fbpx
Search
Close this search box.

ทำความรู้จักสุนัขช่วยเหลือ ผู้ช่วยขนปุยสี่ขาแสนรู้

สุนัขนอกจากจะเป็นเพื่อนที่แสนดีของมนุษย์แล้ว รู้ไหมว่าสุนัขยังสามารถฝึกฝนและรับหน้าที่เป็นเหมือนผู้ช่วยเหลือให้เราได้ วันนี้ เอซียูเพย์จะพามาทำความรู้จักสุนัขช่วยเหลือ ว่าพวกเขาทำอะไรบ้าง

สุนัขช่วยเหลือคืออะไร ?

สุนัขที่ได้รับการฝึกฝนจากสถานฝึกสอนโดยผู้เชี่ยวชาญมาอย่างเข้มงวด ซึ่งหน้าที่หลักของสุนัขเหล่านี้ก็คือการอำนวยความสะดวกแก่ผู้พิการ หรือผู้มีปัญหาความผิดปกติทางสุขภาพ เพื่อสามารถใช้ชีวิตในสังคมได้อย่างปกติ แล้วรู้ไหมว่า สุนัขเหล่านี้จะต้องฝึกฝนตัวเองอย่างยาวนานถึง 18 เดือน – 1 ปีครึ่งเลย กว่าจะได้รับหน้าที่สุนัขช่วยเหลือนี้ เหตุผลก็เพราะว่าพวกเขาจำเป็นต้องมีทักษะมากพอ เพื่อช่วยเหลือผู้พิการในทุกสถานการณ์ได้นั่นเอง

โดยอายุเฉลี่ยในการทำงานของสุนัขช่วยเหลือจะอยู่ที่ 7 – 10 ปี หลังจากนั้นสุนัขตัวนั้นก็จะเกษียณและหาสุนัขนำทางตัวใหม่เข้ามาทำหน้าที่แทน ซึ่งเจ้าของสามารถเลือกที่จะเลือกรับเลี้ยงต่อได้ หรือถ้าไม่สะดวกที่จะดูแลต่อก็จะมีการหาบ้านใหม่ให้สุนัขหรือส่งตัวกลับศูนย์ฝึกที่เดิม 

สุนัขช่วยเหลือผู้พิการมีกี่ประเภท ?

สุนัขช่วยเหลือสามารถแบ่งได้เป็น 3 ประเภท

  1. สุนัขนำทาง (Guide dog) มีหน้าที่ ช่วยนำทางคนพิการทางการมองเห็น คอยระวังและช่วยเหลือผู้พิการให้สามารถเดินทางไปยังสถานที่ต่าง ๆ ได้ด้วยตัวเอง
  2. สุนัขช่วยเหลือผู้บกพร่องทางการได้ยิน (Hearing dog) มีหน้าที่รับฟังเสียงและคอยเตือนผู้พิการเมื่อมีเหตุร้ายเกิดขึ้น
  3. สุนัขช่วยเหลือ (Service dog) มีหน้าที่ช่วยเหลือผู้พิการ ผู้บกพร่องทางร่างกายและจิตใจ หรือผู้ป่วยโรคเรื้อรัง เช่น ลมชัก เบาหวาน โดยสุนัขช่วยเหลือจะทำหน้าที่ช่วยเตือนระดับน้ำตาลในเลือดให้กับผู้ป่วยเบาหวาน นอกจากนี้ยังช่วยเหลือ กดปุ่ม เปิด-เปิดประตู หยิบสิ่งของหรือยา หรือเห่าเตือนผู้อื่นเมื่อเจ้าของสุนัขไม่ตอบสนองได้อีกด้วย

คุณสมบัติจำเป็นของสุนัขช่วยเหลือ

เพราะสุนัขช่วยเหลือผู้พิการ จะได้รับสิทธิพิเศษที่สามารถเข้าไปในสถานที่สาธารณะ รวมทั้งโรงพยาบาล สถานที่ราชการ ที่มีคนพลุกพล่านได้ จึงจำเป็นจะต้องมีคุณสมบัติพิเศษต่าง ๆ ที่สุนัขตัวอื่นไม่มีดังนี้

  • ควบคุมอารมณ์ได้

สุนัขที่รับหน้าที่นี้ต้องมีวุฒิภาวะที่สามารถควบคุมได้ โดยทักษะนี้ได้รับมาจากการฝึกฝนอย่างเข้มงวด สุนัขจะต้องมีอารมณ์มั่นคง ไม่วอกแวก ไม่ตื่นตระหนกตามสิ่งเร้าอื่น ๆ เช่น ไม่ตกใจกับเสียงแตรบนถนน หรือวิ่งไล่จับแมว ซึ่งทักษะนี้สำคัญอย่างมากต่อการช่วยผู้พิการ  เพื่อที่จะให้ผู้พิการถึงสถานที่เป้าหมายได้อย่างปลอดภัย 

  • แยกเสียงเตือนภัยออกจากเสียงรบกวนได้

โดยปกติแล้วสิ่งเร้ารอบข้างคืออุปสรรคสำหรับสัตว์เลี้ยงอย่างสุนัขมาก แต่สำหรับสุนัขที่ได้รับการฝึกมาอย่าง พวกเขาสามารถแยกเสียงเตือนภัยออกจากเสียงรบกวนทั่วไปได้ สามารถช่วยเหลือผู้พิการได้ทันท่วงที

  • ทำงานแบบ 24 ชั่วโมง

สุนัขช่วยเหลือจำเป็นต้องอยู่ภายใต้คำสั่งของผู้พิการตลอด 24 ชั่วโมง หรือตลอดการทำงาน ซึ่งแตกต่างจากสุนัขทั่วไปที่มีเวลาพักผ่อนเป็นของตัวเอง รวมถึงต้องมีการฝึกฝนให้น้องหมาเข้าใจทั้งคำสั่งเสียง และภาษามือ หรือทั้ง 2 ภาษา

  • อยู่ในรถสาธารณะได้ เช่น รถไฟฟ้า รถเมล์ เครื่องบิน

สุนัขช่วยเหลือจะได้รับการฝึกให้รอเจ้าของออกคำสั่งให้ไปก่อน ถึงจะทำตาม เพื่อป้องกันการเกิดอันตรายหรืออุบัติเหตุได้ในกรณีสุนัขนำทางคนตาบอด โดยจะต้องรู้ว่าหยุดตอนไหนหรือเดินไปทางไหน พร้อมกับสามารถป้องกันอันตรายที่จะเกิดขึ้นได้โดยเฉพาะตอนข้ามถนน 

  • จำชื่อเจ้าของได้

การจำชื่อเจ้าของให้ได้ก็เป็นอีกหนึ่งในคุณสมบัติที่สำคัญของสุนัขช่วยเหลือ ในกรณีที่มีคนเรียกจากระยะไกลหรือผู้พิการทางการได้ยิน สุนัขจะทำหน้าที่เตือนให้เจ้าของได้รับรู้ได้อีกด้วย

สุนัขนำทางจะต้องมีสมาธิในการทำงานตลอดเวลา ดังนั้นเมื่อเห็นว่าน้องกำลังทำงานอยู่ เราไม่ควรเข้าไปลูบหรือเข้าใกล้โดยไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าของโดยเด็ดขาด เพราะจะทำให้น้องเสียสมาธิระหว่างปฏิบัติหน้าที่ได้นั่นเอง

ความเก่งความฉลาดของสุนัขช่วยเหลือ น่าทึ่งมากเลยใช่ไหม หวังว่าในอนาคตประเทศไทยจะเอื้ออำนวยความสะดวกให้กับสุนัขช่วยเหลือในไทยเพิ่มขึ้น เพื่อเป็นผู้ช่วยแสนรู้ให้ผู้พิการและผู้บกพร่องสามารถออกมาใช้ชีวิตในสังคมได้อย่างปลอดภัยและมีอิสระกันมากขึ้น

บทความที่เกี่ยวข้อง

เพื่อนๆ สามารถติดตาม ACU PAY Thailand ผ่านช่องทางการติดตามอื่นๆ ได้ที่