ในช่วงเวลาที่ผ่านมาเราได้เห็น การเติบโตของแพลตฟอร์ม e-Commerce เป็นอย่างมาก แต่อีกสิ่งหนึ่งที่กำลังมาแรงไม่แพ้กันคือ Social Commerce อย่าง Facebook Line ที่เริ่มต้นมาสักพัก และ Tikok เริ่มทำ Tiktok shop ซึ่งมีแนวโน้มการเติบโตสูงมาก ตัว e-Commerce เองยังต้องมาโฆษณา หรือโปรโมทผ่าน แพลตฟอร์มเหล่านี้ถามว่าเพราะอะไร เพราะสิ่งหนึ่งที่เหล่า Social มีคือผู้ใช้งาน หรือผู้บริโภคนั่นเอง
Social comerce เป็นอีคอมเมิร์ซประเภทหนึ่งที่จำหน่ายผลิตภัณฑ์ผ่านแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดีย และสามารถทำการตลาดได้ในเวลาเดียวกัน แอปโซเชียลมีเดียชั้นนำอย่าง Facebook, Twitter, Instagram, TikTok, Line มีความพิเศษอย่างมากคือ มีฐานผู้ใช้งานอย่างมหาศาล
แตกต่างจากเมื่อก่อนคือ เป็นเพียงพื้นที่ที่ใช้พื้นที่การสื่อสารไม่ว่าจะเป็นผู้ใช้งานหรือผู้บริโภค ธุรกิจ หรือแบรนด์ต่างๆ หรือแม้แต่เหล่า e-Commerceเอง ก็เอาไว้เชื่อมต่อกับผู้ใช้งาน หรือผู้บริโภคที่มีอยู่ในแพลตฟอร์มโซเซียลมีเดีย ดังนั้นด้วยความที่แบรนด์หรือธุรกิจต่างๆ นอกจากจะสื่อสารกับผู้บริโภคได้แล้วผู้บริโภคจะสามารถที่จะสั่งซื้อสินค้าได้ผ่านแพลตฟอร์มนั้นๆ ได้เลยอีกด้วยโดยไม่ต้องออกจากแอป
จากทั้งข้อมูลจากทั้ง 3 แพลตฟอร์มในไทย เราจะเห็นได้ว่ามีผู้ใช้งานเป็นจำนวนมาก เกินครึ่งประเทศด้วยซ้ำ นี่จึงเป็นข้อได้เปรียบ และเป็นโอกาสในการเติบโตของ Social Commerce ที่ได้เปรียบเป็นอย่างมาก
การซื้อขายทางโซเชียลมีเดียนี้จะสร้างปฏิสัมพันธ์มากกว่าการซื้อผ่านเว็ปไซต์ทั่วไป ลูกค้าจะสามารถปรึกษากับเพื่อนหรือคนรู้จักเกี่ยวกับการซื้อขายสินค้าต่างๆ รวมถึงการคอมเมนท์ รีวิวจากผู้ใช้ท่านอื่นได้อีกด้วย ซึ่งสิ่งเหล่านี้สามารถสร้างปฏิสัมพันธ์ระหว่างลูกค้าและรวมถึงผู้ขายได้เป็นอย่างดี
ด้วย Social commerce นี้เราสามารถซื้อของด้วยการคลิกเพียงไม่กี่ครั้งเท่านั้น ไม่มีอะไรมาขั้นกลางระหว่างซื้อ เช่น เจอสินค้าที่สนใจ กดปุ่มซื้อ ชำระเงิน เป็นอันเสร็จสิ้น แต่ช่องทางออนไลน์อื่นๆอาจจะมีอะไรมาขัดจังหวะมากมายเช่น ต้องเข้าเว็บก็ปิดโฆษณา กดซื้อรอบแรก(โดยปกติจะเขียนว่านำไปไว้ในรถเข็น\ตะกร้าสินค้า) ไปยืนยันการซื้ออีกหนึ่งรอบ ใส่รหัสบัตรเครดิตและอีกหลายๆขั้นตอน การให้ลูกค้าคลิกหรือมีการซื้อหลายขั้นตอนเกินไปอาจทำให้ร้านค้าโอกาสในการขายของได้ เพราะมีโอกาสสูงที่ลูกค้าจะเปลี่ยนใจไม่ซื้อเพราะขั้นตอนที่มากเกินไป ซึ่งจะเกิดบ่อยกับช่องทางที่ไม่ใช่ social e-commerce นั่นเอง
Social commerce ไม่ใช่แค่ทำให้การซื้อขายรวดเร็วเพียงอย่างเดียว แต่ยังสามารถทำให้เราเก็บผลตอบรับได้เร็วอย่างน่าเหลือเชื่ออีกด้วยเพราะลูกค้าสามารถรีวิวว่าเขาชอบสินค้าของคุณหรือไม่ ลูกค้าสามารถวิจารณ์สินค้าคุณได้อย่างตรงไปตรงมาเพื่อคุณจะได้นำไปปรับปรุงสินค้าของคุณ โดยที่คุณจะรู้อย่างชัดเจนว่าลูกค้าคุณเป็นใครและสามารถคุยกับลูกค้าได้โดยตรงผ่านช่อง comment , direct message เพื่อบริการหลังการขายหรือให้คำปรึกษากับลูกค้า
เพราะผู้คนหมู่มากที่ใช้งานโซเชียลมีเดีย จะมีอายุราว 18-34 ปี ซึ่งใช้เวลาส่วนมากไปกับการเล่นโซเชียลมีเดียและส่วนมากชอบซื้อของผ่านช่องทางออนไลน์ด้วย
จากการวิจัยพบว่ามากกว่า 48% ของผู้ใช้โซเชียลมีเดียชาวอเมริกันในช่วงอายุ 18-34 ปีได้ทำการซื้อของต่างๆผ่านช่องทางออนไลน์ และมากกว่า 27% ที่ไม่ได้อยู่ในช่วงอายุนี้เปิดเผยว่าอยากจะลองใช้ Social commerce ดูสักครั้งเช่นกัน จากข้อมูลด้านบนทำให้สามารถพูดได้ว่า social commerce นี้คือตลาดที่มีความทันสมัยและควรค่าแก่การขายสินค้าของคุณเป็นอย่างมาก
เนื่องจากบนโลกออนไลน์นี้มีข้อมูลลูกค้ามากมาย คุณเลยมีโอกาสจะจับเป้าหมายแม่นยำขึ้นและโฆษณาได้ตรงกลุ่มเป้าหมายมากขึ้น (Hyper-target your prime audience) ซึ่ง Social commerce นี้สามารถทำให้สินค้าของคุณไปวางตรงหน้าลูกค้าที่พร้อมและต้องการจะซื้อสินค้าของคุณโดยเฉพาะ ในขณะที่การซื้อขายแบบปกติจะไม่สามารถทำได้
ที่มา : bangkokbiznews
Cookie | Duration | Description |
---|---|---|
cookielawinfo-checkbox-analytics | 11 months | This cookie is set by GDPR Cookie Consent plugin. The cookie is used to store the user consent for the cookies in the category "Analytics". |
cookielawinfo-checkbox-functional | 11 months | The cookie is set by GDPR cookie consent to record the user consent for the cookies in the category "Functional" |
cookielawinfo-checkbox-necessary | 11 months | This cookie is set by GDPR Cookie Consent plugin. The cookies is used to store the user consent for the cookies in the category "Necessary". |
cookielawinfo-checkbox-others | 11 months | This cookie is set by GDPR Cookie Consent plugin. The cookie is used to store the user consent for the cookies in the category "Other". |
cookielawinfo-checkbox-performance | 11 months | This cookie is set by GDPR Cookie Consent plugin. The cookie is used to store the user consent for the cookies in the category "Performance". |
viewed_cookie_policy | 11 months | The cookie is set by the GDPR Cookie Consent plugin and is used to store whether or not user has consented to the use of cookies. It does not store any personal data. |