หลายคนคงคิดว่าการฝากเงินที่มั่นคงที่สุด คือการฝากเงินไว้กับธนาคารกันใช่ไหม นอกจากจะปลอดภัยแล้วยังมีดอกเบี้ยให้แต่ละปีด้วย แต่ถ้าเรามองดูสภาวะเศรษฐกิจในตอนนี้ที่มีอัตราเงินเฟ้อพุ่งเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ซึ่งตอนนี้แซงอัตราดอกเบี้ยเงินฝากในธนาคารไปแล้วด้วยซ้ำ ดังนั้นการเก็บเงินไว้ในธนาคารอย่างเดียว อาจไม่ใช่ตัวเลือกที่ดีที่สุดแล้ว
หลายคนน่าจะคุ้นเคยกับคำว่า “เงินเฟ้อ” คือ ภาวะที่ราคาสินค้าและบริการมีแนวโน้มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องจากต้นทุนการผลิตที่สูงขึ้น และความต้องการของผู้บริโภคที่มากขึ้น ส่งผลให้เราใช้เงินซื้อสินค้าและบริการต่าง ๆ ได้น้อยลง ยิ่งมีเงินเฟ้อมากเท่าไหร่ มูลค่าเงินของเราก็จะยิ่งลดลงเท่านั้น
ถ้าจะให้อธิบายให้เห็นภาพ ให้มองย้อนกลับไปเมื่อ 5 – 10 ปีที่แล้ว ก๋วยเตี๋ยวหนึ่งชามราคาประมาณ 30 – 35 บาท แต่ปัจจุบันก๋วยเตี๋ยวราคาเริ่มต้น 50 บาทไปแล้ว ทั้งที่จำนวนเงินมีค่าเท่าเดิม แต่ราคาข้าวของกลับแพงขึ้น
เห็นได้อย่างชัดเจนจาก “อัตราเงินเฟ้อทั่วไป” เฉลี่ย 7 เดือนแรกของไทย ปีนี้ ในเดือนมกราคม – กรกฎาคม 2566 ขยับเพิ่มขึ้นราว 2.19 % กลับกัน จากข้อมูลธนาคารแห่งประเทศไทยเดือนสิงหาคม 2566 อัตราเงินฝากประจำสูงสุด 12 เดือน ยังได้รับดอกเบี้ยสูงสุดแค่ 1.90 % และมีอัตราดอกเบี้ยนโยบายของธนาคารพาณิชย์อยู่ที่ 1.7 % จะเห็นได้ว่าอัตราเงินเฟ้อซึ่งสูงกว่าอัตราดอกเบี้ยที่ธนาคารกลางกำหนดไปแล้ว
ดังนั้นเพื่อไม่ให้เงินของเราถูกด้อยค่าลงในอนาคต เราจึงต้องหาการออมเงินที่ให้อัตราดอกเบี้ยและผลตอบแทนสูงกว่าเงินเฟ้อ ไม่เช่นนั้นเงินที่เราเก็บไว้คงไม่พอใช้ในวัยเกษียณแน่นอน
กองทุนรวมเป็นการลงทุนที่สามารถต่อสู้กับอัตราเงินเฟ้อได้ เหมาะสำหรับมือใหม่ คนที่มีความรู้ไม่มาก หรือไม่มีเวลาดูแลพอร์ตการลงทุน เพราะจะมีบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) เข้ามาดูแลปรับพอร์ตให้ ซึ่งถือว่าเป็นทางเลือกที่น่าสนใจ
ส่วนใหญ่จะเป็นบริษัทเอกชนที่เป็นผู้ออกหุ้น ซึ่งอาจได้รับผลตอบแทนประมาณ 3 – 6% ต่อปี แนะนำว่าควรเลือกเข้าไปลงทุนในหุ้นกู้ที่มีอันดับความน่าเชื่อถือระดับ investment grade เช่นอันดับ A – เป็นต้นไป
หุ้นเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่จะสามารถเอาชนะเงินเฟ้อได้ เพราะผลตอบแทนประมาณการต่อปีอยู่ที่ 8 – 10 % ต่อปี ทั้งยังได้ค่าปันผลและส่วนต่างของราคาเพิ่มเติมอีก แต่การลงทุนในหุ้นก็ย่อมมีความเสี่ยงค่อนข้างสูง ควรศึกษาบริษัทที่จะลงทุนให้ดีก่อน
ทองคำเป็นสินทรัพย์ที่มีมูลค่าในตัว ไม่ผันผวนไปกับภาวะเงินเฟ้อ เพราะทองคำจะมีมูลค่าเพิ่มมากขึ้นในระยะยาว ซึ่งปัจจุบันเราสามารถลงทุนได้หลากหลายรูปแบบ ทองคำแท่ง ทองรูปพรรณ หรือลงทุนในโกลด์ฟิวเจอร์ส ผ่านเว็บไซต์หรือแอปพลิเคชันก็ได้เช่นกัน ซึ่งสามารถให้ผลตอบแทน 8 – 10 % ต่อปี
อย่างเช่น คริปโตเคอร์เรนซี สามารถให้ผลตอบแทนที่สูง แต่การลงทุนดิจิทัลมีความเสี่ยงและโอกาสขาดทุนสูงมาก เพราะราคาเหรีญมีความอ่อนไหวตามกระแสข่าวทั้งในและต่างประเทศ ดังนั้นควรศึกษาให้ดีก่อนตัดสินใจลงทุน
ทั้งหมดนี้คือทางเลือกที่จะสร้างความมั่งคั่งให้กับเรา ได้มากกว่าแค่การฝากเงินในธนาคาร แต่ทั้งนี้ก่อนการลงทุนทุกครั้ง ควรเข้าใจและศึกษาความเสี่ยง และประเภทผลตอบแทนที่อยากได้ ก่อนจะตัดสินใจลงทุน
Cookie | Duration | Description |
---|---|---|
cookielawinfo-checkbox-analytics | 11 months | This cookie is set by GDPR Cookie Consent plugin. The cookie is used to store the user consent for the cookies in the category "Analytics". |
cookielawinfo-checkbox-functional | 11 months | The cookie is set by GDPR cookie consent to record the user consent for the cookies in the category "Functional" |
cookielawinfo-checkbox-necessary | 11 months | This cookie is set by GDPR Cookie Consent plugin. The cookies is used to store the user consent for the cookies in the category "Necessary". |
cookielawinfo-checkbox-others | 11 months | This cookie is set by GDPR Cookie Consent plugin. The cookie is used to store the user consent for the cookies in the category "Other". |
cookielawinfo-checkbox-performance | 11 months | This cookie is set by GDPR Cookie Consent plugin. The cookie is used to store the user consent for the cookies in the category "Performance". |
viewed_cookie_policy | 11 months | The cookie is set by the GDPR Cookie Consent plugin and is used to store whether or not user has consented to the use of cookies. It does not store any personal data. |