fbpx
Search
Close this search box.

เทรนด์ทองมาแรง หลังวัยรุ่นจีนแห่ซื้อ ‘ทองคำเม็ดเล็ก’ สู้เศรษฐกิจเงินเฟ้อ

ออมทอง
“ทองคำ” กลายเป็นสินทรัพย์ที่กลับมาแรงอีกครั้ง หลังจากราคาพุ่งไม่หยุดในทุก ๆ ปี สิ่งนี้เองทำให้ “ทองคำ” กลายเป็นหนึ่งในวิธีการลงทุนที่คนรุ่นใหม่มองว่าเป็นการลงทุนระยะยาว โดยเฉพาะคนรุ่นใหม่ในจีนที่พากันซื้อทองคำขนาดเท่า “เมล็ดถั่ว”

เนื้อหา

วัยรุ่นจีนสะสมทองเม็ดเล็ก เทรนด์การลงทุน

กลายเป็นเรื่องฮือฮาในโซเชียลมีเดียจีน เมื่อหนุ่มสาวชาวจีนออกมาแชร์ประสบการณ์การสะสม “ทองคำเม็ดถั่ว” ลงในขวดแก้วใบเล็ก ๆ  จนแฮชแท็ก  #ทองคำเม็ดถั่ว บนแพลตฟอร์มเว่ยป๋อ (Weibo) โดยแฮชแท็กนั้นมีผู้เข้าชมกว่าหนึ่งล้านครั้งและมีการกดถูกใจกว่าสองหมื่นครั้ง  

โดยปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นกับคนรุ่นใหม่ในจีนนี้เรียกว่า “Gold Rush” หรือ “ไข้ทองคำ” ทำให้ Gen Z กลายเป็นกลุ่มผู้ซื้อหลักที่ขับเคลื่อนตลาด ในการซื้อทองคำขนาดเท่า “เมล็ดถั่ว”

“ทองคำเม็ด” นี้นั้นเป็นทองขนาดเล็กที่มักออกแบบเป็นรูปลักษณ์มงคล เช่น รูปแท่งทอง ปลาคาร์ฟ หรือรูปทรงดีไซน์น่ารักต่าง ๆ ทั้งชีส สัตว์ทะเล ติ่มซำ หรือแม้แต่ทุเรียน

โดย “ทองคำเม็ด” มีน้ำหนักประมาณ 1 กรัม ราคาประมาณ 400 – 600 หยวน หรือประมาณ 2,000 – 3,000 บาท ซึ่งเป็นราคาที่คนรุ่นใหม่เอื้อมถึงได้ง่ายกว่าการซื้อทองคำแท่ง หรือทองคำรูปพรรณ 

ซึ่งวัยรุ่นจีนหลายคนเลือกที่จะซื้อทองคำเม็ดทีละ 1 – 2 ชิ้นต่อเดือน เพราะมองว่าราคานั้นใกล้เคียงกับค่าใช้จ่ายในการซื้อชาไข่มุกเป็นประจำ อีกทั้งทองคำขนาดเท่าเมล็ดถั่วซึ่งบรรจุอยู่ในขวดแก้วนั้น ถือเป็นจุดเริ่มต้นการลงทุนสำหรับผู้บริโภครุ่นเยาว์ และเป็นสินค้าขายดีล่าสุดในร้านขายเครื่องประดับของจีน

คนรุ่นใหม่กำลังครองตลาดทองคำ

สมาคมทองคำแห่งประเทศจีน (China Gold Association)  รายงานว่า กลุ่มผู้บริโภคทองคำหลักในขณะนี้ คือ คนจีนวัยระหว่าง 25 – 34 ปี  คิดเป็นสัดส่วนถึง 59% ในปี 2023 โดยสมาคมฯ คาดการณ์ว่า ในอนาคตผู้บริโภคที่อายุต่ำกว่า 25 ปี จะกลายเป็นกลุ่มลูกค้าซื้อทองคำรายใหญ่กลุ่มใหม่

เนื่องจากประเทศจีนกำลังเผชิญกับภาวะเงินเฟ้อร่วงหนักสุดในรอบ 15 ปี จนเข้าสู่ภาวะ “เงินฝืด” ส่วนตลาดหุ้นก็ยังคงผันผวน และอัตราดอกเบี้ยธนาคารก็ต่ำเกินไป กลุ่มคนรุ่นใหม่จึงหันมาลงทุนในทองเม็ด เพื่อป้องกันความเสี่ยงทางการเงินมากขึ้น

ทางรายงานของบริษัท โชว ไท ฟุก จีเวลรี กรุ๊ป ได้เปิดเผยรายงานแนวโน้มผู้บริโภคเครื่องประดับของจีนประจำปี 2566 โดยระบุว่า ผู้บริโภคกลุ่ม Gen Z ซึ่งได้รับผลกระทบจากการว่างงานของเยาวชนจำนวนมาก และบวกกับการที่จีนกำลังเข้าสู่ภาวะเงินฝืดนั้น ปัจจุบันได้กลายเป็นผู้บริโภคเครื่องประดับทองคำอันดับต้น ๆ ในจีนไปแล้ว

กระแสจีนนิยมหนุนตลาดทองคำพุ่ง

ด้วยเทรนด์การออมทองนี้เอง ทำให้ธุรกิจตื่นตัวกับความเคลื่อนไหวนี้จนกลายเป็นกระแสไปทั่วประเทศ คือ บรรดาร้านทองที่พากันทำทองคำแท่งออกมาหลายขนาด ทั้งขนาดเล็กสุดอยู่ที่ 10 กรัม ซึ่งราคาขายอยู่ที่ต่ำกว่า 2,000 หยวน (ราว 10,000 บาท)  เพื่อให้ Gen Z ที่งบน้อยสามารถซื้อได้ ทำให้มีลูกค้าเข้าไปแวะเวียนจนช่างทำทองจีนงานชุกมากในรอบหลายปีอีกด้วย 

หรือแม้แต่ร้านเครื่องประดับต่าง ๆ ไม่ว่าจะอยู่ซอกซอยไหน ต่างออกสินค้าเป็นทองคำ เพื่อให้มัดใจ Gen Z มากขึ้น อย่างเช่น ลุกฟุกจิวเวลรี่ (Luk Fook Jewelry) ได้ออกคอลเลกชันเครื่องประดับทองคำสุดพิเศษ กับตัวการ์ตูนชื่อดังอย่าง Rilakkuma 

ยิ่งกว่านั้นสื่อจีนวิเคราะห์ว่า กระแสซื้อทองของวัยรุ่นจีนนี้ถือเป็นเรื่องดี โดยเฉพาะกับตลาดทองคำในประเทศ และที่สำคัญยังทำให้เกิดความภูมิใจในสินค้าจีน ที่เรียกว่า “กั๋วเฉา” หรือ “China Chic” กระแสจีนนิยม ที่ทำให้ผู้บริโภค หรือคนรุ่นใหม่ของชาวจีน หันมาใช้สินค้าแบรนด์จีนกันมากขึ้นนั่นเอง

อ้างอิงจาก

ผู้เขียน

ACU PAY Thailand

ACU PAY Thailand

ให้ทุกเรื่องการเงินเป็นเรื่องง่าย เริ่มต้นวันดีๆ ไปกับเรา MAKE A GREAT DAY WITH ACU PAY

บทความที่เกี่ยวข้อง

เพื่อนๆ สามารถติดตาม ACU PAY Thailand ผ่านช่องทางการติดตามอื่นๆ ได้ที่