fbpx
Search
Close this search box.

ใช้ E-wallet จ่ายเงินสะดวกไหม? เทียบการจ่ายเงินสด vs กระเป๋าเงินดิจิทัลในไทย

         ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา “E-wallet ในไทย” เติบโตอย่างรวดเร็วจนกลายเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตประจำวัน ไม่ว่าจะซื้อกาแฟตอนเช้า จ่ายค่าอาหารกลางวัน เดินตลาดนัด หรือแม้แต่จ่ายค่าบริการออนไลน์ หลายคนเริ่มหันมาใช้ กระเป๋าเงินอิเล็กทรอนิกส์ มากขึ้น เพราะความสะดวก รวดเร็ว และตอบโจทย์สังคมไร้เงินสดที่กำลังขยายตัวอย่างต่อเนื่อง

อย่างไรก็ตาม ก็ยังมีหลายคนสงสัยว่า
“ใช้ E-wallet จ่ายเงินสะดวกไหม?”
“จ่ายเงินสดยังจำเป็นอยู่หรือไม่?”

บทความนี้จะพาคุณไปเปรียบเทียบแบบชัด ๆ ระหว่างการจ่ายเงินสด กับการใช้ กระเป๋าเงินดิจิทัลในไทย เพื่อให้เห็นข้อดีข้อเสีย และช่วยให้คุณเลือกวิธีการจ่ายเงินที่เหมาะกับไลฟ์สไตล์ที่สุด

E-wallet ในไทย คืออะไร? ทำไมถึงได้รับความนิยมสูง

E-wallet หรือ แอปกระเป๋าเงินออนไลน์ คือกระเป๋าเงินในรูปแบบดิจิทัลที่ใช้เก็บเงิน เติมเงิน จ่ายเงิน หรือโอนเงินผ่านสมาร์ทโฟน โดยไม่จำเป็นต้องพกเงินสด ซึ่งปัจจุบันมีให้เลือกหลากหลายแอปจนหลายคนสงสัยว่า ความนิยมของ E-wallet มาจาก 3 ปัจจัยหลัก:
1. ความสะดวก
สแกนจ่ายได้ภายในไม่กี่วินาที
2. ความปลอดภัย
มีการเข้ารหัส ยืนยันตัวตน และอยู่ภายใต้การกำกับของธนาคารแห่งประเทศไทย
3. สิทธิพิเศษ
หลายแอปมีส่วนลด คูปอง หรือแคชแบ็ก ทำให้ช่วยประหยัดเงินได้มาก

เปรียบเทียบ E-wallet ไทย กับการจ่ายเงินสด แบบเจาะลึก

1. ความสะดวกในการใช้งาน

         จ่ายเงินด้วย E-wallet

  • เพียงเปิดแอป กดชำระเงิน และสแกน QR
  • ไม่ต้องพกกระเป๋าสตางค์ ไม่ต้องพกเงินสด
  • ใช้ได้ทั้งร้านค้าเล็กใหญ่ ตั้งแต่ริมทางจนถึงห้างสรรพสินค้า
  • ติดตามยอดใช้จ่ายย้อนหลังได้ทันที

ถ้าถามว่า ใช้ E-wallet จ่ายเงินสะดวกไหม?
คำตอบคือ “สะดวกมาก” โดยเฉพาะในไทยที่ระบบพร้อมเพย์และ QR Payment ได้มาตรฐานเดียวกันทั่วประเทศ

จ่ายเงินด้วยเงินสด

  • ต้องพกธนบัตร/เหรียญจำนวนมาก
  • เสี่ยงเงินตกหล่น หรือทอนผิด
  • ต้องรอคิวในการรับเงินทอน
  • ใช้เวลานานกว่าในการจ่าย

ข้อดีอย่างเดียวของเงินสด คือ “ใช้ได้ทุกที่” แม้ร้านที่ไม่มีระบบสแกนจ่าย แต่ทุกปีร้านค้าไทยรองรับ QR มากขึ้นเรื่อย ๆ จนจุดเด่นนี้ลดลงอย่างเห็นได้ชัด

2. ความปลอดภัย

E-wallet ปลอดภัยไหม?

หลายคนถามคำนี้บ่อยมาก คำตอบคือ…

ปลอดภัยสูง เพราะมีระบบ เช่น

  • การเข้ารหัสข้อมูล (Encryption)
  • สแกนใบหน้า / ลายนิ้วมือ
  • OTP / PIN
  • ระบบป้องกันธุรกรรมผิดปกติ
  • อยู่ภายใต้การควบคุมของธนาคารแห่งประเทศไทย

กระเป๋าเงินอิเล็กทรอนิกส์ในไทย จึงมีความเสี่ยงน้อยกว่าเงินสด เพราะ

  • ไม่ต้องกลัวเงินหาย
  • ถ้าโทรศัพท์หาย สามารถล็อกบัญชีได้
  • ตรวจสอบธุรกรรมได้ทันที

เงินสดปลอดภัยไหม?

  • สูญหายแล้วหาไม่ได้
  • เสี่ยงถูกขโมย
  • ไม่สามารถตรวจสอบย้อนหลังได้
  • เสี่ยงการปลอมแปลงธนบัตร

3. ค่าธรรมเนียม

E-wallet

  • จ่ายเงินร้านค้าฟรี
  • โอนเงินระหว่างกันผ่านแอปไม่คิดค่าธรรมเนียม
  • เติมเงินบางช่องทางอาจมีค่าธรรมเนียมเล็กน้อย

เงินสด

  • ไม่มีค่าธรรมเนียม

แต่มีค่าใช้จ่ายแฝง เช่น ค่าถอนเงิน ค่าการเดินทางไป ATM

4. สิทธิพิเศษและความคุ้มค่า

          E-wallet ให้ความคุ้มค่ามากกว่าเพราะมี

  • คูปองส่วนลดทันที 10–100 บาท 
  • ใช้สิทธิ์ได้ทุกวัน / สัปดาห์ / เดือน แล้วแต่กำหนด
  • คูปองร้านค้าแบรนด์ดัง
  • Cashback 
  • สะสมคะแนน แลกเป็นสิทธิพิเศษ

นี่เป็นเหตุผลที่หลายคนมองว่า E-wallet ในไทยช่วยประหยัดเงินได้จริง ในทางกลับกัน 

เงินสด

  • ไม่มีส่วนลด
  • ไม่มี Cashback
  • ไม่สามารถเก็บข้อมูลการใช้จ่ายได้

5. การใช้งานในชีวิตจริง

สถานการณ์ที่ E-wallet เหมาะที่สุด

  • ซื้อกาแฟตอนเช้าที่ร้านสะดวกซื้อ 
  • สั่งอาหารตามสั่งหรือร้านริมทาง
  • ซื้อของในตลาด (ร้านค้าที่รองรับ)
  • จ่ายค่ารถไฟฟ้า (บางแอปรองรับ)
  • จ่ายค่าไฟ/ค่าน้ำผ่านมือถือ

โดยทุกการใช้จ่ายของแอป E-wallet ยังสามารถสะสมคะแนน แลกเป็นส่วนลดได้ต่อ

สถานการณ์ที่เงินสดยังจำเป็น

  • ร้านที่ยังไม่รองรับ การจ่ายเงินผ่านระบบ QR Code หรือ PromptPay 
  • บางตลาดสดต่างจังหวัด
  • ซื้อน้ำ/ขนมจากตู้ขายของแบบเก่า ที่ยังไม่รองรับการชำระเงินแบบใหม่

รวมแอป E-wallet ยอดนิยมในไทย (2025)

         เพื่อช่วยตอบคำถามว่า “E-wallet ไทยไหนน่าใช้?” นี่คือกลุ่มแอปที่นิยมมาก

  • แอปกระเป๋าเงินออนไลน์จากค่ายมือถือและแอป เช่น TrueMoney, Rabbit LINE Pay, Shopee Pay 
  • แอปกระเป๋าเงินดิจิทัลจากธนาคาร เช่น เป๋าตังค์ (G-Wallet), เป๋าตังเปย์, Micro Pay
  • แอปจากสถานีบริการน้ำมันรายใหญ่ เช่น Max Me, BluePlus

โดยแต่ละแอปจะมีจุดเด่นต่างกัน เช่น เน้นการจ่ายบิล–โอนเงิน, เน้นคูปอง ส่วนลด โปรโมชันร่วมกับร้านค้าชั้นนำทั่วประเทศ หรือ แม้แต่การสะสมแต้ม ค่าธรรมเนียมต่ำ หรือใช้งานสะดวกกับร้านค้ารายย่อย

สมัครใช้งาน E-wallet ยากไหม?

ง่ายมาก ไม่เกิน 5 นาที ก็พร้อมใช้งาน เพียง

  1. ดาวน์โหลดแอป
  2. ลงทะเบียน
  3. ยืนยันตัวตน (KYC) ด้วยบัตรประชาชน
  4. เติมเงินพร้อมเพย์ผ่านหมายเลข e-wallet หรือเชื่อมบัญชีธนาคาร

แนวโน้ม E-wallet ปี 2026 ในไทย

         ปี 2026 เป็นปีที่ระบบชำระเงินดิจิทัลเติบโตอย่างก้าวกระโดด เพราะ

✔ ร้านค้าเกือบทุกแห่งรองรับ QR พร้อมเพย์
✔ ผู้บริโภคต้องการความสะดวก
✔ สิทธิพิเศษช่วยดึงดูดการใช้งาน
✔ การเดินทางข้ามประเทศ (เช่น ไทย สิงคโปร์ จีน) ใช้ระบบ QR เดียวกัน
✔ ผู้ใช้งานเริ่มควบคุมการเงินผ่านแอปมากขึ้น

สรุป: ใช้ E-wallet จ่ายเงินสะดวกไหม?

จะเห็นได้ว่า การใช้ E-wallet แทนเงินสด มีข้อเปรียบเทียบให้เห็นอย่างชัดเจน เพราะการใช้กระเป๋าเงินดิจิทัลนั้นมีความสะดวก ง่าย ปลอดภัย มีส่วนลด และตอบโจทย์พฤติกรรมการใช้จ่ายของคนไทยปี 2025 อย่างมาก ดังนั้น หากใครกำลังพิจารณาว่าจะใช้ E-wallet ดีไหม คำตอบคือ “ดี และคุ้มมาก” โดยเฉพาะในประเทศไทยที่มีระบบการใช้จ่ายแบบดิจิทัลที่แข็งแกร่งและรองรับร้านค้ากว้างมากขึ้น

ผู้เขียน

Picture of ACU PAY Thailand

ACU PAY Thailand

ให้ทุกเรื่องการเงินเป็นเรื่องง่าย เริ่มต้นวันดีๆ ไปกับเรา MAKE A GREAT DAY WITH ACU PAY

บทความที่เกี่ยวข้อง

เพื่อนๆ สามารถติดตาม ACU PAY Thailand ผ่านช่องทางการติดตามอื่นๆ ได้ที่