เพื่อน ๆ เคยสังเกต “เหรียญกษาปณ์” ที่ใช้ในปัจจุบันกันไหมคะ เชื่อว่าบางคนอาจจะไม่เคย หรือหลายคนเคยสังเกตแล้วปล่อยผ่านไป จึงทำให้ไม่เคยรู้ว่าข้างหลังเหรียญกษาปณ์ ตั้งแต่เหรียญ 25 สตางค์, 50 สตางค์, 1 บาท, 2 บาท, 5 บาท และเหรียญ 10 บาท มีภาพสถานที่สำคัญปรากฏอยู่ โดยเหรียญแต่ละชนิดราคาจะมีวัดสำคัญๆ แตกต่างกันไป อยากรู้แล้วใช่ไหมคะว่าหลังแต่ละเหรียญนั้นคือสถานที่ไหน วันนี้ เอซียู เพย์ จะมาบอกเองค่ะว่ามีที่ไหนบ้าง ไปดูกันเลยค่ะ
วัดอรุณราชวราราม หรือวัดแจ้ง เป็นวัดโบราณสร้างขึ้นในสมัยอยุธยา รวมทั้งเป็นพระอารามหลวงชั้นเอกพิเศษ ชนิดราชวรมหาวิหาร เป็นวัดประจำรัชกาลที่ 2 พระปรางค์ เป็นศิลปกรรมที่สง่างามและโดดเด่นที่สุดในวัดอรุณฯ ตั้งอยู่หน้าวัดทางทิศใต้
วัดเบญจมบพิตร หรือ วัดเบญจมบพิตรดุสิตวนาราม ราชวรวิหาร เป็นพระอารามหลวงชั้นเอก ชนิดราชวรวิหาร เป็นวัดที่รู้จักของนักท่องเที่ยวทั่วโลกว่า “The Marble Temple” เพราะพระอุโบสถ พระระเบียง ประดับด้วยหินอ่อนที่ดีที่สุดจากประเทศอิตาลี ประกอบกับเป็นวัดที่มีความวิจิตรงดงามด้วยศิลปะสถาปัตยกรรมไทยโบราณ จึงมีนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างประเทศสนใจเข้าชมจำนวนมาก
พระบรมบรรพต ตั้งอยู่ภายในวัดสระเกศราชวรมหาวิหาร มีชื่อเดิมคือ “พระเจดีย์ภูเขาทอง” แต่คนไทยนิยมเรียกกันว่า “เจดีย์ภูเขาทอง” มีขนาดสูงจากฐานถึงยอด 63.6 เมตร ฐานโดยรอบมีเส้นผ่าศูนย์กลางกว้าง 150 เมตร ฐานโดยรอบยาว 330 เมตร มีบันไดทอดขึ้นเป็นบันไดเวียนถึง 344 ขั้น
พระศรีรัตนเจดีย์ ภายในวัดพระศรีรัตนศาสดาราม หรือที่เรียกกันทั่วไปว่า “วัดพระแก้ว” เป็นพระอารามหลวงชั้นพิเศษ เป็นเจดีย์ทรงลังกา โดยสร้างตามรูปแบบของพระมหาเจดีย์ในวัดพระศรีสรรเพชญ์ พระนครศรีอยุธยา
พระธาตุดอยสุเทพ ตั้งอยู่ภายในวัดพระธาตุดอยสุเทพ ราชวรวิหาร เป็นพระอารามหลวง ชั้นโท ชนิดราชวรวิหาร เป็นพระอารามหลวง 1 ใน 4 ของจังหวัดเชียงใหม่ และเปรียบเสมือนเป็นวัดคู่บ้านคู่เมืองเชียงใหม่
พระบรมธาตุเจดีย์ วัดพระมหาธาตุวรมหาวิหาร เป็นพระอารามหลวงชั้นเอก ชั้นวรมหาวิหาร ปัจจุบันกรมศิลปากรได้ประกาศจดทะเบียนวัดพระมหาธาตุเป็นโบราณสถาน นับเป็นปูชนียสถานที่สำคัญที่สุดแห่งหนึ่งของภาคใต้ รวมทั้งเป็นสัญลักษณ์ของเมืองนครศรีธรรมราชที่รู้จักกันดี
และนี่ก็คือ วัดที่อยู่หลังเหรียญในสกุลเงินไทยที่หลายคนมองข้าม ถือว่าเป็นความรู้ใกล้ตัวที่เราไม่ควรพลาดเลยค่ะ