เปิดตำนานกำแพงเมืองจีน

แน่นอนว่าไม่มีใครไม่รู้จัก “กำแพงเมืองจีน” 1 ใน 7 สิ่งมหัศจรรย์ของโลก อารยธรรมโบราณที่มีความยิ่งใหญ่และอลังการ และครั้งนี้เอซียูเพย์จะพาเพื่อนๆมาทำความรู้จักกับกำแพงเมืองจีน ใครพร้อมแล้ว ไปกันเลยย

ความเป็นมาของ กำแพงเมืองจีน

กำแพงเมืองจีน เป็นกำแพงที่มีป้อมคั่นเป็นช่วง ๆ ของจีนสมัยโบราณ กำแพงส่วนใหญ่สร้างขึ้นในสมัยราชวงศ์ฉิน ทั้งนี้เพื่อป้องกันการบุกรุกจาก ชาวฮัน ตั้งแต่สมัยราชวงศ์โจว เนื่องจากจะเข้ามารุกรานจีนตามแนวชายแดนทางใต้ ในสมัยราชวงศ์ฉิน ได้สั่งให้สร้างกำแพงหมื่นลี้ตามชายแดน เพื่อป้องกันพวกซฺยงหนูและพวกเติร์ก ที่เข้ามารุกรานจากทางเหนือ กลุ่มชนเผ่าเร่ร่อนจากทางเหนือนั้น แม้จะมีจำนวนประชากรน้อยกว่าชาวจีนอยู่มาก แต่เมื่อพวกเขาอยู่บนหลังม้า ใช้อาวุธธนูได้อย่างคล่องแคล่วแม่นยำ อีกทั้งกลุ่มชาวเหนือนี้ยังมีความอดทนสูงต่อสภาพแวดล้อมอันเลวร้าย จึงนับว่าเป็นภัยคุกคามทางการทหารอย่างร้ายแรง

จนกระทั่งจิ๋นซีฮ่องเต้ ได้ปฏิบัติการรวมประเทศแบบเด็ดขาด ในช่วง 221 ปีก่อนคริสตกาล และเริ่มโครงการสร้างป้อม และแนวกำแพงของแคว้นต่าง ๆ เชื่อมเข้าด้วยกัน จนกลายเป็นกำแพงยาวหนึ่งเดียวในที่สุด ตามตำนานเล่าว่ากำแพงเมืองจีนมีต้นแบบมาจาก “มังกร” ซึ่งในจีน มังกรเป็นสัตว์สัญลักษณ์ที่แสดงถึงพลังการปกป้องคุ้มครอง และเมื่อมองดูดี ๆ จะเห็นว่ากำแพงเมืองจีนมีลักษณะรูปร่างคล้ายมังกรที่ขดตัวอยู่เหนือภูเขา คล้ายกับว่ากำลังปกป้องอาณาเขตของตัวเองอยู่

ด่านกำแพงเมืองจีน 9 ด่าน

ด่านจวียงกวน เป็นด่านที่อยู่ใกล้กรุงปักกิ่งมากที่สุด ห่างออกไปเพียงแค่ 50 กิโลเมตร ขึ้นชื่อในเรื่องของความสวยงามของทิวทัศน์ เป็นจุดที่มีวัด สวน และจารึกภาษาต่างๆ กระจายโดยรอบ
ด่านปาต้าหลิ่ง เป็นด่านที่เดินทางสะดวกที่สุด อยู่ใกล้กรุงปักกิ่งทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือประมาณ 82 กิโลเมตร มีกระเช้าลอยฟ้าและรถรางให้นั่ง ที่สำคัญมีร้านอาหารมากมายอีกด้วย
ด่านมู่เถียนยวี่ เป็นด่านที่ได้รับการบูรณะจนมีสภาพสมบูรณ์ ใกล้เคียงกับของเดิมที่สุด อยู่ห่างจากปักกิ่งแค่ 70 กิโลเมตร และยังมีกระเช้าลอยฟ้าขึ้นด้วยเช่นกัน
ด่านจินซานหลิ่ง สภาพของด่านนี้ค่อนข้างเก่าและอยู่ไกลตัวเมืองปักกิ่ง จึงไม่ค่อยได้รับความนิยมมากนัก แต่ช่วงฤดูใบไม้ร่วง จะเป็นช่วงที่สวยงามอย่างมากเพราะว่าเราสามารถเห็นใบไม้เปลี่ยนสีไปทั่วบริเวณ
ด่านซือหม่าไถ เป็นด่านที่ขึ้นชื่อเรื่องความสวยงามที่สุด ตั้งอยู่บนแนวเขาที่มีความสูงชัน โดยบริเวณรอบๆของด่านนี้จะมีชุมชนโบราณขนาดใหญ่ที่ภายในมีทั้งโรงแรม 6 ดาว, ร้านอาหาร และร้านขายของพื้นเมือง ตั้งอยู่ห่างจากกรุงปักกิ่งถึง 140 กิโลเมตร
ด่านเจี้ยนโค่ว นับว่าเป็นด่านที่เหมาะสำหรับคนที่ชอบความท้าทายเป็นที่สุด เพราะว่าตั้งอยู่บนหน้าผาที่สูงชันและยังไม่ได้รับการบูรณะซ่อมแซม จึงยังคงสภาพกำแพงเมืองจีนแบบโบราณเอาไว้อยู่
ด่านหวงฮวาเฉิง เป็นด่านที่ติดอยู่ริมน้ำในเขตหวยโหรว ทางตอนเหนือของกรุงปักกิ่ง ซึ่งห่างออกไปประมาณ 70 กิโลเมตรและถูกสร้างขึ้นตามแนวภูเขา ที่โอบล้อมทะเลสาบขนาดใหญ่ สามารถเพลิดเพลินไปกับความสวยงามของทะเลสาบและธรรมชาติได้อย่างเต็มที่
ด่านเจียยวี่กวน เป็นด่านที่ตั้งอยู่ทางฝั่งตะวันตกที่เมืองเจียยวี่กวน มณฑลกานซู โดยมีเอกลักษณ์อยู่ที่ตัวกำแพงที่สร้างจากอิฐสีเหลืองนวลกลมกลืนกับทะเลทรายโกบีบริเวณล้อมรอบๆ ภายในด่านเจียยวี่กวน ประกอบไปด้วย วัดกวนยู พิพิธภัณฑ์กำแพงเมืองจีน โรงละครจีนโบราณ
ด่านซานไห่กวน และด่านสุดท้ายคือด่านที่เป็นปลายทางของกำแพงเมืองจีนที่ติดกับทะเล โดยเราจะเห็นวิวภูเขาสูงตระการตาไปพร้อมๆ กับท้องทะเลบนกำแพง

ปัจจุบันกำแพงเมืองจีนที่พวกเราเห็น (รวมถึงที่ทางการไม่อนุญาตให้เข้าชม) นั้นยังเป็นเพียงแค่ 1 ใน 3 ของกำแพงทั้งหมดเท่านั้น ส่วนใหญ่นั้นถูกกัดกร่อนไปตามกาลเวลา รวมถึงขาดการดูแลที่ไม่ดีพอ เพื่อน ๆ คนไหนที่ยังไม่เคยไปลองหาโอกาสไปเที่ยวกำแพงเมืองจีนสักครั้งในชีวิต รับรองว่าต้องถูกใจแน่นอน

อ้างอิง