ล่าสุด กนง. ได้มีการปรับขึ้นดอกเบี้ยนโยบายอีก 0.25% เป็น 2.25% ซึ่งถือว่าสูงสุดในรอบ 9 ปี โดยการปรับขึ้นดอกเบี้ยครั้งต่อไปจะขึ้นเพิ่มอีกหรือไม่ ต้องดูเศรษฐกิจและการจัดตั้งรัฐบาลใหม่ที่อาจกระทบการเบิกจ่ายงบ 6 เดือน
เมื่อวันที่ 2 สิงหาคม 2566 ที่ผ่านมา นายปิติ ดิษยทัต เลขานุการคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) เปิดเผยว่า คณะกรรมการนโยบายการเงินมีมติเป็นเอกฉันท์ ให้ขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายจาก 2 % เป็น 2.25 % ต่อปี เพิ่มขึ้น 0.25% โดยให้มีผลทันที
เหตุผลที่ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย เพราะว่าเศรษฐกิจไทยมีแนวโน้มขยายตัวจากภาคการท่องเที่ยวและการบริโภคสำคัญจากภาคเอกชน ขณะที่การส่งออกสินค้าหดตัวในระยะสั้น เนื่องจากการชะลอของเศรษฐกิจในจีนและวัฏจักรอิเล็กทรอนิกส์โลกที่ฟื้นตัวได้ช้า แต่คาดการณ์ว่าจะปรับดีขึ้นในระยะข้างหน้าสอดคล้องกับแนวโน้มการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลก
อีกทั้งความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจมีมากขึ้น ทั้งจากภาคการส่งออกสินค้าที่อาจฟื้นตัวช้ากว่าคาด รวมถึงสถานการณ์การเมืองที่ยังไม่แน่นอน และถึงแม้ว่าอัตราเงินเฟ้อทั่วไปปรับลดลงจากราคาในหมวดพลังงาน แต่ก็ยังมีความเสี่ยงสูงจาก ต้นทุนราคาอาหารที่อาจปรับเพิ่มขึ้น ถ้าเกิดปรากฏการณ์เอลนีโญที่รุนแรง นอกจากนี้ มาตรการช่วยเหลือค่าครองชีพ และผลของฐานที่สูงในปีก่อนหน้า แต่ประเมินว่าจะปรับสูงขึ้นในช่วงครึ่งหลังของปีหลัง และปัจจัยชั่วคราวทยอยหมดลง
อย่างไรก็ตาม คณะกรรมการกนง. ประเมินว่าเศรษฐกิจไทยมีแนวโน้มขยายตัวต่อเนื่องเข้าสู่ระดับศักยภาพ ขณะที่อัตราเงินเฟ้อโน้มเข้าสู่กรอบเป้าหมาย แต่ยังต้องติดตามความเสี่ยงด้านสูง นโยบายการเงินยังควรดูแลให้เงินเฟ้ออยู่ในกรอบเป้าหมายอย่างยั่งยืนควบคู่กับให้ความสำคัญกับเสถียรภาพเศรษฐกิจการเงินในระยะยาว โดยการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบาย เพิ่มเติมจะพิจารณาให้เหมาะสมกับแนวโน้มและความเสี่ยงของเศรษฐกิจและเงินเฟ้อ
“การปรับเพิ่มดอกเบี้ยนโยบาย คณะกรรมการ กนง.ได้พิจารณาอย่างมาก เกี่ยวกับหนี้ครัวเรือนไทยบางส่วนที่ยังเปราะบางจากภาระหนี้ที่สูงขึ้นและรายได้ที่ฟื้นตัวช้า แต่กนง.ได้ สนับสนุนการดำเนินมาตรการปรับโครงสร้างหนี้อย่างต่อเนื่อง รวมทั้งมาตรการเฉพาะจุดและแนวทางแก้ปัญหาหนี้อย่างยั่งยืนสำหรับกลุ่มเปราะบาง โดยเฉพาะมาตรการการให้สินเชื่ออย่างรับผิดชอบและเป็นธรรม ดังนั้นการประชุมครั้งต่อไป จะมีการพิจารณาขึ้นดอกเบี้ยหรือไม่ ต้องดูความชัดเจนของเศรษฐกิจภาพรวม”
ทั้งนี้การปรับขึ้นดอกเบี้ยได้มีการปรับติดต่อกันเป็นครั้งที่ 7 แล้ว นับตั้งแต่วันที่ 10 สิงหาคม 2565 ขึ้นดอกเบี้ยจาก 0.50% ต่อปีสู่ 0.75% ต่อปีและครั้งนี้กนง.มีมติขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายอีก 0.25% ต่อปี จาก 2% เป็น 2.25% ต่อปี ซึ่งอยู่ในระดับเท่ากับเมื่อปี 2557 นับว่าเป็นระดับสูงสุดในรอบกว่า 9 ปีเลยทีเดียว
Cookie | Duration | Description |
---|---|---|
cookielawinfo-checkbox-analytics | 11 months | This cookie is set by GDPR Cookie Consent plugin. The cookie is used to store the user consent for the cookies in the category "Analytics". |
cookielawinfo-checkbox-functional | 11 months | The cookie is set by GDPR cookie consent to record the user consent for the cookies in the category "Functional" |
cookielawinfo-checkbox-necessary | 11 months | This cookie is set by GDPR Cookie Consent plugin. The cookies is used to store the user consent for the cookies in the category "Necessary". |
cookielawinfo-checkbox-others | 11 months | This cookie is set by GDPR Cookie Consent plugin. The cookie is used to store the user consent for the cookies in the category "Other". |
cookielawinfo-checkbox-performance | 11 months | This cookie is set by GDPR Cookie Consent plugin. The cookie is used to store the user consent for the cookies in the category "Performance". |
viewed_cookie_policy | 11 months | The cookie is set by the GDPR Cookie Consent plugin and is used to store whether or not user has consented to the use of cookies. It does not store any personal data. |