ทุกคนอาจจะคุ้นเคยกับทักษะจำเป็นในการทำงาน เช่น ทักษะการสื่อสาร การเจรจาต่อรอง ทำงานเป็นทีม พวกนี้ แต่ทุกคนรู้ไหมว่า ยังมีอีกหนึ่งประเภททักษะที่ไม่ว่าจะอายุเท่าไหร่ ทำอาชีพอะไร ทุกคนควรมีไว้ นั่นก็คือทักษะการเงิน ซึ่งครั้งนี้ ACU PAY นำ 4 ทักษะการเงินที่ควรรู้มาฝาก ยิ่งรู้ไว้เท่าไหร่ยิ่งดี เพราะจะทำให้ชีวิตเราดีไวขึ้นมากเท่านั้น
นี่เป็นทักษะแรกที่ควรมีติดตัว ซึ่งคนเราไม่ควรมีแค่รายได้ Active income เพียงอย่างเดียว แต่ควรมีรายได้เพิ่มอย่างน้อย 2 ทาง และหนึ่งในนั้นควรเป็นรายได้แบบ Passive income
Active income คืองานที่ได้รายได้ก็ต่อเมื่อทำงานตามระยะเวลาที่กำหนด โดยงานนั้นต้องใช้แรงและเวลาแลกมาเพื่อเงิน ซึ่งหากหยุดงานหรือโดนไล่ออก ก็จะทำให้ขาดรายได้ ในทางกลับกัน Passive income อาจมีการลงทุนสร้างระบบในช่วงแรก แต่เมื่อทุกอย่างเข้าสู่ระบบ รายได้ก็จะเข้ามาเป็นประจำ โดยที่เราไม่ต้องใช้แรง เพียงแค่ให้เงินทำงานแทน
วอร์เรน บัฟเฟตต์ เคยกล่าวว่า “หากคุณไม่พบวิธีที่สามารถทำเงินได้ในระหว่างที่คุณหลับ คุณจะต้องทำงานไปตลอดชีวิต” นี่คือความสำคัญของการมีรายได้นอกเหนือจาก Active income
การหาเงินได้มากขึ้นเป็นเรื่องที่ดี แต่ถ้าหาเงินหาได้มาไม่มีการบริหารจัดการให้เป็น เงินที่หามานั้นก็สูญเปล่า หายไปได้ง่าย ๆ ดังนั้นทักษะที่จำเป็นต่อมาคือการรู้จักทำบัญชีรายรับรายจ่าย ซึ่งวิธีนี้จะช่วยให้เราได้เห็นถึงจำนวนเงินที่เข้าออกในแต่ละเดือน ว่าเงินส่วนนั้นหายไปไหนบ้าง และต้องปรับลด ปรับปรุงค่าใช้จ่ายตรงไหน และทุกการใช้จ่ายจะต้องรู้จักใช้อย่างมีสติ พิจารณาถึงความสำคัญ ไม่ซื้อของฟุ่มเฟือยตามกระแส
นอกจากนี้สิ่งที่ตามมากับรายได้ที่มากขึ้น นั่นก็คือการชำระภาษี ซึ่งเป็นเรื่องนอกห้องเรียนที่สำคัญ เราจึงต้องรู้จักการวางแผนภาษีให้ดี เพื่อสามารถจัดการเสียภาษีให้ถูกต้อง ครบถ้วน โดยใช้สิทธิประโยชน์ทางภาษีต่าง ๆ ที่กฎหมายกำหนดไว้ไปใช้ลดหย่อนภาษีเงินได้ประจำปี โดยไม่ต้องเสียภาษีมากจนเกินไป
อีกทักษะที่ขาดไม่ได้คือการรู้จักออมเงินก่อนใช้จ่าย ซึ่งหลักการออมเงินง่ายที่สุด คือการหักเงินมาออม 10% ของรายได้ โดยเงินนี้ควรหักเข้ามาเก็บอยู่ในเงินออมสำรองฉุกเฉินก่อน ซึ่งเราควรมีเงินสำรองไว้อย่างน้อย 3 – 6 เท่าของค่าใช้จ่ายต่อเดือน
หลังจากมีเงินเก็บเพียงพอแล้ว สิ่งที่ทำให้เงินงอกเงย คือการออมเงินให้ได้ผลตอบแทนสูง เช่น ออมเงินในบัญชีเงินฝากประจำ ออมในกรมธรรม์ประกัน ออมในกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ ออมในกองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพ
ทักษะสุดท้ายที่ควรมีคือการลงทุน การเริ่มลงทุนตั้งแต่อายุยังน้อยเป็นสิ่งที่ดี เพราะเราจะได้ใช้พลังแห่งเวลาที่เรียกว่า “ดอกเบี้ยทบต้น” (Compound Interest) คือ ดอกเบี้ยที่เกิดจากเงินต้นรวมกับดอกเบี้ยงวดก่อนหน้า สะสมไปเรื่อย ๆ ขนาดอัลเบิร์ต ไอน์สไตน์ ยังยกให้ดอกเบี้ยทบต้น เป็นสิ่งมหัศจรรย์อันดับ 8 ของโลก
และสิ่งที่สำคัญในการลงทุนคือการมีความรู้และลงทุนในสิ่งที่รู้ การลงทุนแรก ๆ อาจมีข้อผิดพลาดบ้าง แต่ถ้าเรานำข้อผิดพลาดมาแก้ไข เราก็จะพัฒนาการลงทุนให้ดีขึ้นได้ เมื่อลงทุนไปแล้ว ก็ต้องติดตาม ศึกษา และหาข้อมูล สิ่งที่ลงทุนไปแล้วอยู่เสมอ
สรุปแล้วทักษะการเงินที่เราควรรู้ไว้ ไม่ว่าจะอีกกี่สิบปีก็ไม่มีวันเปลี่ยนแปลง นั้นก็คือทักษะในการหาเงิน ใช้จ่ายให้เป็น มีเงินออม และนำเงินไปลงทุนนี้ เป็น 4 ทักษะที่เราทุกคนควรมีติดตัวไว้