fbpx
Search
Close this search box.

รู้ทัน! ก่อนเป็นอัมพาตกับโรคหลอดเลือดสมอง

โรคใกล้ตัวที่ไม่ควรมองข้ามกับโรคหลอดเลือดสมอง (Stroke) เป็นโรคยอดฮิตที่เป็นสาเหตุในการเสียชีวิตอันดับ 3 ของโลก และติดอันดับ 2 ในประเทศไทยรองลงมาจากโรคมะเร็งนั้นเอง บอกเลยว่าอันตรายมากๆ ถ้ารู้ก่อน สังเกตได้ แล้วรีบรักษา ก็มีสิทธิ์ที่จะหายขาดเป็นปกติ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นอย่าเพิ่งชะล่าใจไปว่าจะไม่เกินขึ้นกับตัวเอง เดี๋ยวเรามาดูกันว่าอะไรที่เป็นสาเหตุของโรคหลอดเลือดสมอง และจะมีวิธีสังเกตยังไงบ้างไปดูพร้อมกันเลย

โรคหลอดเลือดสมองคืออะไร

โรคหลอดเลือดสมอง (Stroke) เป็นภาวะสมองขาดเลือดหรือมีเลือดออกในสมอง จนทำให้เกิดสมองตีบหรืออุดตัน ส่งผลให้เซลล์สมองขาดออกซิเจน สมองตาย ซึ่งภาวะแบบนี้ต้องรีบส่งตัวพบแพทย์เพื่อเร่งทำการรักษาอย่างเร่งด่วน โดยโรคหลอดเลือดสมองจะแบ่งออกได้เป็น 2 ประเภท คือ

  1. โรคหลอดเลือดสมองตีบหรืออุดตัน
    จะพบมากประมาณ 80 – 90 เปอร์เซ็น โดยเกิดจากความผิดปกติของหลอดเลือดแดงที่ไปเลี้ยงสมอง กลุ่มผู้ป่วยที่มีปัจจัยเสี่ยงมักจะเป็นกลุ่มผู้ป่วยโรคเบาหวาน โรคความดันโลหิตสูง โรคภาวะหัวใจเต้นผิดจังหวะ โรคเลือดบางชนิด กลุ่มคนที่สูบบุหรี่มาก ขาดการออกกำลังกาย เป็นต้น ซึ่งจะทำให้ผนังหลอดเลือดหนาและแข็งตัวจนเกิดการตีบและอุดตันนนั้นเอง
  2. โรคหลอดเลือดสมองแตก
    เปอร์เซ็นการพบประมาณ 10 – 20 เปอร์เซ็น ถึงเปอร์เซ็นการพบจะน้อยแต่มีสิทธิ์ในการเสียชีวิตสูงมาก และมักจะเกิดจากกลุ่มคนที่เป็นโรคความดันโลหิตสูง รวมไปถึงการดื่มแอลกฮอล์อีกด้วย เพราะปริมาณเลือดที่ไปเลี้ยงสมองลดลงอย่างฉับพลันและเกิดเลือดในสมองแตก

สังเกตออาการเมื่อเป็น “โรคหลอดเลือดสมอง”

เมื่อสมองข้างใดข้างหนึ่งทำงานผิดปกติไปก็จะทำให้เกิดความผิดปกติของร่างกายไม่มากก็น้อย ควรสังเกต เช็กร่างกายตัวเองและคนรอบข้างให้ดีว่าเขามีอาการดังต่อไปนี้หรือเปล่า หากมีให้รีบไปตรวจร่างกายกับแพทย์ทันที

  • อาการพูดไม่ชัด ปากเบี้ยวไปข้างใดข้างหนึ่ง
  • อ่อนเพลีย รู้สึกชาบริเวณใบหน้า แขนและขา
  • อาการปวดหัว เวียนหัว 
  • อาการทรงตัวไม่ได้ การทรงตัวผิดปกติ
  • เกิดอาการตามัวแบบเฉียบพลันหรือเห็นภาพซ้อน

วิธีป้องกันการเกิด “โรคหลอดเลือดสมอง”

สามารถทำได้ทั้งคนที่ยังไม่เคยเป็นโรคหลอดเลือดสมองมาก่อน หรือเคยเป็นจนรักษาแล้วและไม่อยากกลับมาเป็นซ้ำอีก สามารถทำได้ดังต่อไปนี้

  • ตรวจสุขภาพประจำปี เช็คความเสี่ยงของตัวเองเพื่อที่จะได้ป้องกันไว้ได้ทัน
  • รักษาและควบคุมปัจจัยเสี่ยง เช่น รักษาโรคเบาหวาน รักษาโรคความดันโลหิตสูง และงดการสูบบุหรี่ ดื่มแอลกอฮอล์ เป็นต้น
  • เลือกรับประทานอาหารมากขึ้น งดอาหารที่มีไขมันโดยเฉพาะไขมันอิ่มตัว และหันมารับประทานอาหารที่มีประโยชน์ เช่นผักและผลไม้ เป็นต้น
  • ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ อย่างน้อยวันละ 30 นาที
  • ควบคุมน้ำหนักในอยู่ในเกณฑ์ที่ปกติ

บทความที่เกี่ยวข้อง

เพื่อนๆ สามารถติดตาม ACU PAY Thailand ผ่านช่องทางการติดตามอื่นๆ ได้ที่