fbpx
Search
Close this search box.

e-Money กับ Cryptocurrency ต่างกันอย่างไร ?

     ตอนนี้เรากำลังอยู่ในโลกดิจิทัลที่แทบจะไม่มีเส้นมาแบ่งกั้น เพราะเป็นยุคอินเทอร์เน็ตที่ทุกๆ คนสามารถเชื่อต่อกันได้ ด้วย SmartPhone เพียงเครื่องเดียว ซึ่งไม่เพียงโทรออกและโทรเข้า แต่ยังมีศักยภาพในการใช้งานที่หลากหลาย หนึ่งในนั้นคือ เทคโนโลยีหรือนวัฒกรรรมต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับการเงิน (Financial Technology / Financial Innovation) หรือที่เรียกว่า FinTech ถูกพัมนาอย่างก้าวกระโดด หนึ่งสิ่งที่ถูกพัฒนา และกำลังเป็นที่นิยมคือ e-Money และ Cryptocurrency

e money กับ cryptocurrency ต่างกันอย่างไร

เงินอิเล็กทรอนิกส์ (e-money) แตกต่างจาก cryptocurrency ที่มีใช้อยู่หลายรูปแบบในตอนนี้อย่างไร?

         e-Money เป็นเงินอิเล็กทรอนิกส์ที่ออกโดยสถาบันการเงิน หรือผู้ประกอบการที่ไม่ใช่สถาบันการเงิน (non-bank) ซึ่งอยู่ภายใต้การกำกับดูแลของกฎหมายระบบการชำระเงินในประเทศนั้นๆ ผู้ให้บริการจะออก e-Money ให้แก่ผู้ใช้ที่เติมเงินไว้ล่วงหน้าเพื่อเอาไปจ่ายชำระค่าสินค้า และค่าบริการในวงปิด คือ เฉพาะเครือข่ายที่รับชำระ e-money นั้นๆ ซึ่งแบ่งออกได้ 2 ประเภทตามลักษณะ คือ
          Card based ที่มูลค่าเงิน ข้อมูลของบัตร และข้อมูลการใช้จ่ายจะถูกแปลงและเก็บไวในชิปขนาดเล็ก ที่ฝงอยูบนสิ่งตาง ๆ ซึ่งที่เราคุ้นตากันมากที่สุดก็คือบัตร เช่น บัตรโดยสารรถไฟฟ้า บัตรที่ใช้ซื้อของตามร้าน สะดวกซื้อ บัตรศูนย์อาหาร แต่นอกจากบัตรแล้วก็ยังมีการพัฒนาให้มีรูปแบบอื่น ๆ ได้อีก เช่น โทรศัพทมือถือ พวงกุญแจ เป็นตน (แม้จะมีรูปแบบที่นอกเหนือ จากบัตร แตยังคงใชคําวา Card based ตาม หลักสากล เนื่องจากบัตรเป็นรูปแบบเริ่มแรกและมีการใช้มากที่สุด)

            สําหรับประเภทต่อมา คือ Network/Server based หรือ e-Money บนเครือข่ายคอมพิวเตอร์ ซึ่งมูลค่า เงินและข้อมูลต่าง ๆ จะถูกแปลงและเก็บไวใน Server กลางของผู้ให้บริการ หรือที่คุ้นเคยในชื่อ e-Wallet โดยผู้ใช้บริการต้องลงทะเบียน เปิดบัญชีออนไลน์ไว้กับผู้ให้บริการก่อน แล้วจึงเริ่มเติมเงินเขาบัญชีผ่านช่องทางต่าง ๆ เช่น อินเทอรเน็ต หรือโทรศัพทมือถือเพื่อนําไปใช้จ่าย โดยส่วนใหญ่จะใช้เพื่อซื้อสินค้าและบริการออนไลน์ ซึ่งในปัจจุบัน e-Money ในลักษณะนี้ได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ โดยเฉพาะในบรรดาขาช็อปตามร้านค้า ออนไลน์ รวมถึงรานคาขนาดใหญ่หลายแหงก็เริ่มเสริมบริการนี้เป็นทางเลือกด้วย

“Cryptocurrency” คือ

สินทรัพย์ดิจิทัลประเภทหนึ่งที่ต้องอาศัยการเข้ารหัส โดยคำว่า “Crypto” หมายถึง การเข้ารหัส ส่วนคำว่า “Currency” หมายถึง สกุลเงิน ทำให้คริปโตเคอร์เรนซีเป็นเงินดิจิทัลที่หลายฝ่ายมองว่าเป็นสกุลเงินในอนาคต ที่จะเข้ามามีบทบาทในการซื้อขายแลกเปลี่ยนสินค้า และบริการระหว่างสินทรัพย์ดิจิทัลด้วยกัน ซึ่งต่างจาก e-Money คือ

  1. Cryptocurrency ไม่จำเป็นที่จะต้องออกด้วยธนาคาร หรือสถาบันการเงินที่ไม่ใช่ธนาคาร อีกนัยยะหนึ่งคือ ใครก็สามารถที่จะออกเหรียญ cryptocurrency ขึ้นมาได้ ซึ่งจะถูกตีมูลค่าตามความน่าเชื่อถือ และตลาดซื้อขาย
  2. Cryptocurrency เมื่อถูกตีมูลค่าตามความน่าเชื่อถือ และตลาดซื้อขาย ส่งที่ส่งผลตามมาคือ เสถียรภาพของมูลค่าที่อาจจะเพิ่มมาขึ้น หรือลดลง ซึ่งหากในอนาคตสามารถทำให้มีเสถียรภาพได้จะเป็นเงินอีกหนึ่งสกุลที่น่าสนใจมากๆ
  3. Cryptocurrency ไม่ได้อยู่ภายใต้อยู่ภายใต้การกำกับดูแลของกฎหมายประเทศใดประเทศหนึ่งปราศการถูกการควบคุม
  4. Cryptocurrency ไม่มี Server กลาง การถูกคุกคามจากภัยทางดิจิตอล จึงเป็นไปได้ยากมากๆ

            บทความนี้เป็นเพียงการชี้ให้เห็นถึงความแตกต่าง ระหว่าง e-Money กับ Cryptocurrency เพื่อให้เราได้ทราบถึงลักษณะ การใช้งาน เพื่อให้เราได้เลือกใช้ได้อย่างเหมาะสม อย่างไรก็ตามไม่ว่าจะเป็น e-Money กับ Cryptocurrency ไม่ใช่แฟน เพราrเราสามารถที่จะครอบครองไว้ได้ในเวลาเดียวกัน เพื่อนๆคิดว่าในอนาคตจะเป็นอย่างไร หากเราสามารถเชื่อมโยงข้อดีทั้ง e-Money และ Cryptocurrency เข้าด้วยกันได้

บทความที่เกี่ยวข้อง

เพื่อนๆสามารถติดตาม ACU PAY Thailand ผ่านช่องทางการติดตามอื่นๆ ได้ที่