สี นอกจากจะมีอิทธิพลด้านการสื่อสารอารมณ์แล้ว ในธุรกิจสียังเป็นเรื่องที่สำคัญไม่แพ้กับโลโก้ เพราะสีนั้นเปรียบเสมือนการสร้างบุคลิก เอกลักษณ์เฉพาะตัวให้โดดเด่นและน่าจดจำ ช่วยให้ผู้บริโภคหรือผู้ใช้บริการจดจำและกระตุ้นในการเลือกซื้อสินค้า เพื่อเข้าใจความหมายการใช้สีในแบรนด์มากขึ้น ACU PAY จะพามาดูว่าสีส่งผลต่อด้านอารมณ์และแบรนด์อย่างไรบ้าง
แม้ว่าการรับรู้สีจะค่อนข้างเป็นเรื่องปัจเจกบุคคล แต่ทางจิตวิทยาถือว่าสี เป็นสิ่งเร้าทำให้เกิดการตอบสนอง กระบวนการของสิ่งเร้านี้มีอิทธิพลต่อระบบประสาทของมนุษย์มาก สามารถเปลี่ยนอารมณ์ นิสัยใจคอ ตลอดจนพฤติกรรมของมนุษย์ได้ นอกจากนี้ยังมีผลการวิจัยพบว่า ผู้คนมากกว่า 62 – 90 % มักจะจดจำสีของแบรนด์หรือสินค้าเป็นสิ่งแรก
เป็นสีที่มีอำนาจ กระตุ้นอารมณ์ความตื่นเต้น เร้าใจ ดึงดูดความสนใจและสะดุดตามากที่สุด จึงไม่แปลกที่ป้ายโปรโมชั่นต่าง ๆ จะนิยมใช้เพื่อให้ลูกค้าที่เดินผ่านไปมา ให้สะดุดตากับป้ายลดราคา แล้วเข้ามาดูสินค้า ซึ่งสีแดงจะช่วยกระตุ้นการตัดสินใจซื้อของลูกค้าเป็นอย่างดี นอกจากนี้สีแดงยังสื่อถึงความอยากอาหาร ทำให้ธุรกิจอาหารและเครื่องดื่มเลือกใช้สีแดงเป็นสีสัญลักษณ์ของแบรนด์
สีส้มให้ความรู้สึกสดใส ร้อนแรง เจิดจ้า มีพลังและอำนาจ เนื่องจากเป็นสีที่ผสมกันระหว่างแดงและเหลือง จึงแสดงถึงความกระตือรือร้นของสีแดง และในขณะเดียวกันยังสื่อถึงความรู้สึกต้อนรับ เป็นมิตร และอบอุ่นของสีเหลือง เหมาะกับแบรนด์ที่ต้องการสื่อถึงความเป็นมิตร พร้อมต้อนรับให้บริการ นอกจากนี้สีส้มยังเป็นสีที่ใช้ในการทำ call-to-action (CTA) ในการตลาดออนไลน์อีกด้วย
สีเหลืองให้ความรู้สีก สดใส ซุกซน มีชีวิตชีวา นอกจากนี้ยังเป็นสีที่สื่อถึง ตรรกะ ความคิดสร้างสรรค์ ส่งเสริมแนวคิดในทางบวกและการทำสิ่งใหม่ ๆ ด้วยความที่เป็นสีที่เบาที่สุดของสเปกตรัม สีเหลืองจึงเหมาะกับแบรนด์ที่สื่อถึงการส่องสว่างให้ความหวัง ความสุข ความสนุกสนาน และอบอุ่น โทนสีเหลืองเข้มจะให้ความรู้สึกมั่งคั่ง เหมือนสีของทองคำ
สีเขียวเป็นสีที่ดีที่สุดต่อสายตามนุษย์ เนื่องจากสีเขียวจะช่วยผ่อนคลายกล้ามเนื้อและประสาทตา ขณะเดียวกันก็เป็นสีแห่งธรรมชาติ สื่อถึงความสมดุลและการเติบโต สงบ มั่นคงและปลอดภัย สีเขียวเข้มเกี่ยวข้องกับการเงิน และศักดิ์ศรี ในขณะที่สีเขียวอ่อนเกี่ยวข้องกับการเกิดใหม่ การเจริญเติบโต และความสดใหม่ ในทางธุรกิจสีเขียวแสดงออกถึง แบรนด์ที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพ หรือส่งเสริมผลิตภัณฑ์จากธรรมชาติ ผลิตสินค้าออร์แกนิค และเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม
สีน้ำเงินเป็นสีที่คนทั่วไปนิยมใช้มากที่สุด เนื่องจากสีน้ำเงินเป็นสีที่ให้ความรู้สึกสงบ จริงจัง มีสมาธิ ยิ่งไปกว่านั้นยังเป็นสีที่แสดงถึงความน่าเชื่อถือและความปลอดภัย จึงนิยมใช้ในเครื่องแบบธุรกิจและสายการบิน เพราะแสดงถึงความน่าไว้วางใจ ช่วยในการสร้างความภักดีของลูกค้าได้เป็นอย่างดี ในขณะเดียวกันสีน้ำเงิน และสีฟ้าให้ความรู้สึกปลอดโปร่ง แจ่มใส กว้าง ลดความเครียด ปราดเปรื่องช่วยกระตุ้นความคิดสร้างสรรค์และจินตนาการ
เป็นสีแห่งจินตนาการและจิตวิญญาณในการสร้างแรงบันดาลใจ นอกจากนี้ยังเป็นสีที่แสดงความครุ่นคิด ช่วยให้เราสามารถเชื่อมต่อกับความคิดที่ลึกซึ้งยิ่งขึ้น สีม่วงแสดงถึงความมั่งคั่ง ทรงพลัง มักใช้เพื่อแสดงถึงผลิตภัณฑ์คุณภาพสูงหรือดีกว่า ยกตัวอย่างเช่น ในธุรกิจบริการ นิยมใช้สีม่วงในการตลาดเพื่อส่งเสริมการบริการระดับพรีเมียม
สีกลุ่มนี้เรียกว่า “Achromatic” หมายถึง การไม่มีสี ในทางทฤษฎีไม่จัดว่าเป็นสี แต่ก็มีอิทธิพลต่อสภาวะอารมณ์เช่นกัน สีกลุ่มนี้ส่งเสริมให้แบรนด์ดูมีความหรูหรา เรียบแต่แพง สุขุม มีระดับ สื่อถึงความรู้สึกมั่นคงโดยไม่ต้องใช้สีที่ฉูดฉาด โดย 3 สีนี้ยังเป็นสีที่อมตะและคลาสสิคใช้กับงานดีไซน์มาหลายยุคสมัย ยกตัวอย่างเช่น แบรนด์รถยนต์ รองเท้า หรือสินค้าลักซ์ชัวรี่ แบรนด์เนม ต่าง ๆ
นอกจากนี้ จากผลวิจัยของ Marketo และ Colum Five จาก 100 แบรนด์ดังเกี่ยวกับการเลือกใช้ ‘สีสร้างแบรนด์’ เพื่อช่วยส่งเสริมภาพลักษณ์ พบว่าสีน้ำเงินเป็นสียอดนิยม ที่หยิบมาใช้มากที่สุด ตามด้วยสีแดง สีดำ หรือสีเทา และอันดับสุดท้ายคือสีเหลือง