คาดว่าเกิดในช่วงประมาณ 770-476 ปีก่อนคริสตกาล ตรงกับยุคชุนชิว ที่มณฑลเจ้อเจียง ในแคว้นเยว่ มีความสามารถในการร่ายรำความสวยของไซซีได้รับการเล่าลือตั้งแต่เด็กแล้ว ความสวยของเธอนั้นธรรมชาติ เล่าลือกันว่าเธอสวยขนาดเวลาไปซักผ้าอยู่ริมแม่น้ำ ปลาทั้งหลายที่กำลังแหวกว่ายอยู่ในน้ำได้เห็นความสวยของไซซี มัวแต่ชมความงามของเธอ จนลืมว่ายน้ำจนเป็นเหตุให้จมสู่ก้นแม่น้ำ โดยไซซี ได้รับฉายาว่า “มัจฉาจมวารี”
ไซซีเป็นเครื่องบรรณาการที่รัฐเยว่ ส่งให้อู๋อ๋องฟูไซแห่งรัฐอู๋รับไว้ จนเกิดความลุ่มหลงและละเลยการดูแลบ้านเมือง ต่อมา 13 ปีให้หลัง รัฐอู๋ก็ล่มสลาย โดยอ๋องโกวเจี้ยนก็สามารถรบชนะ และ ครอบครองรัฐอู๋ที่แข็งแกร่งกว่าได้สำเร็จ
ถึงแม้ว่า ไซซี จะงดงามจนเป็นที่เลื่องลือ แต่ยังคงมีจุดด้อยในความงามนั้นเช่นกัน นั่นก็คือ เท้าใหญ่ แต่เธอฉลาดแก้ไข โดยการสวมกระโปรงยาว คลุมไม่ให้เห็นเท้า ใส่เกี๊ยะไม้ไม่ให้กระโปรงลากพื้น จึงดูสวยสง่าเหมือนผู้หญิงสมัยนี้ใส่ชุดราตรีกับรองเท้าส้นสูง
หวังเจาจวิน มีชีวิตอยู่ในช่วงราชวงศ์ฮั่นตะวันตก มีความสามารถในการเล่นเครื่องดนตรี คือผีผา เดิมทีหวังเจาจวินเป็นนางกำนัลในวังหลวง ที่ฮ่องเต้ราชวงศ์ฮั่นส่งไปให้เผ่าซงหนู เพื่อกระชับสัมพันธ์ไมตรี แล้วในที่สุดหวังเจาจวินก็กลายเป็นภรรยาคนโปรดของ หู ฮันเซีย และอุทิศตนเองอาศัยอยู่ที่นั่นจนสิ้นชีวิต ทำให้แผ่นดินจีน และเผ่าซงหนูมีความสัมพันธ์ที่ดียาวนานถึง 60 ปี โดยหวังเจาจวิน ได้รับฉายาว่า “ปักษีตกนภา”ซึ่งหมายถึง “ความงามที่ทำให้แม้แต่ฝูงนกยังต้องร่วงหล่นจากท้องฟ้า” ซึ่งหมายถึงเมื่อครั้งเดินทางไปแดนซุงหนู นกบนฟ้าเอาแต่จ้องมองเธอลืมขยับปีกจนตกลงมา
หวังเจาจวินมีจุดด้อยในความงามนั้นเช่นกัน นั่นก็คือ ไหล่ทั้งสองข้างสูงต่ำไม่เท่ากัน และเพื่อแก้ปัญหาไหล่ตก หวางเจาจวินจึงใช้ผ้าคลุมไหล่ ที่มีลวดลายสีสันของผ้ามาเสริมให้ดูงดงาม ซึ่งเป็นวิธีอำพรางจุดด้วยของหวังเจาจวิน
“เตียวเสียน” มีชื่อในภาษาจีนกลางว่า เตียวฉาน มีความสามารถในการฟ้อนรำเป็นเลิศ โดยเตียวเสียนต่างจากสาวงามทั้งสามคน เพราะไม่มีหลักฐานยืนยันการมีตัวตนจริงในประวัติศาสตร์จีน เป็นเพียงตัวละครที่คาดว่า ถูกสมมุติขึ้นมาในเรื่องสามก๊ก ซึ่งมีเนื้อเรื่องอ้างอิงมาจากเหตุการณ์ช่วงปลายราชวงศ์ฮั่นตะวันออก ในยุคสามก๊ก
โดยในเนื้อหาในเรื่องสามก๊กนั้น พ่อแม่ของเตียวเสียนเป็นข้ารับใช้ และเสียชีวิตตั้งแต่เตียวเสียนยังเด็ก อ้องอุ้นจึงรับมาอุปการะเลี้ยงเอาไว้ จนเตียวเสียนอายุ 16 ปี และได้อาสาที่จะช่วยอ้องอุ้น ที่กำลังกลุ้มเรื่องการศึกอยู่
อ้องอุ้นเห็นความงามของเตียวเสียน จึงได้วางแผนให้เตียวเสียนใช้มารยาหญิงทำให้ตั๋งโต๊ะและลิโป้แตกคอกัน จนฆ่ากันเองในที่สุด โดยจะยกเตียวเสียนให้ลิโป้ก่อน แล้วจึงยกให้ตั๋งโต๊ะ โดยบอกแก่ลิโป้ว่าจะยกเตียวเสียนให้แต่งงานเป็นภรรยาลิโป้ แต่ยังไม่ถึงวันแต่งงาน อ้องอุ้นกลับส่งเตียวเสียนไปปรนนิบัติ กลายเป็นสตรีของตั๋งโต๊ะ ทำให้ลิโป้โมโหมาก จนแตกหักกับบิดาบุญธรรมอย่างตั๋งโต๊ะ ซึ่งสุดท้ายทุกอย่างก็เป็นไปตามแผนที่อ้องอุ้นวางไว้ทุกประการ
เตียวเสียนมีฉายาว่า “จันทร์หลบโฉมสุดา” ซึ่งหมายถึง ความงามที่ทำให้แม้แต่ดวงจันทร์ยังต้องหลบเลี่ยงให้ เล่ากันว่า เมื่อคราวออกมาไหว้พระจันทร์ รำพึงถึงบ้านเมือง ฉางเอ๋อร์ (เทพีบนดวงจันทร์) เห็นความงามนางยังอายจนต้องหลบเข้ากลีบเมฆ
เตียวเสียนมีจุดด้อยในความงามนั้นเช่นกัน นั่นก็คือ ติ่งหูสั้นเล็กผิดปกติ และเพื่อแก้ไขจุดด้อยดังกล่าว เตียวเสียนจึงใส่ตุ้มหูหยก และเลือกรูปทรงตุ้มหูเพื่อช่วยอำพรางสายตา ทำให้ติ่งหูที่ดูสั้นก็ดูสมส่วนขึ้นมา
สาวงามคนสุดท้าย คือ “หยางกุ้ยเฟย” เป็นพระสนมเอกในจักรพรรดิถังเสวียนจง แห่งราชวงศ์ถัง มีความสามารถในทางดนตรีขับร้องและฟ้อนรำ ด้วยความที่ฮ่องเต้ลุ่มหลงหยางกุ้ยเฟยจนลืมบริหารบ้านเมือง และด้วยอิทธิพลของหยางกุ้ยเฟย ทำให้ญาติของพระนางขึ้นมามีบทบาทในราชสำนัก ภายหลังจึงเกิดการกบฏขึ้น ฮ่องเต้ได้มีพระบรมราชโองการให้สำเร็จโทษหยางกุ้ยเฟยโดยการแขวนคอ ซึ่งเป็นการปิดตำนานสาวงามอย่างหยางกุ้ยเฟยไว้เพียงเท่านั้น
หยางกุ้ยเฟย มีฉายาว่า “มวลผกาละอายนาง” ซึ่งหมายถึง “ความงามที่ทำให้แม้แต่มวลหมู่ดอกไม้ยังต้องละอาย” มีเรื่องเล่าว่า วันหนึ่งขณะอยู่ในวัง หยางกุ้ยเฟยได้ไปเดินเล่นที่สวนดอกไม้ ได้มองเห็นดอกโบตั๋นและกุหลาบจีนที่กำลังบานสะพรั่ง แล้วคิดถึงชีวิตตนเองที่ถูกกักอยู่ในวังหลวง หยางกุ้ยเฟยร้องไห้และลูบดอกไม้นั้น เมื่อแตะถูกกลีบดอกไม้กลีบนั้นก็หุบลง (แต่ใครจะคิดว่าต้นไม้ที่หยางกุ้ยเฟยลูบนั้นคือต้นนางอาย) นางกำนัลคนหนึ่งเห็นเหตุการณ์นี้เข้า จึงนำไปเล่าลือว่าหากหยางกุ้ยเฟยเทียบความงามกับดอกไม้แล้ว ดอกไม้ยังต้องละอายก้มลงให้แก่นาง……..
หยางกุ้ยเฟยมีจุดด้อยในความงามนั้นเช่นกัน นั่นก็คือ กลิ่นตัวแรง ที่กลายเป็นที่ซุบซิบนินทาของคนทั่วไป เธอจึงแก้ไขปัญหาด้วยด้วยการลงอาบน้ำในธารหอมหัวชิง อบเสื้อผ้า และใช้แป้งหอมประทินกลบกลิ่นตัว จุดด้อยของหยางกุ้ยเฟยกลายเป็นจุดเด่น เพราะทำให้เธอมีกลิ่นหอม จนกลายเป็นคำชมที่ว่า “มวลผกาละอายนาง” นั่นเอง
เป็นอย่างไรกันบ้างคะ…กับ 4 สาวงามแห่งแผ่นดินจีน ความงามที่มีบทบาทสำคัญที่ทำให้สถานการณ์บ้านเมืองพลิกผัน ที่ทางเอซียูเพย์ นำมาฝากกันในวันนี้
4 สาวงามนี้ได้ให้แง่คิดอะไรกับเราอย่างหนึ่งเลยนะคะคือ ไม่ว่าเราจะสวยหรือมีสิ่งที่เพอร์เฟคขนาดไหน ก็ยังมีข้อบกพร่องอยู่เสมอ
อ้างอิง
ให้ทุกเรื่องการเงินเป็นเรื่องง่าย เริ่มต้นวันดีๆ ไปกับเรา MAKE A GREAT DAY WITH ACU PAY
Cookie | Duration | Description |
---|---|---|
cookielawinfo-checkbox-analytics | 11 months | This cookie is set by GDPR Cookie Consent plugin. The cookie is used to store the user consent for the cookies in the category "Analytics". |
cookielawinfo-checkbox-functional | 11 months | The cookie is set by GDPR cookie consent to record the user consent for the cookies in the category "Functional" |
cookielawinfo-checkbox-necessary | 11 months | This cookie is set by GDPR Cookie Consent plugin. The cookies is used to store the user consent for the cookies in the category "Necessary". |
cookielawinfo-checkbox-others | 11 months | This cookie is set by GDPR Cookie Consent plugin. The cookie is used to store the user consent for the cookies in the category "Other". |
cookielawinfo-checkbox-performance | 11 months | This cookie is set by GDPR Cookie Consent plugin. The cookie is used to store the user consent for the cookies in the category "Performance". |
viewed_cookie_policy | 11 months | The cookie is set by the GDPR Cookie Consent plugin and is used to store whether or not user has consented to the use of cookies. It does not store any personal data. |