fbpx
Search
Close this search box.

Big C บุกฮ่องกง เปิดตลาดนอกอาเซียนครั้งแรก ซื้อกิจการ ‘AbouThai’ กว่า 24 แห่ง

“Big C” ห้างสรรพสินค้าทั้งค้าปลีกและค้าส่งที่ใครหลายคนรู้จัก ล่าสุดบิ๊กซีได้เปิดสาขาแรกในฮ่องกงอย่างเป็นทางการแล้ว โดยเข้าซื้อกิจการ “AbouThai” (อะเบ๊าท์ไทย) ซูเปอร์มาร์เก็ตที่จำหน่ายสินค้าจากไทยซึ่งมี 24 สาขาในฮ่องกง

เมื่อวันที่ 26 กันยายน 2566 ที่ผ่านมา “บิ๊กซี” ได้เปิดตัวสาขาแรกในฮ่องกง และได้ปรับโฉมมาจากร้าน AbouThai และเข้าซื้อกิจการทั้ง 24 สาขา มูลค่ากว่า 300 ล้านบาท จาก “กลุ่มบริษัทอะเบ๊าท์ไทย” เมื่อต้นเดือนสิงหาคม 2566 ที่ผ่านมา นำโดย “คุณ อัศวิน-คุณฐาปณี เตชะเจริญวิกุล” ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่แห่ง BRC เดินทางไปเปิดงานด้วยตัวเอง โดยหวังจะเชื่อมโยงการค้ากับจีนผ่านทางฮ่องกงต่อไป

โดยเหตุผลที่บิ๊กซีเข้าไปตีตลาดในฮ่องกงเป็นเพราะว่า ในช่วงการระบาดโควิด-19 ที่ผ่านมา ฮ่องกงก็สามารถฟื้นตัวได้อย่างรวดเร็ว นอกจากนี้บิ๊กซียังเป็นมีร้านค้าอีคอมเมิร์ซที่ให้ผู้คนจากจีนสามารถสั่งซื้อสินค้าจากประเทศไทยได้โดยตรง โดยการเข้าซื้อกิจการในบริษัทฮ่องกง จะช่วยปูทางไปสู่โอกาสในอนาคตในการร่วมมือกับบริษัทชั้นนำในฮ่องกงและในจีนแผ่นดินใหญ่ โดยคุณอัศวิน เตชะเจริญวิกุล ได้ให้สัมภาษณ์ไว้ใน China Business

ด้วยปัจจัยสนับสนุนเหล่านี้ บิ๊กซี รีเทล ได้เลือกฮ่องกงเป็นตลาดแรกนอกเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ หลังจากขยายธุรกิจในประเทศไทย และประเทศเพื่อนบ้านทั้งลาว กัมพูชา และเวียดนาม ในช่วงหลายปีที่ผ่านมาเพื่อขยายสาขาบิ๊กซีกว่า 2,000 แห่ง ในรูปแบบร้านค้าที่หลากหลาย ทั้งออนไลน์และออฟไลน์ ประกอบด้วย บิ๊กซี ซูเปอร์เซนเตอร์, บิ๊กซี มาร์เก็ต, บิ๊กซี ฟู้ดเพลส และบิ๊กซี มินิ

การเปิดตลาดใหม่ในฮ่องกงครั้งนี้ นอกจากจะเป็นก้าวแรกของ บิ๊กซี รีเทล ในการขยายธุรกิจออกนอกเอเชียตะวันออกเฉียงใต้แล้ว บริษัทยังมีแผนการยกระดับ Big C ซูเปอร์มาร์เก็ตสัญชาติไทยในกลุ่ม TCC ให้มีคุณภาพระดับพรีเมียม รวมถึงมีความสนใจการลงทุนในโครงการพัฒนาไคตั๊ก (Kai Tak) เป็นพื้นที่มหาศาลอยู่กลางเมืองและติดริมน้ำ ซึ่งฮ่องกงต้องการให้ไคตั๊กเป็นต้นแบบในการพัฒนาเมืองฮ่องกงในอนาคต

โดยคาดว่ายอดขายบิ๊กซีในฮ่องกงจะเติบโตอย่างรวดเร็วมากกว่า 1 พันล้านฮ่องกงดอลลาร์ในปี 2568 และมียอดขายเติบโตเพิ่มขึ้นที่ 1.5 พันล้านดอลลาร์ฮ่องกง ในปี 2569 พร้อมนำเข้าสินค้าแบรนด์ดัง ไม่ว่าจะเป็น ขนมขบเคี้ยว เครื่องดื่ม ของกิน ของใช้จากประเทศไทยที่ได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวมากกว่า 80% เพื่อตอบสนองความต้องการและความต้องการของลูกค้าฮ่องกง

โดยในอนาคตทางบริษัทได้เตรียมพร้อมวางแผนเปิดเพิ่มปีละ 25 สาขา เพื่อให้มีสาขารวมกัน 99 สาขา ในปี 2569 และวางแผนการลงทุนระยะยาวในฮ่องกงด้วยงบประมาณกว่า 200 ล้านดอลลาร์ฮ่องกง

บทความที่เกี่ยวข้อง

เพื่อนๆ สามารถติดตาม ACU PAY Thailand ผ่านช่องทางการติดตามอื่นๆ ได้ที่