fbpx
Search
Close this search box.

อันตรายนั่งไขว่ห้าง ส่งผลต่อสุขภาพกว่าที่คิด!

การนั่งไขว่ห้างอาจเป็นท่านั่งสบายสำหรับใครหลาย ๆ คน โดยเฉพาะกับสาว ๆ ที่มักจะชอบนั่งท่านี้ เพราะนอกจากจะเป็นท่าที่สบายแล้ว ท่านั่งนี้ยังทำให้ดูบุคลิกดี มีความมั่นใจมากขึ้น แต่รู้หรือไม่ว่า ความเคยชินของการนั่งท่านี้เป็นประจำนาน ๆ อาจส่งผลเสียกับสุขภาพในระยะยาวได้ ครั้งนี้เอซียูเพย์จะพารู้สาเหตุของอาการปวดเมื่อยบริเวณหลัง สะโพกต่าง ๆ ที่อาจมีจุดเริ่มมาจากแค่การนั่งไขว่ห่าง 

1. เกิดอาการปวดเมื่อยโดยเฉพาะบริเวณหลัง

เมื่อนั่งไขว่ห้างหรือไขว้ขาเป็นเวลานาน จะส่งผลให้ลักษณะของร่างกายอยู่ในท่าทางตำแหน่งที่ไม่เหมาะสม โดยคอจะยื่นออกไปด้านหน้า ไหล่จะไม่เท่ากัน สะโพกจะเคลื่อนตัวอยู่ในท่าที่เทน้ำหนักลงไปที่ก้นมากกว่าปกติ โดยที่น้ำหนักกดทับจะเทไปยังบริเวณก้นข้างใดข้างหนึ่งซ้ำ ๆ จนส่งผลกระทบต่อหลังโดยตรง ทำให้เกิดอาการปวดเมื่อยได้ง่าย โดยถึงขั้นกระดูกสันหลังอาจเกิดการผิดรูปคดงอ ไปจนถึงหมอนรองกระดูกเสื่อม 

2. ข้อเท้าตก

เวลาที่นั่งไขว่ห้างหรือไขว้ขา อาจส่งผลเสียต่อเส้นประสาทที่อยู่บริเวณด้านข้างของกระดูกข้อเข่าด้านนอก จนทำให้เกิดภาวะข้อเท้าตก มีอาการข้อเท้าอ่อนแรง ยกเท้า หรือ กระดกข้อเท้าไม่ได้ เวลาเดินจึงต้องงอสะโพกมากขึ้น ซึ่งภาวะข้อเท้าตกส่วนใหญ่จะเป็นการบาดเจ็บแค่ชั่วคราวและหายเองได้ แต่ถ้าเส้นประสาทถูกกดทับรุนแรง จนรบกวนการใช้ชีวิต อาจเป็นจุดเริ่มต้นของอุบัติเหตุที่อาจเกิดขึ้นได้ในอนาคต

3. ทำให้หัวใจทำงานหนัก ความดันสูง

หลายคนอาจเกิดอาการปวดหรือชาที่ขาเมื่อนั่งไขว่ห้างนาน ๆ แต่อาจจะคิดว่าสาเหตุมาจากการนั่งติดอยู่กับที่เป็นเวลานาน แต่จริง ๆ แล้วนั้น เกิดจากเส้นประสาทและเส้นเลือดถูกกดทับ ซึ่งส่งผลให้หัวใจทำงานหนัก สูบฉีดเลือดไปหล่อเลี้ยงยังส่วนต่าง ๆ ไม่ถึง จนส่งผลให้เกิดอาการชาที่บริเวนต้นขาจากการนั่งไขว้ห้างนั่นเอง 

อาการเตือนแรกจากการนั่งไขว่ห้าง ไขว้ขานานเกินไปจนเป็นนิสัย

ส่วนใหญ่จะเป็นอาการปวด โดยบริเวณหลัก ๆ คือช่วงหลังส่วนล่าง เพราะท่านั่งไขว่ห้าง หรือไขว้ขาจะใช้กล้ามเนื้อหน้าท้อง และกล้ามเนื้อส่วนหลังมากที่สุด ยังมีมีอาการเจ็บบริเวณก้นข้างใดข้างหนึ่ง เนื่องจากแรงกดทับบริเวณก้นโดยตรง 

อาการที่เป็นหนัก มีสัญญาณเตือนว่าควรได้รับการปรึกษาแพทย์

ถ้ามีอาการปวดหลังต่อเนื่องนานหลายวัน พักผ่อนแล้วอาการปวดยังไม่ดีขึ้น ควรปรึกษาแพทย์เพื่อตรวจสอบว่ามีสาเหตุของอาการปวดอย่างอื่นร่วมด้วยหรือไม่ นอกจานี้ถ้ามีอาการชาร่วมกับการปวดหลัง ไม่ว่าจะเป็นอาการชาปวดร้าวลงขา หรือนั่งไขว่ห้างแล้วมีอาการชาที่บริเวณหน้าแข้ง หรือหลังเท้า นั้นจะแสดงถึงภาวะเส้นประสาทถูกกดทับ หรือถ้ามีภาวะข้อเท้าอ่อนแรง กระดกข้อเท้าไม่ได้ เดินสะดุด หากพบอาการเหล่านี้ควรรีบปรึกษาแพทย์โดยเร็ว

ควรปรับเปลี่ยนท่านั่งอย่างไรให้ลดความเสี่ยงจากผลเสียของการนั่งไขว่ห้าง

เริ่มง่าย ๆ ด้วยการเปลี่ยนท่านั่ง เป็นท่ายืดขาแล้วไขว้กันแทนการนั่งไขว่ห้าง เพราะเป็นท่าที่ไม่ได้ทำให้สะโพกเสียสมดุลมากเท่ากับการนั่งไขว่ห้างแบบยกขา แต่ถ้าหลีกเลี่ยงไม่ได้จริง ๆ ควรจะนั่งสลับข้างใหม่ทุก ๆ ครึ่งชั่วโมง เพื่อป้องกันไม่ให้ขาข้างใดข้างหนึ่งถูกกดทับจนเสียสมดุลเป็นเวลานานเพื่อลดความเสี่ยงในการเกิดการกดทับเส้นประสาทได้บ้าง แต่ถึงอย่างนั้นการนั่งไขว่ห้างก็ยังไม่ใช่ท่านั่งที่ถูกต้องอยู่ดี 

ดังนั้นวิธีที่จะช่วยบรรเทาอาการปวดเมื่อยจากการนั่งไขว่ขาที่ดีที่สุดนั่นคือการหมั่นยืดเส้นและสร้างความแข็งแรงของกล้ามเนื้อหลัง และกล้ามเนื้อแกนกลางลำตัว อย่างเช่น การออกกายบริหารในท่าแพลงก์ ท่าซิทอัพต่าง ๆ เพื่อเสริมสร้างความแข็งแรงให้กับกล้ามเนื้อในส่วนที่ต้องทำงานหนักเมื่อนั่งอยู่ในท่าไขว่ห้าง ไขว้ขา ซึ่งเมื่อกล้ามเนื้อแข็งแรงขึ้น เพียงเท่านี้อาการข้างเคียงต่าง ๆ จากการนั่งไขว่ห้างก็จะลดน้อยลงอีกด้วย

ขอบคุณข้อมูลจาก โรงพยาบาลเฉพาะทางกระดูกและข้อ kdms

บทความที่เกี่ยวข้อง

เพื่อนๆ สามารถติดตาม ACU PAY Thailand ผ่านช่องทางการติดตามอื่นๆ ได้ที่