fbpx
Search
Close this search box.

เรื่องของ ‘ภาษี’ ที่คนทำธุรกิจร้านคาเฟ่ต้องรู้!

เรื่องของ-‘ภาษี’-ที่คนทำธุรกิจร้านคาเฟ่ต้องรู้! (1)

     ต้องบอกก่อนว่าใครที่คิดว่า “ภาษี” เป็นเรื่องที่ยุ่งยากต้องลองเปลี่ยนความคิดใหม่ เพราะภาษี ง่ายกว่าที่คิด! สำหรับคนที่ทำร้านคาเฟ่ หรือร้านอาหาร เรื่องภาษีนั้นถือว่าเป็นทักษะพื้นฐานสำคัญที่ควรรู้ เพราะหากทำความเข้าใจได้แล้ว ก็จะสามารถจัดการเรื่องภาษีได้ง่ายๆ ในทุกๆ ปีอย่างไม่มีปัญหา ACU PAY จะมาสรุปข้อมูลเรื่องของ ‘ภาษี’ ที่คนทำร้านคาเฟ่ต้องรู้! มีอะไรบ้างมาดูกันน

1. ทำร้านคาเฟ่ต้องเสียภาษีทุกคนหรือเปล่า?

เราต้องเข้าใจก่อนว่า ภาษีเป็นสิ่งที่เราทุกคนต้องเสียอยู่แล้ว ทุกอาชีพอาจจะเสียในรูปแบบภาษีทางตรง เช่น ภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา ภาษีเงินได้นิติบุคคล หรือทางอ้อม เช่น ภาษีมูลค่าเพิ่ม เป็นต้น

      สำหรับคนที่มีรายได้ในทุกๆ อาชีพ ที่จะต้องเสียภาษีก็คือ ภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา โดยเกณฑ์ของกรมสรรพากรคือถ้ามีรายได้เกิน 150,000 ต่อปี มีโอกาสต้องเสียภาษีเพิ่ม ที่บอกว่ามีโอกาสต้องเสียเพิ่มเพราะว่า เราสามารถนำค่าใช้จ่ายส่วนอื่นๆ มาลดหย่อนได้อีกมากมาย จนบางครั้งก็อาจจะไม่ต้องจ่ายภาษีเพิ่ม

ช่วงเวลายื่นตรวจสอบภาษีปีละ 2 ครั้ง คือ

     ครั้งที่1 ภ.ง.ด.94 (ภาษีกลางปี) ยื่นภายในเดือนกันยายนสามารถยื่นด้วยตัวเองที่สำนักงานสรรพากรทั่วประเทศ หรือยื่นออนไลน์ได้ที่เว็บไซต์ www.rd.go.th (ยื่นออนไลน์อาจยื่นได้ถึงต้นเดือนตุลาคม)

     ครั้งที่ 2 ภ.ง.ด.90 ยื่นภายในเดือนมีนาคมของปีถัดไป สามารถยื่นด้วยตัวเองที่สำนักงานสรรพากรทั่วประเทศ หรือยื่นออนไลน์ได้ที่เว็บไซต์  (จะได้รับสิทธิขยายเวลายื่นภาษีไปอีก 8 วัน)

     กรณีที่รายได้ไม่ถึง 150,000 ต่อปี ต้องยื่นไหม คำตอบคือต้องยื่น โดยกรรมสรรพากรจะเก็บเป็นประวัติรายได้เอาไว้ แต่เราไม่จำเป็นต้องเสียภาษี

2. เป็นร้านเล็กๆ ต้องยื่นไหม? ถ้าไม่ยื่นมีผลอะไรไหม ?

     ไม่ว่าร้านเล็กหรือร้านใหญ่ มีรายได้มากหรือน้อย ก็ควรต้องยื่นภาษีในทุกๆ ปี แต่จะต้องจ่ายเพิ่มหรือเปล่านั่นอีกเรื่องหนึ่ง และสำหรับร้านที่มีรายได้เกิน 1,800,000 ต่อปี นั้นจะต้องจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม (Vat 7%) ภายใน 30 วัน และต้องทำการยื่นภาษีแบบ ภ.พ.30 ภายในวันที่ 15 ของรอบเดือนถัดไปด้วย

3. ส่วนร้านที่ไม่เคยยื่นมาก่อน ควรยื่นไหม ? หรือปล่อยเลยตามเลย ?

     สำหรับร้านที่ไม่เคยยื่นมาก่อน หากรายได้ไม่ถึงเกณฑ์ที่กำหนด จะไม่เป็นปัญหาใดๆ แต่หากกรมสรรพากรตรวจสอบแล้วพบว่ารายได้ต่อปีเกินจากนั้น อาจมีการเรียกเก็บย้อนหลังไปตามระเบียบ และการหลบหลีกหรือไม่ยื่นเลยนั้นไม่ใช่ทางออกที่ดี เพราะยิ่งนานไป หากกรมสรรพากรตรวจสอบพบก็อาจโดนเรียกเก็บค่าปรับแถมมาด้วย

สรุป เจ้าของร้านอาหารทุกร้านต้องยื่นตรวจสอบภาษี แต่จะต้องจ่ายภาษีเพิ่มหรือไม่นั้นขึ้นอยู่กับการคำนวณรายได้ ค่าใช้จ่าย และค่าลดหย่อนภาษีของแต่ละคน จ่ายเพิ่มมากหรือน้อยก็แล้วแต่คน หรือไม่ต้องจ่ายเพิ่มเลยก็มีครับ

4. การเข้าร่วมเดลิเวอรี่ต้องเสียภาษีด้วยไหม ?

      สำหรับร้านอาหารที่ทั้งเปิดหน้าร้านและเดลิเวอรี่ เวลายื่นตรวจสอบภาษีจะต้องนำรายได้ทั้ง 2 ช่องทางมารวมกันด้วยนะครับ โดยกรมสรรพากรนั้นจะมีฐานข้อมูลร้านเดลิเวอรี่ รวมถึงรายได้ในแต่ละเดือน จากการที่แพลตฟอร์มเดลิเวอรี่ต้องยื่นเสียภาษีในทุกๆ เดือนอยู่แล้ว ดังนั้นไม่ว่าจะเปิดหน้าร้านด้วย หรือขายผ่านแอปเดลิเวอรี่อย่างเดียวก็จำเป็นต้องยื่นภาษีในทุกๆ ปีเช่นกันครับ

     ในช่วงแรกอาจจะยาก สำหรับการลองทำความเข้าใจเรื่องการยื่นภาษีและจ่ายภาษีของคนที่เปิดร้านอาหาร อย่างที่เคยบอกไปว่าไม่ว่าจะทำอาชีพไหนก็จำเป็นต้องยื่นภาษี และจ่ายภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาในกรณีทีรายได้ถึงเกณฑ์

ศึกษาเรื่องภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา และวิธีคำนวณภาษีที่ได้ : iTax

ติดตามข่าวสารเรื่องภาษีจากกรมสรรพากร ได้ที่ www.rd.go.th

บทความที่เกี่ยวข้อง

เพื่อนๆ สามารถติดตาม ACU PAY Thailand ผ่านช่องทางการติดตามอื่นๆ ได้ที่