fbpx
Search
Close this search box.

พื้นลื่น เพดานเปียก เมื่อชาวฮ่องกงเผชิญความชื้น 100% พวกเขารับมือยังไง

เมื่อไม่กี่อาทิตย์ที่ผ่านมาชาวฮ่องกงได้เผชิญกับสภาพอากาศที่แปรปรวน ผนัง กำแพงและเจิ่งนองเต็มไปด้วยหยดน้ำจำนวนมาก จนทำให้บ้านทั้งบ้านเปียกชุ่มเลยทีเดียว สำหรับใครที่ไม่เคยอยู่ที่นี่อาจจะตกใจว่าเกิดอะไรขึ้น แต่สำหรับชาวฮ่องกงนี่ถือเป็นสัญญาณของ ‘ฤดูใบไม้ผลิ’ ที่กำลังเริ่มต้นขึ้น แต่ฤดูใบไม้ผลิที่ว่า ต้องแลกมากับความเหนียวเหนอะหนะตัว และความอึดอัดขั้นสุด เพราะอากาศที่นี่จะมีระดับความชื้นสัมพัทธ์พุ่งสูงถึง 100 % เลยทีเดียว แล้วความชื้นที่ว่า ส่งผลยังไงกับชาวฮ่องกงบ้าง แล้วพวกเขารับมือกันยังไง มาดูพร้อมกันเลย

เนื้อหา

ความชื้นสัมพัทธ์คืออะไร และ สูง 100 % เป็นแบบไหน

ความชื้นสัมพัทธ์ (Relative Humidity) คือ การวัดปริมาณไอน้ำในอากาศเทียบกับปริมาณความชื้นสูงสุดที่สามารถมีอยู่ได้ที่อุณหภูมิที่ตั้งไว้ 

เมื่อความชื้นสัมพัทธ์ถึง 100 เปอร์เซ็นต์ แสดงว่า อากาศเต็มไปด้วยไอน้ำและไม่สามารถกักเก็บน้ำหรือไอน้ำได้อีก เมื่ออากาศเย็นลงภายใต้สภาวะเหล่านี้ หมอกและเมฆจะก่อตัวเป็นไอน้ำควบแน่นเกิดเป็นฝนนั่นเอง แต่ไม่ได้หมายความว่า Humidity จะต้องเป็น 100 เปอร์เซ็นต์เพื่อให้เกิดฝนตกนะ

ซึ่งมนุษย์อย่างเรามีความไวต่อความชื้นมาก เพราะผิวหนังของเราต้องอาศัยอากาศเพื่อกำจัดความร้อน โดยเหงื่อที่ออกมา ก็คือการรักษาอุณหภูมิร่างกายให้ปกติเอาไว้ 

ดังนั้นถ้าเกิดอากาศมีความชื้น 100% RH เหงื่อจะไม่สามารถระเหยไปในอากาศ (เพราะอากาศที่อิ่มตัว 100% RH) เป็นผลให้เรารู้สึก ‘ร้อน’ กว่าอุณหภูมิจริงเมื่อความชื้น ‘สูง’ แต่ถ้าความชื้น ‘ต่ำ’ เราจะรู้สึก ‘เย็น’ กว่าอุณหภูมิจริงเพราะเหงื่อของเราระเหยได้ง่ายทำให้อุณหภูมิร่างกายเราเย็นลงนั่นเอง

ทำไมฮ่องกงถึงเผชิญกับความชื้นในช่วงฤดูใบไม้ผลิ

เกิดขึ้นจากกระแสลมทางทะเลที่อบอุ่นและชื้นจากทางใต้ในช่วงฤดูใบไม้ผลิ เมื่อมวลอากาศอุ่นเย็นตัวลงตามแนวชายฝั่งของมณฑลกวางตุ้ง หมอกก็ก่อตัวขึ้นทั่วเมือง เกิดการควบแน่นของไอน้ำและหยดน้ำก่อตัวบนผนัง พื้น และแผงกระจกได้ ผลจากอากาศอุ่นเจอกับอากาศที่เย็นกว่าของอาคารในเมือง

ชาวฮ่องกงต้องปรับตัวแบบไหนบ้าง ?

ชาวฮ่องกงต้องเผชิญกับสภาพแวดล้อมที่แปรปรวน อากาศที่ชื้นมาก จะทำให้อาการภูมิแพ้แย่ลง และเสี่ยงต่อการติดเชื้ออื่น ๆ ได้ง่าย จากละอองที่ก่อตัวขึ้นและคงอยู่ในอากาศชื้น ทำให้ผู้สูงอายุและเด็กต้องใช้เวลาในการปรับตัวกับสภาพเปลี่ยนแปลงของสภาพอากาศมากขึ้น และมีความเสี่ยงต่อโรคติดเชื้อ เช่น โควิด-19 มากขึ้น 

ผู้เชี่ยวชาญแนะนำให้ใช้เครื่องลดความชื้นเพื่อรักษาความชื้นสัมพัทธ์ของห้องให้อยู่ระหว่าง 40 ถึง 60 เปอร์เซ็นต์ สำหรับบ้านที่ไม่มีเครื่องลดความชื้น ให้ปิดหน้าต่างหรือเปิดไว้เล็กน้อย แล้วเปิดพัดลมพัดอากาศออกเบา ๆ 

สิ่งที่ใช้ในบ้านทุกวัน ก็อาจก่อให้เกิดความชื้นได้ โดยต้องป้องกันด้วยการ เมื่อใช้ห้องครัว ให้เปิดเครื่องดูดควันระบายอากาศ เมื่อใช้ห้องซักรีด และห้องน้ำ ให้เปิดพัดลมระบายอากาศ เพื่อป้องกันการก่อให้เกิดไอน้ำ และป้องกันเชื้อราที่จะขึ้นบ้านจากความชื้นนี้ได้ นอกจากนี้ยังต้องระวังอุบัติเหตุจากพื้นที่เปียกและลื่น

นอกจากที่ฮ่องกงแล้ว ผู้คนที่อาศัยอยู่ทางตอนใต้ของจีน ก็เผชิญกับความชื้นระดับ 100 % นี้เหมือนกัน เมื่อวันที่ 6 มีนาคมที่ผ่าน สำนักงานอุตุนิยมวิทยากว่างตง (the Guangdong Meteorological Bureau) ระบุว่า ผู้อยู่อาศัยทางตอนใต้ของจีนต้องต่อสู้กับความชื้นอย่างมาก เมื่อความชื้นสัมพัทธ์เพิ่มขึ้นเป็น 100% ซึ่งความชื้นได้แผ่กระจายไปทั่วเมืองต่าง ๆ ทางตอนใต้ของประเทศ ทำให้เกิดหยดน้ำสะสมบนเพดานจำนวนมาก

และนี่คือปรากฏการณ์สภาพอากาศแปรปรวนในช่วงเข้าสู่ฤดูใบไม้ผลิหรือฤดูร้อนที่ผู้คนชาวฮ่องกงและทางตอนใต้ของจีนพบเจอนั่นเอง  

อ้างอิงจาก

ผู้เขียน

ACU PAY Thailand

ACU PAY Thailand

ให้ทุกเรื่องการเงินเป็นเรื่องง่าย เริ่มต้นวันดีๆ ไปกับเรา MAKE A GREAT DAY WITH ACU PAY

บทความที่เกี่ยวข้อง

เพื่อนๆ สามารถติดตาม ACU PAY Thailand ผ่านช่องทางการติดตามอื่นๆ ได้ที่