้อีกฝ่ายเซ็นสัญญาการกู้เงินก็สามารถแจ้งความแต่เป็นเพียงการลงบันทึกประจำวันเท่านั้น เพื่อนำไปเป็นหลักฐานในการดำเนินคดีทางแพ่งได้เอง
ถึงแม้จะแจ้งความไม่ได้ แต่สามารถฟ้องศาลได้เพื่อเรียกเงินจากลูกหนี้ได้ โดยตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 653 วรรคหนึ่ง บัญญัติไว้ว่า การกู้ยืมเงิน 2,000 บาทขึ้นไป โดยใช้หลักฐานในการฟ้องศาลได้ 2 ประเภทคือ
โดยในหนังสือสัญญาการกู้ยืมเงินจะระบุชื่อสัญญา วันและเวลาในการทำสัญญารวมไปถึงรายละเอียดของผู้ให้กู้และผู้กู้อย่างละเอียด เช่น ชื่อจริง – นามสกุล , ที่อยู่ , เบอร์โทร , ข้อตกลงในวันคืนเงิน , จำนวนเงินที่กู้ยืมเงินทั้งหมด พร้อมทั้งลงนานลายเช็นของทั้งผู้ให้กู้และผู้กู้
ผู้กู้สามารถใช้หลักฐานการแชทไม่ว่าจะเป็น บทสนทนาระหว่างผู้กู้และผู้ให้กู้ทางโซเชียลมีเดีย , หลักฐานการโอนเงิน เป็นต้น ซึ่งหลักฐานเหล่านี้สามารถใช้ในการฟ้องศาลได้ตามพระราชบัญญัติว่าด้วยธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ พ.ศ. 2544
นอกจากนี้การหากเกิดกรณีที่ฟ้องศาลแล้ว แต่ลูกหนี้ยังไม่ชำระเงินตามกำหนดการตกลง อีกทั้งยังมีพฤติกรรมเกี่ยวกับการโอนย้ายทรัพย์สิน ขายทรัพย์ เพื่อหลีกเลี่ยงการใช้จ่ายหนี้อาจมีความผิดฐานทางอาญา มาตรา 350 โดยมีโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี หรือปรับไม่เกิน 40,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ทั้งนี้อายุการฟ้องร้องเรียกเงินตามสัญญาการกู้ยืมเงินมีอายุความ 10 ปี นับตั้งแต่วันที่ถึงกำหนดการชำระเงิน แต่ในกรณีที่ลูกหนี้ไม่สามารถชำระเงินคืนได้ เพราะไม่มีเงินมากพอ เจ้าหนี้จำเป็นต้องสืบว่าลูกหนี้อาศัยอยู่ที่ไหน ทำงานอะไร มีทรัพย์สินอะไรบ้างเพื่อให้ศาลทำการยึดทรัพย์สินเพื่อไปขายทอดตลาด เพื่อนำเงินมาชำระหนี้
Cookie | Duration | Description |
---|---|---|
cookielawinfo-checkbox-analytics | 11 months | This cookie is set by GDPR Cookie Consent plugin. The cookie is used to store the user consent for the cookies in the category "Analytics". |
cookielawinfo-checkbox-functional | 11 months | The cookie is set by GDPR cookie consent to record the user consent for the cookies in the category "Functional" |
cookielawinfo-checkbox-necessary | 11 months | This cookie is set by GDPR Cookie Consent plugin. The cookies is used to store the user consent for the cookies in the category "Necessary". |
cookielawinfo-checkbox-others | 11 months | This cookie is set by GDPR Cookie Consent plugin. The cookie is used to store the user consent for the cookies in the category "Other". |
cookielawinfo-checkbox-performance | 11 months | This cookie is set by GDPR Cookie Consent plugin. The cookie is used to store the user consent for the cookies in the category "Performance". |
viewed_cookie_policy | 11 months | The cookie is set by the GDPR Cookie Consent plugin and is used to store whether or not user has consented to the use of cookies. It does not store any personal data. |