fbpx
Search
Close this search box.

การใช้จ่ายยุคใหม่ กับแอปจ่ายเงินดิจิทัล

สังคมไร้เงินสด, E-wallet, การใช้จ่ายดิจิทัล, ไทย

          ในโลกที่หมุนไปอย่างรวดเร็ว ทุกวันนี้ “เงินสด” อาจไม่ใช่ทางเลือกเพียงหนึ่งเดียวในการจับจ่ายใช้สอยอีกต่อไป การเข้ามาของเทคโนโลยีทางการเงิน หรือ Fintech ได้พลิกโฉมพฤติกรรมผู้บริโภคไปอย่างสิ้นเชิง โดยมี “แอปพลิเคชันจ่ายเงินดิจิทัล” เป็นหัวใจสำคัญที่ขับเคลื่อนการเปลี่ยนแปลงนี้

          แอปพลิเคชันเหล่านี้มอบประสบการณ์การใช้จ่ายที่เหนือกว่า นอกจากนี้ยังช่วยให้เราสามารถจัดการการเงินได้อย่างมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น และการสรุปภาพรวมการใช้จ่ายที่ชัดเจน ซึ่งทั้งหมดนี้เป็นเครื่องมือที่ช่วยให้การเงินในยุคดิจิทัลของเรามั่นคงและมีประสิทธิภาพ

          บทความนี้จะพาไปสำรวจว่าภูมิทัศน์ของการใช้จ่ายในยุคใหม่นี้เป็นอย่างไร เราจะเจาะลึกถึงวิธีการที่แอปพลิเคชันจ่ายเงินออนไลน์เข้ามาเปลี่ยนนิยามของ “เงิน” และที่สำคัญที่สุด ผู้บริโภคจะใช้ประโยชน์จากเครื่องมือเหล่านี้ให้เกิดประโยชน์สูงสุดได้อย่างไร

Table Topic

  • ภูมิทัศน์ของการใช้จ่ายในยุคใหม่
  • แอปพลิเคชันจ่ายเงินดิจิทัลเข้ามาเปลี่ยนนิยามของ “เงิน” อย่างไร?
  • เราจะใช้ประโยชน์จากแอปจ่ายเงินดิจิทัลให้เกิดประโยชน์สูงสุดได้อย่างไร?

ภูมิทัศน์ของการใช้จ่ายในยุคใหม่

          คือการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ของพฤติกรรมผู้บริโภคและระบบนิเวศทางการเงินโดยรวม ซึ่งสามารถแยกออกเป็นหลายหัวข้อได้โดยสังเขป ดังนี้

1.การเปลี่ยนผ่านสู่สังคมไร้เงินสด (Less-Cash Society):

  • ผู้คนลดการพกพาและใช้จ่ายด้วยเงินสดอย่างมีนัยสำคัญ โดยหันไปพึ่งพาการชำระเงินทางอิเล็กทรอนิกส์เป็นหลัก
  • คาดการณ์ว่าสัดส่วนการใช้เงินสดในไทยจะลดลงเหลือเพียง 10-20% ในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า

2.สมาร์ตโฟนเป็นศูนย์กลางทางการเงิน:

  • แอปพลิเคชันบนสมาร์ตโฟนกลายเป็น “กระเป๋าเงินดิจิทัล” ที่ใช้ทำธุรกรรมได้เกือบทุกอย่าง ตั้งแต่จ่ายบิล โอนเงิน ซื้อของออนไลน์ ไปจนถึงการลงทุน
  • ความสามารถในการเข้าถึงบริการทางการเงินผ่านมือถือได้ตลอด 24 ชั่วโมง คือปัจจัยสำคัญที่ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงนี้

3.ความสะดวก รวดเร็ว และปลอดภัย คือปัจจัยขับเคลื่อน:

  • เทคโนโลยีการชำระเงิน เช่น QR Code Payment และ Contactless Payment ช่วยให้การใช้จ่ายง่ายและรวดเร็วในทุกจุดบริการ
  • มีการพัฒนาระบบรักษาความปลอดภัยที่เข้มงวดขึ้น รวมถึงการยืนยันตัวตนหลายชั้น (Multi-factor Authentication) เพื่อสร้างความมั่นใจในการทำธุรกรรม

4.การเข้าถึงข้อมูลและการจัดการการเงินที่ดีขึ้น:

  • แอปพลิเคชันมักมีฟังก์ชันบันทึกรายรับ-รายจ่ายอัตโนมัติ ช่วยให้ผู้ใช้สามารถติดตามพฤติกรรมการใช้เงิน วางแผนงบประมาณ และวิเคราะห์สถานะการเงินของตนเองได้ง่ายขึ้น

จะเห็นได้ว่าภูมิทัศน์ยุคใหม่นี้คือโลกที่การเงินถูกผนวกเข้ากับเทคโนโลยีอย่างแยกไม่ออก มอบความสะดวกและประสิทธิภาพที่สูงขึ้น อย่างไรก็ดีในการใข้งานเทคโนโลยีเหล่านี้ผู้ใช้ก็จำเป็นต้องมีความรู้ด้านการเงินดิจิทัล เพื่อใช้ประโยชน์และรับมือกับความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นได้อย่างชาญฉลาด

แอปพลิเคชันจ่ายเงินดิจิทัลเข้ามาเปลี่ยนนิยามของ "เงิน" อย่างไร?

  1. เปลี่ยนจาก “จับต้องได้” เป็น “ตัวเลขในระบบ”
  • นิยามเดิม: เงินคือธนบัตรที่สามารถมองเห็น สัมผัส และนับได้
  • นิยามใหม่: เงินกลายเป็นข้อมูลทางอิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งปรากฏเป็นเพียงตัวเลขบนหน้าจอสมาร์ตโฟนหรือแอปพลิเคชัน ทำให้ความรู้สึกในการใช้จ่ายแตกต่างไปจากเดิม 
  1. เปลี่ยนจาก “เก็บในกระเป๋า” เป็น “เก็บในคลาวด์”
  • นิยามเดิม: ความปลอดภัยของเงินขึ้นอยู่กับความแน่นหนาของกระเป๋าสตางค์ หรือสถานที่ที่เก็บเงิน
  • นิยามใหม่: เงินถูกเก็บไว้ในระบบคลาวด์ที่ปลอดภัย โดยมีระบบการป้องกันข้อมูลที่ซับซ้อน ความปลอดภัยจึงขึ้นอยู่กับมาตรการของแอปพลิเคชัน และความรัดกุมในการจัดการระบบรักษาความปลอดภัยของผู้ใช้เป็นหลัก 
  1. เปลี่ยนจาก “ใช้ได้จำกัด” เป็น “ใช้ได้ทันทีทุกที่”
  • นิยามเดิม: การใช้จ่ายถูกจำกัดด้วยจำนวนเงินสดที่พกพาไป และต้องทำธุรกรรมที่สาขาธนาคารในเวลาทำการ
  • นิยามใหม่: ข้อจำกัดด้านเวลาและสถานที่หมดไป ผู้ใช้สามารถทำธุรกรรมได้ตลอด 24 ชั่วโมง และใช้จ่ายได้กับเกือบทุกสินค้าและบริการผ่านการสแกน QR Code หรือแตะจ่าย 
  1. เปลี่ยนจาก “ใช้แล้วลืม” เป็น “ใช้แล้วบันทึก”
  • นิยามเดิม: การใช้เงินสดมักไม่มีการบันทึกอย่างเป็นระบบ ทำให้ผู้ใช้จำรายละเอียดการใช้จ่ายได้ยาก
  • นิยามใหม่: ทุกการใช้จ่ายถูกบันทึกและติดตามได้ทันทีในประวัติธุรกรรมของแอปพลิเคชัน ช่วยให้ผู้ใช้สามารถเห็นภาพรวมการใช้จ่ายและควบคุมการเงินได้ง่ายขึ้น ซึ่งส่งผลดีต่อวินัยทางการเงิน 

 

เราจะใช้ประโยชน์จากแอปจ่ายเงินดิจิทัลให้เกิดประโยชน์สูงสุดได้อย่างไร

          จากนิยามใหม่ที่เกิดขึ้น เมื่อแอปพลิชันจ่ายเงินดิจิทัลได้กลายมาเป็นกระเป๋าเงินอิเล็กทรอนิกส์ในสมาร์ตโฟนของเราแล้ว เราจะสามารถใช้งานแอปพลิเคชันเหล่านี้อย่างไร ให้เกิดประโยชน์และประสิทธิภาพสูงสุด

          การใช้ประโยชน์จากแอปพลิเคชันจ่ายเงินออนไลน์ให้เกิดประโยชน์สูงสุด ไม่ใช่แค่การเปลี่ยนวิธีการจ่ายเงิน แต่คือการเปลี่ยนไปสู่วิธีการจัดการการเงินที่ฉลาดยิ่งขึ้น ซึ่งเรามีแนวทางการจัดการนั้นที่ผู้ใช้งานสามารถนำไปปรับใช้ได้ ดังนี้

  1. ใช้เป็นเครื่องมือติดตามและวิเคราะห์การใช้จ่าย
    • ตรวจสอบประวัติธุรกรรมสม่ำเสมอ: แทนที่จะแค่จ่ายแล้วจบ ให้ใช้เวลาตรวจสอบรายการใช้จ่ายในแอปฯ ทุกสัปดาห์ เพื่อดูว่าเงินไปอยู่ที่ไหนบ้าง
    • ใช้ฟีเจอร์จัดหมวดหมู่: แอปฯ หลายตัวมีระบบจัดหมวดหมู่ค่าใช้จ่ายอัตโนมัติ (เช่น อาหาร, เดินทาง, ช้อปปิ้ง) ใช้ข้อมูลนี้วิเคราะห์พฤติกรรมของตัวเอง
    • ตั้งงบประมาณ (Budgeting): ใช้ฟังก์ชันการตั้งงบประมาณในแอปฯ (ถ้ามี) เพื่อจำกัดการใช้จ่ายในหมวดหมู่ที่มักจะใช้เกินตัว
  1. ใช้ประโยชน์จากความปลอดภัยของระบบ
    • เปิดใช้งานการยืนยันตัวตนหลายชั้น (MFA): ตั้งค่ารหัสผ่านที่รัดกุม, สแกนใบหน้า หรือลายนิ้วมือ เพื่อป้องกันการเข้าถึงจากผู้อื่น
    • เปิดการแจ้งเตือนทุกธุรกรรม: เพื่อให้คุณรู้ทันทีหากมีการใช้จ่ายที่ผิดปกติเกิดขึ้น และสามารถระงับบัญชีได้ทันท่วงที
    • ระวัง Phishing Scams: แม้ตัวแอปจะปลอดภัย แต่ผู้ใช้ต้องระวังการหลอกลวงจากมิจฉาชีพและรอบคอบเสมอเพื่อหลีกเลี่ยงการเกิดอาชญากรรมไซเบอร์
  1. ใช้เพื่อสร้างวินัยทางการเงิน
    • แยกบัญชีตามวัตถุประสงค์: หากแอปฯ หรือธนาคารอนุญาตให้สร้างกระเป๋าเงินย่อยได้ ให้แยกเงินสำหรับใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน ออกจากเงินเก็บหรือเงินลงทุนอย่างชัดเจน
    • ลดการใช้เงินสดที่ไม่สามารถติดตามได้: ยิ่งใช้จ่ายผ่านแอปฯ มากเท่าไหร่ ข้อมูลการเงินของคุณก็จะยิ่งสมบูรณ์และตรวจสอบได้ง่ายขึ้นเท่านั้น
  1. ใช้ประโยชน์จากโปรโมชั่นและสิทธิพิเศษ
    • เปรียบเทียบสิทธิประโยชน์: แอปพลิเคชันแต่ละแห่งมักมีโปรโมชั่น เงินคืน หรือส่วนลดพิเศษสำหรับร้านค้าพันธมิตร
    • เลือกใช้แอปที่คุ้มค่า: หากคุณต้องจ่ายค่าเดินทางบ่อยๆ ให้เลือกใช้แอปฯ ที่มีส่วนลดค่าเดินทาง เพื่อให้ได้รับประโยชน์สูงสุดจากทุกการใช้จ่าย

          การใช้ประโยชน์สูงสุดคือการเปลี่ยนบทบาทจากผู้ใช้จ่าย เป็นผู้ควบคุมการเงิน โดยใช้ฟีเจอร์อัจฉริยะที่แอปฯ มีให้เพื่อติดตาม วิเคราะห์ และวางแผนการเงินในยุคดิจิทัลอย่างมีประสิทธิภาพนั่นเอง

          จากภูมิทัศน์ของการใช้จ่ายในยุคใหม่ได้เปลี่ยนแปลงไปอย่างสิ้นเชิงด้วยบทบาทสำคัญของแอปพลิเคชันจ่ายเงินดิจิทัลนั้น มอบทั้งความสะดวกสบาย ความรวดเร็ว และความปลอดภัยที่เหนือกว่าการใช้เงินสดแบบเดิม การปรับตัวและเรียนรู้ที่จะใช้ประโยชน์จากเครื่องมือเหล่านี้อย่างรู้ทันรอบคอบจึงเป็นสิ่งสำคัญที่เราต้องคำนึงถึงต่อมา ไม่ว่าจะเป็นการติดตามการใช้จ่าย การตั้งงบประมาณ หรือการใช้สิทธิพิเศษต่างๆ จะช่วยให้เราสามารถควบคุมการเงินของตนเองได้อย่างมีประสิทธิภาพและมั่นคง เพื่อพร้อมรับมือกับโลกการเงินที่ขับเคลื่อนด้วยเทคโนโลยีในอนาคตได้อย่างมั่นใจ

ผู้เขียน

Picture of ACU PAY Thailand

ACU PAY Thailand

ให้ทุกเรื่องการเงินเป็นเรื่องง่าย เริ่มต้นวันดีๆ ไปกับเรา MAKE A GREAT DAY WITH ACU PAY

บทความที่เกี่ยวข้อง

เพื่อนๆ สามารถติดตาม ACU PAY Thailand ผ่านช่องทางการติดตามอื่นๆ ได้ที่