Menu
Cryptocurrency ที่เราเห็นนั้นมีหลากหลายสกุลมากๆ ไม่ว่าจะเป็น Bitcoin Ethereum หรือแม้แต่ Bitkub เอง ซึ่งเราสามารถแบ่งออกได้ 2 ประเภทคือ เหรียญ (Coin) กับ โทเคน (Token) 2 ประเภทนี้ให้ความหมายที่ค่อนข้างแตกต่างกัน วันนี้เราลองมาดูครับต่างกันอย่างไร
เหรียญ (Coin) คือ สกุลเงินดิจิทัลที่ถูกสร้างขึ้นมาโดยมี Blockchain ของตนเอง มักมีบทบาทเปรียบเสมือนเงินที่ใช้ในการแลกเปลี่ยน แต่อยู่ในรูปแบบดิจิทัล ทำการขุดเหรียญนั้นได้ ไม่ว่ารูปแบบการขุดจะเป็นรูปแบบใดก็ตาม ซึ่งเป็นไปตามรายละเอียดและเงื่อนไขของเหรียญนั้น อีกหนึ่งความหมายในนิยามของ พรบ.สินทรัพย์ดิจิทัลไทย คือ เหรียญหรือสกุลเงินดิจิทัล “ถูกสร้างขึ้นมาแบบเฉพาะเจาะจง” สำหรับใช้ในการแลกเปลี่ยนสินค้าหรือบริการต่างๆ คล้ายกับเงินตรา (Currency) หรือแม้แต่ใช้สำหรับซื้อขายเหรียญดิจิทัลสกุลอื่น ยกตัวอย่างเหรียญ เช่น Bitcoin (BTC), Ethereum (ETH), และ Dogecoin (DOGE) เป็นต้น
ปัจจุบัน เหรียญ (Coin) มีวัตถุประสงค์คล้ายกับ เงินจากโลกจริง (Physical coin) ส่วนมากถูกใช้แลกเปลี่ยนสินค้าและบริการต่าง ๆ ขณะที่ราคาของเหรียญมักจะผันผวนตามความต้องการและปริมาณเหรียญในตลาด เหรียญบางเหรียญ ยังสามารถนำมาจ่ายเป็นค่าธรรมเนียมเครือข่าย (Gas fee) ที่ผู้ใช้ต้องจ่ายเพื่อใช้งานฟังก์ชันต่าง ๆ ของเครือข่ายบล็อกเชน อาทิ จ่าย Ether (ETH) เพื่อสร้าง Smart contract บนเครือข่าย Ethereum เป็นต้น
โทเคน (Token) คือสกุลเงินดิจิทัลที่สร้างขึ้นมาบนBlockchain อื่น ๆ ไม่มีเครือข่ายเป็นของตัวเอง ซึ่งมีฟังก์ชันการใช้งานที่แตกต่างกันออกไป ยกตัวอย่างโทเคน เช่น Tether (USDT), Yearn Finance (YFI),และ Uniswap (UNI) เป็นต้นสำหรับตัว Token นั้นก็จะถูกแยกย่อยออกมาอีก 2 ประเภท นั่นคือ
โทเคนสามารถใช้แลกเปลี่ยนสินค้าและบริการได้เหมือนกับเหรียญ แต่จะมีคุณสมบัติพิเศษเฉพาะตามที่ถูกสร้างขึ้นมา ไม่ว่าจะเป็น การมอบสิทธิ์เข้าถึงบริการของ DeFi หรือ โทเคนที่ผูกมูลค่ากับสินทรัพย์ประเภทอื่นเพื่อให้มีมูลค่าคงที่ (Stablecoin) เป็นต้น
หากต้องการเช็คว่าสกุลเงิน Cryptocurrency สกุลไหนสามารถคลิกดูได้ที่ https://coinmarketcap.com/ และพิมพ์ชื่อเหรียญนั้นๆ ในช่องการค้นหาได้เลย
เหรียญ (Coin) ถูกสร้างขึ้นบนเครือข่ายบล็อกเชนของตัวเอง ขณะที่โทเคน (Token) ถูกสร้างบนเครือข่ายบล็อกเชนอื่น ๆ เช่น Ethereum ผ่านการเขียน Smart contract
ทั้ง เหรียญ (Coin) และ โทเคน (Token) มีข้อดีและการใช้งานที่แตกต่างกัน เพื่อให้การลงทุนของเราความเสี่ยงที่ต่ำ และให้ผลตอบแทนได้ เพื่อนๆ อย่าลืมศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมก่อนการลงทุนด้วยนะครับ
