Stablecoin คืออะไร? เพราะอะไรถึงเรียกว่า Stable?

Stablecoin คือ สินทรัพย์ดิจิทัลที่สามารถคงมูลค่าไว้คงที่ได้ตลอดเวลา โดยสินทรัพย์ประเภทนี้ถูกออกแบบมาให้มีมูลค่าอ้างอิงตามสินทรัพย์อื่น ยกตัวอย่างเช่นการตรึงมูลค่าด้วยสกุลเงินหลักของโลก หรือสินค้าโภคภัณฑ์หนุนหลัง การตรึงมูลค่าด้วยสินทรัพย์ดิจิทัลหนุนหลัง และการควบคุมปริมาณเหรียญด้วยกลไกทางคอมพิวเตอร์ จึงทำให้ Stablecoin คล้ายกับ ‘เงิน’ เพราะรักษามูลค่า (store of value) เอาไว้ได้ ดังนั้น Stablecoin จึงถูกนำมาใช้เป็นสื่อกลางในการชำระเงินมากขึ้นในปัจจุบัน ซึ่งคริปโตฯ อื่นๆ เช่น บิตคอยน์ อาจจะทำไม่ได้ เพราะราคาขึ้น-ลงผันผวน นั่นจึงทำให้ธุรกิจและบริษัทหลายแห่งเทรดโดยใช้ Stablecoin เนื่องจากเหตุผลด้านความคงที่ของราคา และมั่นใจได้ว่าราคาเหรียญนั้นจะมีความผันผวนที่ต่ำ ซึ่งแบ่งเป็น 3 ประเภทดังนี้

ประเภทของ Stablecoin

1. Stablecoin backed by Fiat Stablecoin

Stablecoin backed by Fiat Stablecoin คือ Stablecoin ที่มีมูลค่าอ้างอิงตาม เงิน Fiat ซึ่งเป็น Stablecoin ที่มีเสถียรภาพมากที่สุด โดยมีมูลค่าอ้างอิงตามค่าเงินดอลลาร์สหรัฐ หรือ สกุลเงิน Fiat อื่น ๆ ในอัตราส่วน 1 ต่อ 1

ตัวอย่างเหรียญ: Tether (USDT), USD Coin (USDC), Indonesia Rupiah Token (IDRT) โดยผู้ออกเหรียญไม่ว่าจะเป็นบริษัท ธนาคาร หรือรัฐบาล ควรจะถือเงินจำนวนเดียวกันไว้ในธนาคาร หรือบัญชีที่เชื่อถือได้

2. Stablecoin backed by digital assets Stablecoin

Stablecoin backed by digital assets Stablecoin คือ Stablecoin ที่มีมูลค่าอ้างอิงตาม คริปโต หรือ มีการใช้ คริปโตเคอร์เรนซีมาค้ำประกันสินทรัพย์ โดยมีการตรึงมูลค่าเป็น 1 : 1 USD เสมอ

ตัวอย่างเหรียญ: Maker DAO ที่พัฒนาเหรียญที่เรียกว่า DAI โดยการนำ Ethereum (ETH) จำนวนหนึ่งมาฝากในระบบ เพื่อเป็นหลักประกันในการยืม DAI ที่ใช้หลักการเดียวกับ Stablecoin backed by Fiat แต่แทนที่จะเอาสินทรัพย์ไปค้ำประกันกับสถาบันการเงิน เราจะใช้งานระบบบล็อกเชนแทนขั้นตอนนั้น

3. Algorithmic Stablecoin Algorithmic Stablecoin

Algorithmic Stablecoin Algorithmic Stablecoin คือ Stablecoin ที่ใหม่มาก และยังไม่ได้ถูกใช้งานอย่างแพร่หลายในตลาด โดยทั่วไป เหรียญชนิดนี้ไม่มีการอ้างอิงราคาตามสินทรัพย์จริงใด ๆ แต่ใช้งาน blockchain-based algorithms เพื่อกำหนดมูลค่าของเหรียญให้เท่ากับ 1USD เสมอ

ตัวอย่างเหรียญ: Basis คือคริปโตที่จะใช้อัลกอริทึมในการปรับอุปทาน (Supply) ของเหรียญ เพื่อให้เหรียญมีมูลค่าคงที่ และนอกจากนี้ยังมีเหรียญ CarbonUSD ด้วย

ข้อดีของ Stablecoin

มีความเสถียรภาพ สร้างขึ้นมาแก้ไขปัญหาเรื่องความผันผวนสำหรับคริปโตเคอร์เรนซี ถือเป็นเป็นสกุลเงินดิจิทัลที่มีเสถียรภาพมากขึ้น เป็นเหมือนตัวเชื่อมระหว่างโลกของคริปโตกับโลกของเงินตราในปัจจุบัน Stablecoin เหมาะอย่างยิ่งกับนักลงทุนคริปโตมือใหม่เพราะมีความผันผวนน้อย
มีการกระจายอำนาจ (Decentralized) ซึ่งหมายความว่าไม่ได้ผูกติดอยู่กับระบบหรือหน่วยงานใดหน่วยงานหนึ่ง ไม่จำเป็นต้องผ่านตัวกลางในการตรวจสอบ เพราะมีการทำธุรกรรมผ่านเทคโนโลยี Blockchain ที่จะคอยตรวจสอบและบันทึกธุรกรรมโดยอัตโนมัติ ไม่ต้องผ่านตัวกลางรวมถึงประหยัดค่าธรรมเนียมอีกด้วย
ตรวจสอบได้ โปร่งใส เทคโนโลยีบล็อกเชนจะเปิดโอกาสให้ทุกคนสามารถตรวจสอบข้อมูลได้ และทำให้ไม่มีใครสามารถแทรกแซง ปลอมแปลงข้อมูลได้ เพราะถ้าหากจะปลอมแปลงข้อมูลจะต้องปลอมแปลงข้อมูลบนคอมพิวเตอร์จำนวนมหาศาลให้ตรงกัน ซึ่งแทบจะเป็นไปไม่ได้เลย

ข้อจำกัดของ Stablecoin

Stablecoin เป็นคริปโตเคอร์เรนซีที่ยังคงมีตัวกลางควบคุมอยู่และต้องพึ่งพาการตรวจสอบจากบุคคลที่ 3 อย่างเช่น Stablecoin ที่ผูกมูลค่าไว้กับเงินตราปัจจุบัน ไม่ว่าจะเป็น เงินดอลลาร์หรือทองคำ ซึ่งสินทรัพย์ดังกล่าวยังถูกควบคุมโดยตัวกลาง และยังต้องพึ่งพาตัวกลางในการตรวจสอบและรับรองมูลค่าของจำนวนของสินทรัพย์ที่ค้ำประกัน

ประโยชน์ของ Stablecoin

เหรียญประเภทนี้ “เก็งกำไรไม่ได้” เพราะมูลค่ามันแทบจะคงที่คือผันผวนต่ำมากๆ ด้วยแนวคิดทั่วไปของสเตเบิ้ลคอยน์ คือ การสร้างเหรียญคริปโตที่มูลค่าไม่เปลี่ยนแปลง ดังนั้น ในวงการเทรดเดอร์ก็มักจะใช้ประโยชน์จากสเตเบิ้ลคอยน์ไว้เป็นที่พักเงินในช่วงที่ตลาดผันผวน

อย่างไรก็ตามหากต้องการพิจารณาถึงความมูลค่าความเสถียรของเหรียญนั้นๆ ควรศึกษาและดูข้อมูลสินทรัพย์หรือมูลค่าที่มูลค่าอ้างอิงตามสินทรัพย์อื่นๆ ให้คล้ายกับตัวเงินมากที่สุด

Reference : zipmex