Menu
ถ้าให้นึกถึงค่าเงินที่แพงที่สุดในโลก ทุกคนนึกถึงค่าไหนกัน ? สกุลเงินปอนด์ ยูโร หรือ ดอลลาร์สหรัฐ ใช่รึเปล่า แต่ความจริงแล้ว สกุลเงินที่กล่าวไปข้างต้นนั้น อยู่แค่ในอันดับ 5 – 10 ของสกุลเงินที่มีมูลค่าที่สุดในโลกเท่านั้น แล้วสงสัยไหมว่าสกุลเงินไหนที่ครองอันดับต้น ๆ ที่แข็งแกร่งที่สุด ครั้งนี้ ACU PAY รวบรวมข้อมูลมาให้แล้ว
ประเทศ : สหรัฐอเมริกา
รหัสค่าเงิน : USD
ค่าเงิน : 1 USD (36.18 บาท)
ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐ (USD) เป็นสกุลเงินหลักของประเทศสหรัฐอเมริกา ที่มีการใช้งานมากที่สุดในโลก เมื่อมีการแลกเปลี่ยนสกุลเงิน ดอลลา์สหรัฐถือเป็นเกณฑ์มาตรฐานในการแลกเปลี่ยนระหว่างตลาดระหว่างประเทศ ซึ่งธนาคารกลางและธนาคารพาณิชย์เกือบทุกแห่งถือเงินสกุลนี้เป็นเงินสำรองหลักของโลก ว่ากันว่าเป็นสกุลดอลลาร์สหรัฐนี้ไม่มีใครมาแทนที่ได้ แต่ถึงอย่างนั้นดอลลาร์สหรัฐก็ตกมาอยู่ที่อันดับที่ 10
ประเทศ : โซนยุโรป
รหัสค่าเงิน : EUR
ค่าเงิน : 1 EUR = 1.08 USD (38.45 บาท)
ยูโร (EUR) เป็นสกุลเงินหลักของประเทศโซนยุโรปกว่า 19 ประเทศ เนื่องจากเป็นสกุลเงินที่มีอายุน้อยที่สุด สกุลเงินยูโรจึงเป็นสกุลเงินที่มีการใช้งานกันมากที่สุดทั่วโลกเป็นอันดับ 2 โดยเงินยูโรไม่ได้ถูกตรึงไว้กับสกุลเงินอื่น แต่มีประมาณ 25 ประเทศที่ได้ตรึงสกุลเงินประจำชาติของตนไว้กับสกุลเงินยูโร
นอกจากนี้ธนาคารกลางยุโรป (ECB) ซึ่งเป็นผู้รับผิดชอบนโยบายการเงินของทั้งทวีป ได้มีการกำหนดนโยบายการเงินสำหรับเขตเศรษฐกิจยุโรปให้มีความเป็นอิสระจากรัฐบาลของชาติมากกว่าธนาคารกลางส่วนใหญ่ ซึ่งความเป็นอิสระนี้เองที่ช่วยคงค่าเงินยูโรให้แกร่งขึ้น
ประเทศ : สวิตเซอร์แลนด์
รหัสค่าเงิน : CHF
ค่าเงิน : 1 CHF = 1.11 USD (40.20 บาท)
สกุลเงินฟรังก์สวิส (CHF) เป็นสกุลเงินหลักของประเทศสวิตเซอร์แลนด์และลิกเตนสไตน์ ซึ่งเป็นประเทศที่ร่ำรวยที่สุดในโลก ฟรังก์สวิสเป็นที่รู้จักกันในชื่อสกุลเงิน “safe haven” แหล่งตู้เซฟเก็บเงินชั้นดี เพราะที่นี่มีเศรษฐกิจที่มั่นคง มีนโยบายการเงินที่เข้มงวดมและมีระดับหนี้ต่ำมากที่สุด นอกจากนี้ในปี 1850 ธนบัตรของสวิตเซอร์แลนด์เป็นธนบัตรแห่งเดียวในโลกที่มีรูปแบบธนบัตรเป็นแนวตั้ง
ประเทศ : หมู่เกาะเคย์แมน
รหัสค่าเงิน : KYD
ค่าเงิน : 1 KYD = 1.21 USD (43.14 บาท)
ดอลลาร์หมู่เกาะเคย์แมน (KYD) เป็นอัตราแลกเปลี่ยนของหมู่เกาะเคย์แมน ที่รู้จักว่าเป็น “Tax haven” ดินแดนภาษีต่ำ หรือดินแดนปลอดภาษี กลายเป็นแหล่งหลบภาษีคนรวย กำลังช่วยค้ำจุนมูลค่าของดอลลาร์หมู่เกาะเคย์แมนเอาไว้อยู่ เนื่องจากพวกเขาให้บริการธนาคารนอกอาณาเขตสำหรับองค์กรทางการเงินและบุคคลผู้มั่งคั่ง นอกจากนี้ดอลลาร์หมู่เกาะเคย์แมนถูกนำมาใช้ในปี 1970 และตรึงมูลค่ากับสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐในอัตราคงที่
ประเทศ : ยิบรอลตาร์
รหัสค่าเงิน : GIP
ค่าเงิน : 1 GIP = 1.23 USD (44.52 บาท)
ปอนด์ยิบรอลตาร์หรือ GIP เป็นสกุลเงินของยิบรอลตาร์ ดินแดนโพ้นทะเลของอังกฤษ ซึ่งตรึงค่าเงินและแลกเปลี่ยนไว้กับปอนด์สเตอร์ลิงอังกฤษ ทั้ง GIB และ GBP จึงได้รับการยอมรับในยิบรอลตาร์ ธนาคารกลางที่ควบคุม GIP ซึ่งมีหน้าที่รับผิดชอบในการผลิตเหรียญกษาปณ์และธนบัตรคือรัฐบาลยิบรอลตาร์ อัตราแลกเปลี่ยนปอนด์ยิบรอลตาร์ที่ได้รับความนิยมมากที่สุดคืออัตรา EUR เป็น GIP ซึ่งเศรษฐกิจของยิบรอลตาร์ขึ้นอยู่กับหลายภาคส่วน เช่น การท่องเที่ยวและเกมอิเล็กทรอนิกส์
ประเทศ : สหราชอาณาจักร
รหัสค่าเงิน : GBP
ค่าเงิน : 1 GBP = 1.23 USD (44.53 บาท)
ปอนด์สเตอร์ลิง (GBP) สกุลเงินของสหราชอาณาจักร ซึ่งสาเหตุที่ปอนด์สเตอร์ลิงมีมูลค่าสูง เป็นเพราะการก้าวทันการพัฒนาของชาติอื่น ๆ โดยธนาคารกลางของอังกฤษ (BoE) ทำให้พวกเขาสามารถรักษาค่าเงินปอนด์ให้มีค่ามากกว่าดอลลาร์สหรัฐได้ในช่วงศตวรรษที่ 20
ปอนด์ไม่ได้เป็นเพียงสกุลเงินที่เก่าแก่ที่สุด แต่ยังเป็นหนึ่งในสกุลเงินที่มีอิทธิพลมากที่สุดในการค้าและการเงินระดับโลก ทั้งยังเป็นส่วนหนึ่งของตะกร้าเงินตราสิทธิพิเศษถอนเงินของ IMF อีกด้วย
ประเทศ : จอร์แดน
รหัสค่าเงิน : JOD
ค่าเงิน : 1 JOD = 1.41 USD (50.98 บาท)
ดีนาร์จอร์แดน (JOD) ของประเทศจอร์แดน เป็นหนึ่งในประเทศที่ตรึงค่าเงินไว้กับสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ ประเทศจอร์แดนไม่มีบ่อน้ำมัน แต่เพราะการลงทุนและการเงินในเหมืองแร่และโรงงาน ทำให้สกุลเงินของจอร์แดนมีความมั่นคง และดึงดูดการลงทุนจากสหรัฐฯ มายังจอร์แดนได้ ซึ่งการตรึงค่าเงินของของดีนาร์จอร์แดนสามารถรักษามูลค่าของตัวเองให้สัมพันธ์กับดอลลาร์สหรัฐได้เป็นอย่างดี
ประเทศ : โอมาน
รหัสค่าเงิน : OMR
ค่าเงิน : 1 OMR = 2.61 USD (93.95 บาท)
อันดับสามคือ เรียลโอมาน (OMR) ประเทศโอมานตั้งอยู่ในคาบสมุทรอาหรับที่มีความแข็งแกร่งในการส่งออกน้ำมันไปทั่วโลก แต่ถึงอย่างนั้นประเทศนี้ยังพึ่งพาการท่องเที่ยวและการเกษตรกรรมด้วย
ซึ่งเรียลโอมานได้ตรึงค่าเงินไว้กับสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ แต่เรียลโอมาน (OMR) ยังคงมูลค่าเดิมเมื่อเทียบกับเงินดอลลาร์ เนื่องจากข้อจำกัดและนโยบายทางการเงินที่เข้มงวด เพื่อปกป้องประเทศจากสงครามและความขัดแย้งในตะวันออกกลาง ทำให้อัตราแลกเปลี่ยนของสกุลเงินเรียลโอมานมีค่าสูงขึ้น นอกจากนี้ ข้อจำกัดด้านการยืมก็มีแนวโน้มที่จะเอื้อประโยชน์กับองค์กรธุรกิจนอกประเทศ และการเทรด Forex ที่มีระดับความเสี่ยงสูงอีกด้วย
ประเทศ : บาร์เรน
รหัสค่าเงิน : BHD
ค่าเงิน : 1 BHD = 2.67 USD (95.94 บาท)
มาถึงอันดับสอง ค่าเงินนั้นคือ ดีนาร์บาห์เรน ของประเทศบาร์เรน เกาะหนึ่งในอ่าวเปอร์เซีย ความมั่งคั่งของประเทศนี้มาจากราคาน้ำมันและก๊าซซึ่งถือเป็นรายได้ 85% ของประเทศ
ซึ่งสกุลเงินนี้ได้ถูกตรึงค่ากับดอลลาร์สหรัฐ ทำให้ดีนาร์บาห์เรนมีมูลค่าที่ค่อนข้างเหนือกว่าเรียลโอมานเล็กน้อย โดยค่าเฉลี่ยของดีนาร์บาห์เรนถือว่าค่อนข้างเสถียรนับตั้งแต่ปี 2554 รวมถึงอัตราเงินเฟ้อของบาห์เรนที่ยังอยู่ในระดับปานกลางและค่อนข้างคงที่เช่นเดียวกัน แม้ว่าเศรษฐกิจของบาห์เรนอาจจะได้รับผลกระทบจากราคาน้ำมันที่ตกต่ำไปบ้าง
ประเทศ: คูเวต
รหัสค่าเงิน: KWD
ค่าเงิน: 1 KWD = 3.25 USD (117.07 บาท)
มาถึงอันดับหนึ่งสกุลเงินที่มีราคาแพงมากที่สุดในโลกนั่นก็คือ ดีนาร์คูเวต ของประเทศคูเวต ประเทศเล็ก ๆ ที่อยู่ระหว่างซาอุดิอาราเบียและอีรัก
สาเหตุที่สกุลเงินนี้มีมูลค่าสูงเป็นเพราะว่า คูเวตเป็นแหล่งรุ่งเรืองในด้านการผลิตน้ำมัน รวมถึงมีการสร้างกองทุนความมั่งคั่งแห่งชาติขนาดใหญ่ บริหารจัดการโดย Kuwait Investment Authority (KIA) ซึ่งมีส่วนทำให้ดีนาร์คูเวตคงมูลค่าสูงเอาไว้
ถึงแม้ว่าการลดลงของราคาน้ำมันดิบจะทำให้เศรษฐกิจคูเวตขาดดุล แต่แผนรับมือของ KIA ที่เตรียมไว้ ทำให้ประเทศคูเวตมั่นใจได้ว่า มูลค่าของดีนาร์คูเวต (KWD) จะยังแข็งแกร่งอยู่
