ปัจจุบัน e-Wallet กำลังเข้ามาอิทธิพลอย่างมากในการใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน ส่งผลให้พฤติกรรมการใช้จ่ายของคนในสังคมที่เกี่ยวกับการบริโภค และอุปโภคกำลังเปลี่ยนแปลงไป สงสัยไหมครับว่า e-Wallet มาสร้างความเปลี่ยนแปลงอย่างไรบ้างมาดูกันเลย
จากผลสำรวจของวารสารสมาคมนักวิจัยพบว่า ผู้บริโภคที่อาศัยในกรุงเทพมหานคร ที่ใช้บริการแอปพลิเคชันกระเป๋าเงินอิเล็กทรอนิกส์(e-Wallet) ส่วนใหญ่เป็นเพศหญิง มีอายุระหว่าง 21-30 ปีมีสถานภาพโสด จบการศึกษาระดับปริญญาตรีหรือเทียบเท่า ประกอบ อาชีพพนักงานบริษัทเอกชน และมีรายได้เฉลี่ยต่อเดือนระหว่าง 15,001-30,000 บาท
ประเภทการบริการที่ใช้ในการชำระเงินผ่านกระเป๋าเงินอิเล็กทรอนิกส์(e-Wallet) ของผู้บริโภคที่อาศัยใน กรุงเทพมหานคร อันดับแรก คือ จ่ายบิล (เช่น บัตรเครดิต ค่าสาธารณูปโภค ค่าโทรศัพท์มือถือ ค่าเล่าเรียน) รอง ลงมาคือใช้ซื้อสินค้าอุปโภคบริโภค และใช้ซื้อบริการต่างๆ(เช่น จองตั๋วหนังอาหาร จองโรงแรม) ส่วนประเภทการใช้บริการชำระเงินผ่านกระเป๋าเงินอิเล็กทรอนิกส์ (e-Wallet) ที่ใช้บริการน้อยที่สุด คือ โอนเงินระหว่างบุคคล
สำหรับเหตุผลในการตัดสินใจใช้บริการในการชำระเงินผ่านกระเป๋าเงินอิเล็กทรอนิกส์ (e-Wallet) อันดับแรก คือ ความสะดวกรวดเร็วมากกว่าการใช้จ่ายด้วยเงินสด รองลงมา คือ ช่วยลดค่าใช้จ่าย เช่น ค่าธรรมเนียม และโปรโมชั่น จากร้านค้าที่ให้บริการ เช่น ส่วนลด ของแถม เงินคืน ส่วนเหตุผลในการตัดสินใจใช้บริการชำระเงินผ่านกระเป๋าเงิน อิเล็กทรอนิกส์ (e-Wallet) ที่ใช้บริการน้อยที่สุด คือ ลดความผิดพลาดจากการชำระเงินด้วยเงินสด และอื่น ๆ
สถานที่ที่ใช้งานกระเป๋าเงินอิเล็กทรอนิกส์ (e-Wallet) คือ ร้านค้าออนไลน์และมีความถี่ในการใช้งานกระเป๋าเงิน อิเล็กทรอนิกส์(e-Wallet) ต่อเดือน ระหว่าง 1-3 ครั้งต่อเดือน
เพื่อนๆ ใช้ e-Wallet ทำอะไรบ้างครับ นอกจากที่กล่าวมาทั้งหมด ลองคอมเมนต์บอกกันหน่อยนะครับ