fbpx
Search
Close this search box.

ออมเงิน 10% ของรายได้ ก็มีเงินหลักล้านได้

การวางแผนออมเงินเป็นเรื่องที่สามารถทำได้เลย ไม่ต้องรอมีเงินถึงค่อยทำ เพราะยิ่งมีเงินน้อย ยิ่งต้องรีบออมให้ไวขึ้น สำหรับใครมือใหม่ที่อยากเริ่มออมเงิน แต่ไม่อยากจะหักดิบเกินไป วันนี้ ACU PAY จะมาแนะนำวิธีออมเงินแบบง่ายที่สุด ที่ไม่ว่าจะรายได้น้อย หรือทำอาชีพอะไร ก็สามารถเปลี่ยนเงินหลักพันกลายเป็นหลักล้านได้ ด้วยเทคนิค “ออมเงินเดือนละ 10% ของรายได้ทุกเดือน”

วิธีคำนวณเงินออม

วิธีคำนวณเงินออมง่าย ๆ เพียงแค่ ให้นำ “รายได้ทั้งหมดก่อนหักค่าใช้จ่าย” ในเดือนนั้น หารด้วย 10 และนำผลที่ได้มาฝากเข้าบัญชีทุกครั้งในทันที

ยกตัวอย่างเช่น 

มีรายได้เดือนละ 15,000 ให้นำ 15,000 ÷ 10 = 1,500 ดังนั้นจำนวนเงินออมต่อเดือน เท่ากับ 1,500 บาท

ทำอย่างไรให้เงินออมงอกเงย

การทำเงินออมให้งอกเงย อาจจะเลือกฝากเงินในบัญชีออมทรัพย์ที่ให้ดอกเบี้ยสูง หรือฝากประจำ แต่มีอีกปัจจัยสำคัญที่จะเปลี่ยนเงินก้อนเล็กกลายเป็นก้อนใหญ่ได้ นั่นก็คือ การนำเงินไปลงทุน และอาศัยประโยชน์ของพลังของดอกเบี้ยทบต้น ซึ่งขึ้นอยู่กับ อัตราผลตอบแทน ระยะเวลา และการนำดอกเบี้ยมาลงทุนเพิ่ม

ถ้าเรานำเงิน 10 % ของรายได้ 1,500 บาทนี้ ไปฝากไว้ในบัญชีออมทรัพย์ ที่ให้ดอกเบี้ย 0.25% ต่อปี โดยออมเงินเป็นประจำทุกเดือน เวลา 10 ปีผ่านไป เราจะมีเงินเก็บ ประมาณ 183,800 บาท

แต่ถ้าเรานำเงิน 1,500 บาท มาเลือกลงทุนในกองทุนที่ให้ผลตอบแทนเฉลี่ย 5% – 10% ต่อปี ในจำนวนเงินเท่าเดิม เป็นเวลา 10 ปี ปรากฏว่า เราจะมีเงินเก็บสะสม ประมาณ 234,000 – 305,000 บาท

จะเห็นได้ว่าการลงทุนจะทำให้เราได้รับผลตอบแทนที่งอกเงยกว่าฝากในบัญชีออมทรัพย์ปกติ และยิ่งเรานำเงินที่ได้จากดอกเบี้ย ไปออมเพิ่มอีก จำนวนดอกเบี้ยจากเงินต้นก็เพิ่มขึ้นตามไปเรื่อย ๆ 

ยิ่งออมเร็ว ยิ่งมีเงินก้อนโต

นอกจากอัตราผลตอบแทนและการออมอย่างสม่ำเสมอจะสำคัญแล้ว ยังมีอีกสิ่งที่สำคัญมากคือ “ระยะเวลาการลงทุน” ยิ่งถ้ามีระยะเวลาลงทุนยาวนานและต่อเนื่องมากเท่าไหร่ ก็ยิ่งได้ประโยชน์จากพลังของดอกเบี้ยทบต้นมากขึ้นเท่านั้น

เรามาลองเปรียบเทียบการออมเงินระหว่างนาย A และ B ทั้งสองมีเงินเดือนเท่ากัน เดือนละ 30,000 บาท โดยเลือกออม 10% เดือนละ 3,000 บาทเป็นประจำทุกเดือน และได้รับผลตอบแทนเฉลี่ยจากการลงทุนปีละ 10% 

แต่แตกต่างกันที่นาย A เลือกออมเงินตอนอายุ 30 แต่ นาย B เลือกออมเงินตอนอายุ 24 

ปรากฏว่า นาย A ที่เริ่มออมเงินช้า ต้องรออายุถึง 44 ถึงจะมีเงินเก็บหลักล้าน กลับกันนาย B ที่ออมตั้งแต่อายุยังน้อย แค่อายุ 38 ก็มีเงินล้านแล้ว

ถึงแม้ทั้งสองคนจะมีพื้นฐานชีวิตเดียวกัน แต่สิ่งที่แตกต่างกันคือ “อายุ” ในการออมนั่นเอง ยิ่งออมเร็วเท่าไหร่ ก็จะมีเงินหลักล้านเร็วมากขึ้นเท่านั้น และนี่คือความสำคัญของตัวแปรที่เรียกว่า “ระยะเวลาในการลงทุน” 

อย่างไรก็ตาม การออมเดือนละ 10% นี้เป็นเพียงตัวเลขการออมขั้นต่ำ ซึ่งในปัจจุบันนี้แนะนำให้ออมด้วยตัวเลขที่เพิ่มสูงขึ้นกว่านี้ โดยปรับตัวเลขให้เหมาะสมกับรายได้ของตัวเอง แต่สำหรับใครที่มีภาระเยอะ รายได้น้อย ก็ค่อย ๆ เก็บเงินออมแต่ละเดือนให้มากเท่าที่ทำได้ อาจหางานเสริมเพิ่มเติมระหว่างนั้นเพื่อช่วยแบ่งเบาภาระ และที่สำคัญที่สุดเลยคืออย่าท้อ เลือกออมเงินน้อย สะสมไปทีละนิด ยังดีกว่าไม่มีเงินออมเลย 

บทความที่เกี่ยวข้อง

เพื่อนๆ สามารถติดตาม ACU PAY Thailand ผ่านช่องทางการติดตามอื่นๆ ได้ที่