fbpx
Search
Close this search box.

จับตา ญี่ปุ่น ค่าเงินเยน อ่อนค่าสุดในรอบ 34 ปี

เมื่อช่วงสิ้นเดือนที่ผ่านมา (27 มี.ค.67) ค่าเงินเยนของญี่ปุ่น ได้ร่วงลงแตะระดับต่ำสุดในรอบ 34 ปี เมื่อเทียบกับเงินดอลลาร์ ซึ่งอ่อนค่าลง 0.3% ไปแตะ 151.97 เยนต่อดอลลาร์ สาเหตุจากการเทขายเงินเยนโดยนักลงทุน หลังจากมีกระแสคาดการณ์ว่า ธนาคารกลางญี่ปุ่น (Bank of Japan: BOJ) จะยังคงดำเนินนโยบายการเงินแบบผ่อนคลายต่อไป แม้ว่าได้ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมครั้งล่าสุดก็ตาม

เนื้อหา

สำนักข่าวซีเอ็นบีซีรายงานว่า สกุลเงินเยนอ่อนค่าลงอย่างต่อเนื่อง แม้ว่าธนาคารกลางญี่ปุ่นจะประกาศยุตินโยบายการเงินแบบดอกเบี้ยติดลบเมื่อวันที่ 19 มี.ค. ที่ผ่านมาก็ตาม ซึ่งเป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งแรกในรอบ 8 ปี

นโยบายดอกเบี้ยแบบติดลบที่ว่านั้น ใช้ขึ้นในสภาวะที่ผู้คนต้องต่างจ่ายเงินให้กับธนาคาร หากพวกเขานำเงินไปฝากไว้ ซึ่งนโยบายดังกล่าวนี้ใช้ขึ้นในหลายประเทศเพื่อกระตุ้นให้ผู้คนนำเงินไปจับจ่ายใช้สอยแทนการฝากไว้กับธนาคาร โดยญี่ปุ่นได้ประกาศใช้เมื่อปี 2559 

อย่างไรก็ดี เงินเยนอ่อนค่าลงอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากการที่ BOJ ให้คำมั่นว่าจะยังคงใช้นโยบายผ่อนคลายการเงินต่อไปอีกระยะหนึ่ง บรรดานักวิเคราะห์จึงคาดการณ์ว่านักลงทุนยังมีเหตุผลที่จะเทขายเงินเยนต่อไป เพราะคาดว่าส่วนต่างระหว่างอัตราดอกเบี้ยของญี่ปุ่นและสหรัฐนั้น ยังไม่มีแนวโน้มที่จะลดลง

โดยเมื่อช่วงสิ้นเดือนมีนาคมที่ผ่านมา เงินเยนอ่อนค่าลงแตะระดับต่ำที่สุดในรอบ 34 ปี โดยมีมูลค่าอยู่ที่ 151.975 เยน เมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ และในช่วงเช้า (1 เม.ย.) ราคาอยู่ที่ 151.315 เยน 

ทางด้านรัฐมนตรีกระทรวงการคลังญี่ปุ่น นายชุนอิจิ ซูซูกิ ชี้ว่า เหตุผลที่ทำให้ค่าเงินเยนอ่อนค่าหนักนั้น เกิดจากการเก็งกำไรในตลาดสกุลเงิน แต่ไม่สามารถให้เหตุผลได้ว่าสาเหตุที่ค่าเงินเยนร่วง หนึ่งในนั้นเกิดจากการที่ธนาคารกลางญี่ปุ่นเปลี่ยนนโยบายหรือไม่

นอกจากนี้สำนักข่าวบลูมเบิร์กระบุว่า การอ่อนค่าอย่างต่อเนื่องของค่าเงินเยนจนไปแตะระดับใหม่ในรอบ 34 ปี อาจเป็นสัญญาณเตือนให้รัฐบาลญี่ปุ่นพิจารณาเข้าแทรกแซงตลาดอัตราแลกเปลี่ยน ซึ่งก่อนหน้านี้รัฐบาลเคยเข้าแทรกแซงโดยตรงมาแล้วที่ระดับ 151.95 เยนต่อดอลลาร์ เมื่อเดือนต.ค. 2565

โดยการอ่อนค่าของเงินนี้ คาดว่าจะส่งผลดีและเสีย สำหรับข้อดีที่เอื้อประโยชน์สำหรับการอ่อนค่าของเงินเยนคือ การส่งออกของญี่ปุ่น เนื่องจากทำให้สินค้าที่ผลิตในญี่ปุ่นมีราคาถูกลงเมื่อนำไปจำหน่ายในตลาดต่างประเทศและทำให้รายได้ในรูปเงินเยนในต่างประเทศมีมูลค่าสูงขึ้นด้วย แต่การอ่อนค่าของเงินเยนทำให้สินค้าที่นำเข้าสู่ญี่ปุ่นมีราคาแพงขึ้นและส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจ เนื่องจากญี่ปุ่นต้องพึ่งพาการนำเข้าพลังงานมากกว่า 90% ของความต้องการใช้พลังงาน

ผู้เขียน

Picture of ACU PAY Thailand

ACU PAY Thailand

ให้ทุกเรื่องการเงินเป็นเรื่องง่าย เริ่มต้นวันดีๆ ไปกับเรา MAKE A GREAT DAY WITH ACU PAY

บทความที่เกี่ยวข้อง

เพื่อนๆ สามารถติดตาม ACU PAY Thailand ผ่านช่องทางการติดตามอื่นๆ ได้ที่