fbpx
Search
Close this search box.

Gao Kao ข้อสอบเอนทรานส์ที่โหดที่สุด ของจีน

เพราะ “การมีศึกษาสูง” คือหนทางแห่งการยกระดับสถานะทางสังคม และคุณภาพชีวิตที่เปลี่ยนไป เราจึงถูกสังคมกำหนดและปลูกฝังให้ตั้งใจเรียน เพื่อจะได้ประสบความสำเร็จในอนาคต ครั้งนี้เอซียู เพย์ จะพามาทำความรู้จักการสอบสุดโหดของประเทศจีนที่มีผู้สมัครสูงถึง 12.9 ล้านคน เรียกว่า “เกาเข่า” กัน

เกาเข่าคืออะไร ?

การสอบแข่งขันเข้ามหาวิทยาลัยระดับชาติของจีน The National Collage Entrance Examination – NCEE หรือเรียกสั้น ๆ ว่า “เกาเข่า” ( 高考) เป็นการสอบครั้งสำคัญที่สุดในชีวิตของเด็กนักเรียนจีน ซึ่งโอกาสสอบมีเพียงปีละครั้งเท่านั้น โดยปกติจะจัดขึ้นในวันที่ 7 – 8 มิถุนายนของทุกปี และการสอบเกาเข่าจะใช้เวลาราว 2 – 3 วัน หรือในบางมณฑลอาจนานกว่านั้น

ชีวิตถูกกำหนดด้วยผลสอบ

สำหรับเด็กจีนแล้วนั้น คะแนนสอบเกาเข่าถือเป็นตัวกำหนดชะตาชีวิตอย่างหนึ่ง เพราะเชื่อกันว่าหากสอบได้คะแนนดีๆ ก็มีโอกาสยกระดับคุณภาพชีวิต ได้ทำงานดีๆ หรือเปลี่ยนสถานะทางสังคมได้เลยทีเดียว ทั้งนี้ยังมีความคาดหวังจากครอบครัวที่หวังให้ลูกได้คะแนนสูง ๆ แต่หากใครสอบไม่ผ่านหรือไม่ติดมหาวิทยาลัยก็ต้องรับมือกับความกดดัน และเตรียมตัวรอรอบใหม่ในปีถัดไป ซึ่งสามารถสอบได้เรื่อย ๆ ไม่จำกัดอายุ โดยการสอบเมื่อเดือนมิถุนายน ปี 2566 ที่ผ่านมา มีนักเรียนจีนเข้าร่วมการสอบถึง 12.9 ล้านคนทั่วประเทศจีน

ความกดดันนี้เองเหล่านักเรียนจีนต้องมีการเตรียมตัวสำหรับการสอบเกาเข่าอย่างเข้มข้น ผู้ปกครองเลือกที่จะจ้างติวเตอร์หรือส่งลูกไปเรียนพิเศษราคาแพง เพื่อให้อนาคตของลูก ในขณะที่โรงเรียนก็มีการจัดติวอย่างเข้มข้นในโรงเรียน ครูประจำชั้นจะมีการติดตามนักเรียนทุกคนอย่างใกล้ชิด อาจมีการทำกิจกรรมคลายเครียดให้กับเหล่านักเรียนบ้าง นอกจากนี้หลังเลิกเรียนบางโรงเรียนยังให้นักเรียนชั้นมัธยมปลายปีสุดท้ายอยู่ติวและอ่านหนังสือหลังอาหารมื้อเย็นอีกด้วย

รูปแบบการสอบเกาเข่า จะมีการปรับเปลี่ยนไปตามยุคสมัย โดยปัจจุบัน ข้อสอบเกาเข่ามีทั้งหมด 2 ส่วน วิชาหลักและวิชาเลือก

ส่วนที่ 1 วิชาหลัก 3 วิชา คณิตศาสตร์ ภาษาจีน และภาษาอังกฤษ วิชาละ 150 คะแนน รวมทั้งหมด 450 คะแนน

ส่วนที่ 2 วิชาเลือก แบ่งเป็นวิชาสายวิทย์ (เคมี ชีววิทยา และฟิสิกส์) และวิชาสายศิลป์ (ประวัติศาสตร์ ภูมิศาสตร์ และการเมือง) คะแนนเต็ม 300 คะแนน

รวมเป็นคะแนนเต็ม 750 คะแนน

ตัวอย่างข้อสอบเกาเข่าที่สร้างเสียงฮือฮาที่สุดให้กับการสอบมากที่สุด เช่น โจทย์ข้อสอบเกาเข่ามณฑลหูเป่ย ปี 2013 ถามว่า 

“ภาชนะใส่นมมักจะเป็นทรงกล่องสี่เหลี่ยม ส่วนภาชนะใส่น้ำแร่มักจะเป็นขวดกลมเสมอ และขวดไวน์ทรงกลมมักจะใส่ในกล่องสี่เหลี่ยม จงเขียนเรียงความเกี่ยวกับหลักปรัชญาที่แฝงอยู่ภายใต้เรื่องทรงกลมและสี่เหลี่ยม” 

เมื่ออนาคตของเด็กเป็นวาระแห่งชาติ

วันสอบเกาเข่า รัฐบาลจีนมีการออกกฎมาตรการต่าง ๆ เพื่ออำนวยความสะดวกให้แก่ผู้สอบ เช่น  มาตรการงดกิจกรรมบันเทิงทุกรูปแบบ เพื่อป้องกันการรบกวนสมาธิเด็กนักเรียน นอกจากนี้ยังมีอาสาสมัครและเจ้าหน้าที่ตำรวจคอยอำนวยความสะดวกให้ผู้เข้าสอบได้สอบทันเวลาอีกด้วย 

ยิ่งไปกว่านั้นข้อสอบเกาเข่าถือเป็นเอกสารสำคัญทางราชการของจีนจึงมีการรักษาความปลอดภัยที่เข้มงวดมาก ก่อนทำการสอบ 3 ชั่วโมง จะมีเจ้าหน้าที่ขนย้ายข้อสอบ พร้อมกล้องวงจรปิดและจีพีเอสติดตามตลอดเวลา หน้าประตูสนามสอบยังมีเจ้าหน้าที่พกอาวุธปืนคอยให้ความปลอดภัยกับข้อสอบ

นอกจากนี้ยังมีการตรวจเช็กอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ทุกชนิดก่อนเข้าสอบ เพื่อป้องกันการทุจริต มีการติดตั้งกล้องวงจรปิดไว้ในห้องสอบ รวมไปถึงการใช้โดรนในการเช็คสัญญาณวิทยุ เพื่อป้องกันการทุจริตอีกด้วย

หลังสอบเสร็จแล้ว ข้อสอบจะถูกเคลื่อนย้ายและจัดเก็บในกระเป๋าลากอย่างดี โดยมีเจ้าหน้าที่ตำรวจติดตามในรถ และมีรถเจ้าหน้าที่ขับนำและตามอย่างน้อย 3 คัน หากย้ายด้วยรถไฟความเร็วสูง ภายในห้องขนส่งจะติดตั้งกล้องวงจรปิด โดยมีคนดูแลตลอดเวลา

หลังจากนั้นคะแนนสอบมักประกาศในช่วงปลายเดือนมิถุนายน เพื่อยื่นเข้ามหาวิทยาลัยดี ๆ ชื่อดัง ยิ่งได้คะแนนสูงเท่าไหร่ โอกาสที่จะได้เข้าศึกษาต่อในมหาวิทยาลัยดี ๆ ก็จะยิ่งสูงตามไปด้วย ตัวอย่างเช่น ในปี 2565 นักเรียนแฝดสามสอบได้คะแนนสูงสุด โดยคนโตและคนเล็กยื่นคะแนนสอบเข้าสถาบันวิทยาศาสตร์แห่งมหาวิทยาลัยจีน (UCAS) ด้วยคะแนน 664 และ 654 คะแนน และคนกลางได้รับข้อเสนอจากมหาวิทยาลัยปังกิ่ง ด้วยคะแนนสอบสูงถึง 674 คะแนน จากคะแนนเต็ม 750 คะแนน

ซึ่งในปัจจุบันนี้การสอบเกาเข่ายังเป็นที่ยอมรับในระดับสากล โดยมีมหาวิทยาลัยในต่างประเทศหลายแห่งเปิดรับนักศึกษาจีนเข้าศึกษาต่อในระดับปริญญาตรีด้วยคะแนนสอบเกาเข่าเช่นกัน

จะเห็นได้ว่าการสอบเกาเข่าของจีนเป็นสิ่งที่สำคัญกับชีวิตเด็กนักเรียนคนนึงมาก เพราะคะแนนสามารถกำหนดเส้นทางชีวิตและสถานะทางสังคมในอนาคตของเด็กคนนั้นได้เลย ทำให้เด็ก ๆ หลายคนต่างต้องเผชิญแรงกดดันและความเครียดที่สูงมาก ซึ่งความเครียดและความกดดันในการสอบนี้ ต่างเกิดขึ้นนี้ในหลายประเทศแถบเอเชีย โดยประเทศไทยก็เป็นหนึ่งในนั้นเหมือนกัน 

บทความที่เกี่ยวข้อง

เพื่อนๆ สามารถติดตาม ACU PAY Thailand ผ่านช่องทางการติดตามอื่นๆ ได้ที่