fbpx
Search
Close this search box.

IMF คาดเศรษฐกิจโลกปี 2568 ขยายตัว 3.3%

ในช่วงปี 2567 และ 2568 เศรษฐกิจโลกมีแนวโน้มที่จะขยายตัวต่อเนื่อง โดยกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) ได้คาดการณ์อัตราการเติบโตของเศรษฐกิจโลกไว้ที่ 3.2% ในปี 2567 และปรับเป็น 3.3% ในปี 2568 ซึ่งปัจจัยสำคัญที่ช่วยหนุนการเติบโตนี้ก็มาจากหลายภูมิภาคทั่วโลก สะท้อนถึงการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลกในภาพรวมเป็นไปในทางที่ดีขึ้น ส่งผลให้สินทรัพย์เสี่ยงอย่างตลาดหุ้นมีความน่าสนใจ และวันนี้ ACU PAY จะมาแนะนำให้ทุกคนได้รู้จักกัน

เศรษฐกิจของจีน ยังคงเป็นตัวขับเคลื่อนที่สำคัญ ด้วยตัวเลขคาดการณ์ GDP ที่ปรับเพิ่มจาก 4.6% เป็น 5.0% ในปี 2567  และคาดว่าจะเติบโต 4.5% ในปี 2568 ซึ่งแรงหนุนมาจากการบริโภคในประเทศและการส่งออกที่แข็งแกร่ง โดยเฉพาะในกลุ่มสินค้าด้านเทคโนโลยี แต่อาจจะต้องเผชิญแรงกดดันจากการชะลอตัวของภาคอสังหาริมทรัพย์ รวมทั้งความเชื่อมั่นที่เริ่มอ่อนแอลงทั้งภาคครัวเรือนและภาคธุรกิจ

ยุโรปก็เริ่มฟื้นตัวเช่นกัน หลังจากผ่านจุดต่ำสุดในช่วงที่ผ่านมา การเติบโตของภาคบริการและการเพิ่มขึ้นของค่าจ้างที่แท้จริง (real wage) จะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจและหนุนการบริโภคในปีหน้า IMF คาดการณ์ GDP ของยุโรปจะเติบโต 0.9% ในปี 2567 และ 1.5% ในปี  2568 มีสัญญาณการเติบโตที่ชะลอตัวจากภาคการส่งออกและกำลังซื้อในประเทศที่ชะลอตัวลง

สำหรับสหรัฐอเมริกา เศรษฐกิจมีแนวโน้มชะลอตัวลงเล็กน้อย เนื่องจากตลาดแรงงานเริ่มลดความร้อนแรงและการใช้จ่ายของรัฐบาลมีแนวโน้มลดลง สอดคล้องกับนโยบายการเงินแบบตึงตัวของธนาคารกลาง โดย IMF คาดการณ์การเติบโตของ GDP สหรัฐฯ ไว้ที่ 1.9%

แม้ว่าเศรษฐกิจโลกจะดูมีแนวโน้มที่ดีขึ้น ได้รับแรงสนับสนุนจากการขยายตัวของการใช้จ่ายภายในประเทศ ธนาคารกลางหลายแห่งวางแผนที่จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายอย่างต่อเนื่อง แต่ IMF ก็เตือนว่า ภาวะเงินเฟ้อยังคงเป็นประเด็นที่สำคัญ แม้ว่าเงินเฟ้อทั่วโลกจะลดลงในช่วงก่อนหน้านี้ แต่ยังมีบางภาคส่วน เช่น ภาคบริการ ที่เงินเฟ้อยังอยู่ในระดับสูง และการได้รับผลกระทบจากความเสี่ยงด้านภูมิรัฐศาสตร์ และความไม่แน่นอนทางการเมือง ซึ่งอาจทำให้การลดเงินเฟ้อกลับเข้าสู่เป้าหมายช้ากว่าที่คาดการณ์ไว้ และคาดการณ์ว่าจะกลับสู่ระดับปกติภายในสิ้นปี 2568

ในส่วนของการลงทุนเศรษฐกิจที่ฟื้นตัว และแนวโน้มการลดดอกเบี้ยในหลายประเทศน่าจะสร้างโอกาสที่ดีสำหรับนักลงทุน โดยเฉพาะในตลาดหุ้น แต่อย่างไรก็ตามความเสี่ยงก็ยังคงมีอยู่ ทั้งในด้านนโยบายการเงินและปัจจัยภูมิรัฐศาสตร์ ความตึงเครียดระหว่างประเทศ ดังนั้นการกระจายการลงทุนในกองทุนที่เน้นความหลากหลายในระดับโลกจึงถือว่าเป็นกลยุทธ์ที่เหมาะสมที่สุดในช่วงเวลานี้

ในภาพรวมภูมิภาคเอเชียโดยเฉพาะจีนและอินเดีย ยังคงเป็นจุดเด่นในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจโลก เนื่องจากทั้งสองประเทศมีบทบาทสำคัญในการส่งออกและเป็นผู้นำในด้านของเทคโนโลยี ขณะประเทศอื่นๆที่กำลังพัฒนาก็ต้องเผชิญกับแรงกดดันจากค่าเงินดอลลาร์ที่แข็งค่า ซึ่งอาจทำให้เศรษฐกิจในประเทศเหล่านี้ต้องปรับตัวเพิ่มขึ้น

โดยสรุปแล้ว เศรษฐกิจโลกในอีกสองปีข้างหน้ายังมีโอกาสเติบโตต่อไป แต่ก็ต้องระวังปัญหาสภาวะเงินเฟ้อ ความผันผวนของตลาด และความเสี่ยงด้านภูมิรัฐศาสตร์ที่อาจส่งผลกระทบต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจในระยะยาว

ผู้เขียน

Picture of ACU PAY Thailand

ACU PAY Thailand

ให้ทุกเรื่องการเงินเป็นเรื่องง่าย เริ่มต้นวันดีๆ ไปกับเรา MAKE A GREAT DAY WITH ACU PAY

บทความที่เกี่ยวข้อง

เพื่อนๆ สามารถติดตาม ACU PAY Thailand E-Wallet ผ่านช่องทางการติดตามอื่นๆ ได้ที่