กลายเป็นเรื่องฮือฮาในโซเชียลมีเดียจีน เมื่อหนุ่มสาวชาวจีนออกมาแชร์ประสบการณ์การสะสม “ทองคำเม็ดถั่ว” ลงในขวดแก้วใบเล็ก ๆ จนแฮชแท็ก #ทองคำเม็ดถั่ว บนแพลตฟอร์มเว่ยป๋อ (Weibo) โดยแฮชแท็กนั้นมีผู้เข้าชมกว่าหนึ่งล้านครั้งและมีการกดถูกใจกว่าสองหมื่นครั้ง
โดยปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นกับคนรุ่นใหม่ในจีนนี้เรียกว่า “Gold Rush” หรือ “ไข้ทองคำ” ทำให้ Gen Z กลายเป็นกลุ่มผู้ซื้อหลักที่ขับเคลื่อนตลาด ในการซื้อทองคำขนาดเท่า “เมล็ดถั่ว”
“ทองคำเม็ด” นี้นั้นเป็นทองขนาดเล็กที่มักออกแบบเป็นรูปลักษณ์มงคล เช่น รูปแท่งทอง ปลาคาร์ฟ หรือรูปทรงดีไซน์น่ารักต่าง ๆ ทั้งชีส สัตว์ทะเล ติ่มซำ หรือแม้แต่ทุเรียน
โดย “ทองคำเม็ด” มีน้ำหนักประมาณ 1 กรัม ราคาประมาณ 400 – 600 หยวน หรือประมาณ 2,000 – 3,000 บาท ซึ่งเป็นราคาที่คนรุ่นใหม่เอื้อมถึงได้ง่ายกว่าการซื้อทองคำแท่ง หรือทองคำรูปพรรณ
ซึ่งวัยรุ่นจีนหลายคนเลือกที่จะซื้อทองคำเม็ดทีละ 1 – 2 ชิ้นต่อเดือน เพราะมองว่าราคานั้นใกล้เคียงกับค่าใช้จ่ายในการซื้อชาไข่มุกเป็นประจำ อีกทั้งทองคำขนาดเท่าเมล็ดถั่วซึ่งบรรจุอยู่ในขวดแก้วนั้น ถือเป็นจุดเริ่มต้นการลงทุนสำหรับผู้บริโภครุ่นเยาว์ และเป็นสินค้าขายดีล่าสุดในร้านขายเครื่องประดับของจีน
สมาคมทองคำแห่งประเทศจีน (China Gold Association) รายงานว่า กลุ่มผู้บริโภคทองคำหลักในขณะนี้ คือ คนจีนวัยระหว่าง 25 – 34 ปี คิดเป็นสัดส่วนถึง 59% ในปี 2023 โดยสมาคมฯ คาดการณ์ว่า ในอนาคตผู้บริโภคที่อายุต่ำกว่า 25 ปี จะกลายเป็นกลุ่มลูกค้าซื้อทองคำรายใหญ่กลุ่มใหม่
เนื่องจากประเทศจีนกำลังเผชิญกับภาวะเงินเฟ้อร่วงหนักสุดในรอบ 15 ปี จนเข้าสู่ภาวะ “เงินฝืด” ส่วนตลาดหุ้นก็ยังคงผันผวน และอัตราดอกเบี้ยธนาคารก็ต่ำเกินไป กลุ่มคนรุ่นใหม่จึงหันมาลงทุนในทองเม็ด เพื่อป้องกันความเสี่ยงทางการเงินมากขึ้น
ทางรายงานของบริษัท โชว ไท ฟุก จีเวลรี กรุ๊ป ได้เปิดเผยรายงานแนวโน้มผู้บริโภคเครื่องประดับของจีนประจำปี 2566 โดยระบุว่า ผู้บริโภคกลุ่ม Gen Z ซึ่งได้รับผลกระทบจากการว่างงานของเยาวชนจำนวนมาก และบวกกับการที่จีนกำลังเข้าสู่ภาวะเงินฝืดนั้น ปัจจุบันได้กลายเป็นผู้บริโภคเครื่องประดับทองคำอันดับต้น ๆ ในจีนไปแล้ว
ด้วยเทรนด์การออมทองนี้เอง ทำให้ธุรกิจตื่นตัวกับความเคลื่อนไหวนี้จนกลายเป็นกระแสไปทั่วประเทศ คือ บรรดาร้านทองที่พากันทำทองคำแท่งออกมาหลายขนาด ทั้งขนาดเล็กสุดอยู่ที่ 10 กรัม ซึ่งราคาขายอยู่ที่ต่ำกว่า 2,000 หยวน (ราว 10,000 บาท) เพื่อให้ Gen Z ที่งบน้อยสามารถซื้อได้ ทำให้มีลูกค้าเข้าไปแวะเวียนจนช่างทำทองจีนงานชุกมากในรอบหลายปีอีกด้วย
หรือแม้แต่ร้านเครื่องประดับต่าง ๆ ไม่ว่าจะอยู่ซอกซอยไหน ต่างออกสินค้าเป็นทองคำ เพื่อให้มัดใจ Gen Z มากขึ้น อย่างเช่น ลุกฟุกจิวเวลรี่ (Luk Fook Jewelry) ได้ออกคอลเลกชันเครื่องประดับทองคำสุดพิเศษ กับตัวการ์ตูนชื่อดังอย่าง Rilakkuma
ยิ่งกว่านั้นสื่อจีนวิเคราะห์ว่า กระแสซื้อทองของวัยรุ่นจีนนี้ถือเป็นเรื่องดี โดยเฉพาะกับตลาดทองคำในประเทศ และที่สำคัญยังทำให้เกิดความภูมิใจในสินค้าจีน ที่เรียกว่า “กั๋วเฉา” หรือ “China Chic” กระแสจีนนิยม ที่ทำให้ผู้บริโภค หรือคนรุ่นใหม่ของชาวจีน หันมาใช้สินค้าแบรนด์จีนกันมากขึ้นนั่นเอง
ให้ทุกเรื่องการเงินเป็นเรื่องง่าย เริ่มต้นวันดีๆ ไปกับเรา MAKE A GREAT DAY WITH ACU PAY