fbpx

‘Soft Saving’ พฤติกรรมการเงินของคนรุ่นใหม่ เก็บเงินไว้ใช้ในปัจจุบันมากกว่าอนาคต

Soft Saving

ช่วงหลายปีที่ผ่านมา FIRE Movement เทรนด์การออมเงินเกษียณเร็ว ที่เน้นสร้างเงินเกษียณไปใช้ชีวิตในฝันให้เร็วที่สุด กลับมีเทรนด์ใหม่ในกลุ่มคนรุ่นใหม่ กับ เทรนด์การออมเงินที่เรียกว่า ‘Soft Saving’ ซึ่งเทรนด์นี้จะเป็นอย่างไร ตาม ACU PAY มาเลย 

ทำความรู้จัก Soft Saving

‘Soft Saving’ เป็นเทรนด์การเงินในกลุ่มคนใหม่ที่เก็บเงินไว้ใช้ในอนาคตน้อยลง เพื่อใช้เงินกับชีวิตในปัจจุบันให้มากขึ้น เพื่อหาประสบการณ์และสร้างคุณภาพชีวิตให้ดี

ดูเหมือนคนรุ่นใหม่จะใช้เงินกันสุรุ่ยสุร่ายใช่ไหม แต่ความจริงแล้วเบื้องหลังความคิดนี้มาจากการตอบสนองของ เจน Z ที่มีต่อยุค FIRE และวัฒนธรรมทำงานหนัก โดยข้อมูล Prosperity Index Study ของ Intuit บริษัทซอฟต์แวร์ด้านการเงินรายใหญ่ ในช่วงต้นปี 2023 พบว่า 

แม้กลุ่มเจน Z จะเรียนรู้และหาข้อมูลเกี่ยวกับเรื่องการหาเงิน ลงทุน และออมเงินอยู่เสมอ แต่ก็ไม่ได้ทำแบบตึงเครียดเหมือนคนรุ่นก่อน ๆ พวกเขาให้ความสำคัญกับการเติบโตและพัฒนาตัวเอง รวมไปถึงสุขภาพจิตใจในตอนนี้มากกว่า

ในยุคปัจจุบันคนออมเงินน้อยลง ?

ข้อมูลจากสำนักงานวิเคราะห์เศรษฐกิจของสหรัฐอเมริกาพบว่า ในปี 2023 ชาวอเมริกันเก็บเงินน้อยลงอย่างมีนัยสำคัญอยู่ที่ 3.9% ในเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา จากเดิมเฉลี่ยอยู่ที่ 8.51% ในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา

ส่วนสาเหตุที่ชาวอเมริกันเก็บเงินน้อยลงมาจากการใช้จ่ายเงินที่น้อยลงในช่วงโควิดที่กินระยะเวลา 2-3 ปี พอสถานการณ์เริ่มบรรเทาลง คนก็หันมาใช้เงินกันมากขึ้น ยิ่งกว่านั้นภาวะเงินเฟ้อทำให้มีค่าใช้จ่ายมากขึ้นกว่าเดิม

นอกจากนี้ การที่คนเก็บเงินน้อยลงยังสะท้อนความเปลี่ยนแปลงของการตั้งเป้าหมายด้านการเงินในหมู่คนทำงานโดยเฉพาะคนรุ่นใหม่ที่เพิ่งเริ่มทำงาน ซึ่งพวกเขาจัดลำดับความสำคัญเรื่องเงินต่างจากเมื่อก่อน โดยมุ่งหาสมดุลระหว่างการทำงานเสริมเพื่อให้ได้เงินมากับการใช้เงินที่ได้เพิ่มมานี้ เพื่อให้ใช้ชีวิตสนุกมากขึ้น

ในส่วนของประเทศไทยเช่นกัน ปัจจุบันพบว่าภาพรวม ‘การออม’ ครัวเรือนไทย กลับมาอยู่ในทิศทางลดลง ส่งผลต่อสถานการณ์หนี้ครัวเรือนในปัจจุบันที่ยังอยู่ในระดับสูงกว่า 90% ต่อ GDP และมีแนวโน้มปรับลดลงได้ช้า

‘Soft Saving’ โฟกัสกับปัจจุบันมากกว่าอนาคตที่ยังมาไม่ถึง

เมื่อเป้าหมายชีวิตไม่ใช่การเกษียณ นอนกินเงินเดือนเหมือนเมื่อก่อน เพราะความผันผวนของเศรษฐกิจ ปัญหาสงคราม และเงินเฟ้อ ทำให้คนในยุคนี้รู้สึกกังวลและไม่มั่นใจว่าตัวเองจะเกษียณได้อย่างที่ต้องการ

แนวคิดแบบนี้เกิดขึ้นในหมู่คนรุ่นใหม่เช่นกัน โดย 2 ใน 3 ของกลุ่ม Gen Z ไม่แน่ใจว่าจะมีเงินเพียงพอที่จะหยุดทำงานได้ อย่างไรก็ตาม ข้อกังวลนี้อาจจะน่ากังวลน้อยกว่าสำหรับคนรุ่นใหม่ เพราะส่วนใหญ่ไม่ได้ต้องการที่จะเกษียณตั้งแต่ยังอายุน้อย บางคนก็ไม่ได้ต้องการจะหยุดทำงานเลยด้วยซ้ำ

ผลการศึกษาจาก Transamerican Center for Retirement เผยให้เห็นว่าจากที่เมื่อก่อนคนมองว่าการ ‘เกษียณ’ คือการหยุดทำงานแล้วไปท่องเที่ยว ใช้ชีวิตที่ตัวเองต้องการ แต่กลายเป็นว่า 41% ของเจน Z และ 44% ของ Millenials (อายุ 27-42 ปี) คาดว่าแม้ตัวเองจะอยู่ในวัยเกษียณก็จะยังหางานทำอยู่ดี ซึ่งมีเพียง 31% ของเจน X และ 21% ของ Baby Boomers เท่านั้นที่คิดแบบนี้

นั่นหมายความว่าคนรุ่นใหม่มองคำว่า ‘เกษียณ’ อาจจะไม่เกิดขึ้นเลยเพราะสุดท้ายก็เลือกทำงานต่อไปเรื่อยๆ ตราบที่ยังทำงานได้นั่นเอง แต่ยังมีแผนเก็บเงินหลังเกษียณด้วยกองทุน

แล้วคนรุ่นใหม่ใช้เงินซื้อความสุขกับอะไร ?

เมื่อคนรุ่นใหม่ใช้เงินมากขึ้นและเก็บน้อยลง ซึ่งกว่า 47% ของกลุ่มเจน Y และ 40% ของกลุ่มเจน Z เต็มใจมากที่จะใช้เงินไปกับงานอดิเรกและสิ่งของที่ไม่จำเป็นอย่างการท่องเที่ยวและความบันเทิง มากกว่ากลุ่ม Gen X และ Baby Boomers ที่มีอยู่เพียง 32% และ 20% ตามลำดับ

ถึงคนรุ่นใหม่จะเก็บเงินน้อยลง แต่พวกเขาไม่ได้ใช้เงินแบบเดือนชนเดือน ที่จริงแล้วพวกเขาก็ยังใช้จ่ายอยู่ภายในรายได้ที่ได้รับ และการใช้เงินที่มากขึ้นก็สะท้อนว่ามาจากราคาของสินค้าที่ปรับสูงขึ้นจากเงินเฟ้อ มากกว่าที่มาจากการซื้อของใช้หรูหรา

บทความที่เกี่ยวข้อง

เพื่อนๆ สามารถติดตาม ACU PAY Thailand ผ่านช่องทางการติดตามอื่นๆ ได้ที่