Menu
อย่างที่กล่าวไปว่าแนวโน้มสังคมสูงวัยของไทยกำลังเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ นำมาซึ่งความท้าทายหลายประการให้กับสภาพเศรษฐกิจไทย แต่ถึงอย่างนั้น การขยายตัวของจำนวนผู้สูงอายุ หมายความว่าการเติบโตของเศรษฐกิจและธุรกิจเกี่ยวกับผู้สูงวัย หรือเศรษฐกิจสีเงิน (Silver Economy) ก็สูงขึ้นด้วยโดยจากข้อมูลวิจัยกรุงศรี ได้อธิบายถึงแนวโน้มการเติบโตของธุรกิจในประเทศไทย กับ เศรษฐกิจผู้สูงวัย หรือเศรษฐกิจสีเงิน (Silver Economy) ที่กระจายอยู่ในธุรกิจหลากหลายประเภท โดยกลุ่มธุรกิจที่น่าจับตามอง มีดังนี้
แน่นอนว่าสุขภาพที่มากขึ้น ย่อมต้องดูแลสุขภาพเป็นพิเศษ ธุรกิจด้านสุขภาพจึงเป็นธุรกิจมาแรงสำหรับสังคมผู้สูงวัย
ธุรกิจที่ช่วยให้ผู้สูงอายุเข้าถึงบริการสุขภาพได้สะดวกขึ้นผ่านเว็บไซต์และแอปพลิเคชันต่าง ๆ เช่น หมอดี (MorDee) ชีวี (Chiiwii) ZeekDoc โดยผู้สูงอายุสามารถพบแพทย์เพื่อปรึกษาและรักษาผ่านแพลตฟอร์มเหล่านี้ หรือที่เรียกว่าการแพทย์ทางไกล (Telemedicine)
สำหรับผู้สูงอายุที่ไม่มีผู้ดูแล แต่ต้องการผู้ดูแลในการทำกิจวัตรประจำวัน แพลตฟอร์มที่ช่วยจัดหาผู้ดูแลตามความต้องการ (On-demand) เช่น Health at Home ใส่ใจ (SAIJAI) แทนคุณ (tankoon) จึงตอบโจทย์ หรือบริการพาผู้สูงอายุไปโรงพยาบาลอย่าง JoyRide เพื่อตอบโจทย์ผู้สูงอายุที่ไม่สะดวกไปพบแพทย์ตามลำพัง
มีแนวโน้มได้รับความนิยมมากขึ้น จากลูกค้าสูงอายุทั้งในและต่างประเทศ ตัวอย่างธุรกิจ Healthticket ซึ่งเป็นเว็บไซต์รวมแพ็กเกจการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ โดยสามารถจองสปา โปรแกรมตรวจสุขภาพ และโรงพยาบาลได้
ต่อมาธุรกิจที่พักสำหรับผู้สูงอายุก็กำลังเติบโตมากขึ้น โดยลักษณะที่พักที่พบได้มาก มี 2 ประเภท
เจาะตลาดกลุ่มผู้สูงอายุที่มีรายได้ปานกลางขึ้นไป ที่ต้องการพักฟื้นหรือรับการดูแลระยะสั้น พร้อมบริการดูแลโดยผู้เชี่ยวชาญตลอด 24 ชั่วโมง มีค่าใช้จ่ายเป็นรายเดือนตั้งแต่ 10,000-30,000 บาท เช่น บ้านลลิสา Sansiri Home Care และ Asia Nursing Home ถึงแม้ว่าจำนวนธุรกิจ Nursing Home เติบโตมาก แต่ราคาที่ค่อนข้างสูง ทำให้อัตราการเข้าพัก Nursing Home น้อยกว่าที่พักประเภทอื่น
เหมาะกับผู้สูงอายุต้องการพักอาศัยระยะยาว โดยผู้อาศัยต้องจ่ายค่าเช่าล่วงหน้าเพื่อให้ได้กรรมสิทธิ์อยู่อาศัยระยะยาว ตลอดชีพ หรือซื้อขาด ธุรกิจนี้จึงเน้นเจาะตลาดกลุ่มผู้สูงอายุที่มีกำลังซื้อสูง ยังช่วยเหลือตัวเองได้ แต่ต้องการการอำนวยความสะดวกและความเชื่อมโยงกับสังคม (Community) โดยมีราคาเริ่มต้นตั้งแต่ 1.5 ล้านบาท เช่น Supalai Wellness Valley, Wellness city, วิลล่ามีสุข และ NAYA Residence
เนื่องจากบ้านพักผู้สูงอายุส่วนใหญ่ยังกระจุกในกรุง กรุงเทพฯ ปริมณฑล และจังหวัดใหญ่เป็นหลัก จึงถือเป็นโอกาสในการลงุทนโครงการรองรับผู้สูงอายุต่างจังหวัดอื่น ๆ
ผู้สูงอายุเป็นวัยที่ต้องใส่ใจเรื่องอาหารมากขึ้น จึงมักซื้ออาหารที่เป็นประโยชน์ต่อสุขภาพตลอดจนอาหารเสริมรูปแบบต่างๆ ข้อมูลจาก The 1 Insight ยังพบว่าสินค้าขายดีในกลุ่มผู้สูงวัยที่มีรายได้สูง ได้แก่ ผลไม้นำเข้า ผักออร์แกนิก และโยเกิร์ตรสธรรมชาติ ผลิตภัณฑ์อาหารที่น่าสนใจและมีแนวโน้มเติบโตได้ดีในสังคมผู้สูงอายุ ได้แก่
อาหารที่มีคุณค่าทางโภชนาการพื้นฐานต่อร่างกาย และยังมีส่วนช่วยป้องกันและลดความเสี่ยงในการเกิดโรค เช่น ลดระดับน้ำตาลในเลือด ลดคอเลสเตอรอล และเสริมสร้างภูมิคุ้มกัน ซึ่งเป็นปัญหาที่พบบ่อยในผู้สูงอายุ
ที่สำคัญควรใส่ใจถึง รสชาติ รูปลักษณ์ และกลิ่นของอาหาร ที่ช่วยกระตุ้นความอยากอาหารที่ลดลงตามวัย รวมถึงการออกแบบบรรจุภัณฑ์ให้เข้าใจง่าย
ข้อมูลจาก The 1 Insight พบว่าผู้สูงอายุที่มีกำลังซื้อสูง จะนิยมซื้อสินค้าไลฟ์สไตล์ที่มีจุดเด่นด้านสุขภาพ เช่น รองเท้าผ้าใบหรือหมอนเพื่อสุขภาพ รวมถึงให้ความสำคัญกับผลิตภัณฑ์บำรุงผิวเพื่อชะลอวัย (Anti-Aging Skincare) ที่เต็มใจจ่ายเพื่อความสุขและเพื่อสุขภาพ
สินค้าและบริการที่ออกแบบอย่างใส่ใจเพื่อแก้ไขปัญหาที่ผู้สูงอายุพบเจอในชีวิตประจำวัน จะมีโอกาสเติบโตได้ดี เช่น เก้าอี้ที่มีเท้าแขนข้างเดียว ซึ่งช่วยให้เคลื่อนย้ายคนเข้าออกได้สะดวกขึ้น
หรือแท็กซี่สำหรับผู้สูงอายุ ที่ให้บริการโดยผู้ผ่านการฝึกอบรมการปฐมพยาบาลและการดูแลผู้ป่วย ช่วยให้ผู้สูงอายุเชื่อมั่นในความปลอดภัยยิ่งขึ้น เมื่อต้องการเดินทางไปทำธุระต่าง ๆ คนเดียวได้
ธุรกิจภายในบ้าน เช่น การตกแต่งบ้าน การเลี้ยงสัตว์ การปลูกผักและทำสวน สื่อและความบันเทิง ขณะเดียวกัน โอกาสทางธุรกิจยังเกิดขึ้นกับกิจกรรมนอกบ้าน เช่น การท่องเที่ยวหลังเกษียณ หรือกิจกรรมร่วมกับชุมชนผู้สูงอายุหรือวัยอื่น ๆ ในชุมชน เพื่อช่วยให้ผู้สูงอายุใช้ชีวิตหลังเกษียณอย่างมีคุณภาพมากขึ้น
ความก้าวหน้าของเทคโนโลยีและนวัตกรรมส่งผลให้เกิดการพัฒนาเครื่องมือและอุปกรณ์ต่างๆ ที่ช่วยอำนวยความสะดวกในการใช้ชีวิตประจำวันของผู้สูงอายุมากขึ้น
เช่น เครื่องช่วยฟังที่ปรับคุณภาพเสียงผ่านแอปพลิเคชันได้ ไม้เท้าอัจฉริยะ เก้าอี้นวดไฟฟ้า หุ่นยนต์ที่เปรียบเสมือนผู้ช่วยส่วนตัวของผู้สูงอายุ รวมถึงอุปกรณ์ดิจิทัลสำหรับวัดค่าต่างๆ ทางสุขภาพ Smart Watch ช่วยติดตามข้อมูลสุขภาพ
สำหรับผู้สูงอายุที่ต้องการการบำบัดและดูแลรักษาอาการป่วยเฉพาะ อย่างเช่น แว่นตาที่ใช้เทคโนโลยี Virtual Reality (VR) สร้างโลกความเสมือน ช่วยระตุ้นความทรงจำและช่วยลดพฤติกรรมซ้ำ ๆ ของผู้ป่วยที่มีภาวะสมองเสื่อม หรือ สายรัดข้อมือ (Wristband) หรือ QR CODE ที่เก็บข้อมูลผู้สูงอายุที่มีปัญหาความจำและเสี่ยงต่อการพลัดหลง
วีลแชร์ไฟฟ้าอัจฉริยะที่ควบคุมด้วยสายตา สำหรับผู้สูงวัยหรือผู้ป่วยอัมพฤกษ์/อัมพาต แอปพลิเคชันประเมินบาดแผลผ่านภาพถ่ายโดยเทคโนโลยี AI และบอกแนวทางดูแลรักษาเบื้องต้น ซึ่งเป็นประโยชน์ต่อผู้ป่วยโรคเบาหวาน
ธุรกิจทางการเงินมีโอกาสมหาศาลใน Silver Economy เนื่องจากผู้สูงอายุไทยจำนวนมากยังประสบปัญหาเรื่องความเพียงพอของรายได้ และการเข้าถึงบริการทางการเงิน
สถาบันการเงินต่าง ๆ สามารถเข้ามามีบทบาทในการนำเสนอผลิตภัณฑ์ เช่น บัญชีเงินฝากที่ให้ดอกเบี้ยสูง และมีความยืดหยุ่นในการเบิก-ถอน สินเชื่อเพื่อการประกอบอาชีพและสร้างรายได้
หรือสินเชื่อเพื่อการรักษาพยาบาล บัตรเครดิตที่ส่งเสริมหรือให้รางวัลการใช้จ่ายเพื่อสุขภาพ ซึ่งผลิตภัณฑ์เหล่านี้จะช่วยให้ผู้สูงอายุสามารถเข้าถึงบริการสุขภาพที่ดีขึ้น ตั้งแต่การป้องกัน คัดกรอง และดูแลรักษา
ให้ทุกเรื่องการเงินเป็นเรื่องง่าย เริ่มต้นวันดีๆ ไปกับเรา MAKE A GREAT DAY WITH ACU PAY
