หลายคนกำลังคงตั้งตารอคอยกับนโยบายแจกเงินดิจิทัลวอลเล็ต 1 หมื่นบาท ของนายกเศรษฐา ทวีสิน ว่าจะเป็นอย่างไรต่อ ซึ่งล่าสุดเงื่อนไขนี้เกิดการเปลี่ยนแปลงใหม่ขึ้น ทำให้เมื่อวันที่ 25 ตุลาคม 2566 ที่ผ่านมา ต้องมีการปรับเกณฑ์ และจัดทำข้อเสนอ 3 ทางเลือกกลุ่มเป้าหมายใหม่
คณะอนุกรรมการขับเคลื่อนโครงการเติมเงิน 10,000 บาท ผ่านดิจิทัลวอลเล็ต โดยเห็นตรงกันว่า การกำหนดกลุ่มเป้าหมายจะตัดคนรวย คนที่มีฐานะสูงออกออก จากเดิมที่จะให้คนอายุ 16 ปีขึ้นไป จำนวน 56 ล้านคน คนละ 10,000 บาท ด้วยงบประมาณสูงถึง 5.6 แสนล้านบาท โดยกำหนดเกณฑ์ความรวยทั้งหมด 3 แนวทาง ให้คณะกรรมการชุดใหญ่ตัดสิน ได้แก่
นอกจากจะมีการปรับเงื่อนไขสำคัญของโครงการ ด้วยการขยายพื้นที่การใช้เงินดิจิทัล 10,000 บาท จากระยะ 4 กิโลเมตร เป็นระดับอำเภอแทน ส่วนเกณฑ์รัศมีการใช้จ่ายได้ในระดับอำเภอ โดยระบบการขึ้นเงินของร้านค้าจะต้องเป็นร้านค้าที่จดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) นิติบุคคล และบุคคลธรรมดาที่อยู่ในระบบภาษีที่ประชุมมีความเห็นตรงกัน
ยิ่งกว่านั้นมีความเป็นไปได้ว่า เงินดิจิทัลจะกลับไปใช้แอปพลิเคชันเป๋าตัง เหมือนกับรัฐบาลที่แล้ว เพราะมองว่าการพัฒนาระบบขึ้นมาใหม่ อาจต้องใช้เวลานานและยุ่งยาก รวมถึงการใช้จ่ายเงินดิจิทัลนี้อาจมีความล่าช้าไปถึงเดือนกันยายน 2567 โดยต้องผ่านการอนุมัติจากสภาฯ
ถึงเงื่อนไขจะยังไม่สรุป แต่นิยาม คำว่า “คนรวย” ของรัฐบาล กำลังเป็นที่ถกกันในโซเชียลมีเดียเป็นจำนวนที่ข้อกำหนดนั้นอาจดูไม่สมเหตุสมผลเท่าที่ควร
แต่ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 31 ตุลาคม ทาง นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรมว.คลัง ได้กล่าวกับสนข.เดลี่นิวส์ว่าเร็ว ๆ นี้จะหารือกับผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทยอีกครั้ง เกี่ยวกับเรื่องของผู้ที่มีสิทธิ์เข้าโครงการนี้ และทุกอย่างจะชัดเจนภายในอีก 1 – 2 สัปดาห์หน้า
ในส่วนของเงื่อนไขเงินดิจิทัล คนไทยอาจต้องรอติดตามกันต่อไป ว่าจะมีข้อสรุปเป็นแบบไหน แล้วคนกลุ่มไหนถึงจะได้รับเงินก้อนนี้บ้าง