Menu
รองเท้าส้นสูงเป็นอีกหนึ่งสิ่งที่สามารถเพิ่มความมั่นใจให้กับผู้หญิงอย่างเราๆ ได้ไม่น้อยอีกทั้งในยุคปัจจุบันรูปทรงของรองเท้าส้นสูงก็มีใหเลือกกันอย่างหลากหลาย ในเมื่อกลุ่มคนที่ใช้ชีวิตอยู่กลับรองเท้าส้นสูงส่วนใหญ่เป็นผู้หญิงแล้วทำไมรองเท้าส้นสูงถึงไม่ได้เกิดมาเพื่อผู้หญิงอย่างเรา ๆ วันนี้เอซียู เพย์ จะพาเพื่อน ๆ มารู้เรื่องราวของรองเท้าส้นสูงไปพร้อม ๆ กัน
แรกเริ่มเดิมทีรองเท้าส้นสูงถูกคิดค้นขึ้นเพื่อความปลอดภัยในการขี่ม้าของผู้ชาย ในช่วงศตวรรษที่ 15 เป็นยุคที่ต้องใช้ม้าเป็นยานพาหนะในการเดินทาง แต่ปัญหาที่พบบ่อย ๆ คือเท้าชอบหลุดออกจาก โกลนพักเท้า ซึ่งเป็นอันตรายอย่างมาก อาจทำให้ผู้ขี่ตกลงจากหลังม้าได้เลย ทหารม้าชาวเปอร์เซียจึงออกแบบรองเท้าที่มีความคล้ายกับรองเท้าบูตของคาบอย แต่มีส้นที่สูงขึ้นประมาณ 1-1.5 นิ้ว เพื่อป้องกันเท้าหลุดจากโกลนพักเท้า รองเท้าส้นสูงจึงถือกำเนิดมาเพื่อความปลอดภัย รสนิยม ความกล้าหาญและความทันสมัย
ในปี 1533 ปรากฏสตรีที่สวมใส่รองเท้าส้นสูงชื่อ แคทเธอรีน เดอ เมดิชี ด้วยความที่เธอมีความสูงเพียง 150 เซนติเมตร เธอมีความหวังที่จะมีส่วนสูงให้ดูเหมาะสมกับคู่หมั้นของเธอ จึงได้นำรองเท้าส้นสูงมาใส่ในงานแต่งของเธอ แต่ด้วยเป็นรองเท้าส้นสูงที่ผู้หญิงใส่ตัวส้นของรองเท้าจึงมีความเรียวเล็กกว่ารองเท้าส้นสูงของผู้ชาย แต่ยังไม่เป็นที่นิยมมาก เพราะรองเท้าส้นสูงไม่อำนวยต่อการทำงานในยุคนั้น ไม่นานหลังจากนั้นผู้คนก็กลับมาใส่รองเท้าแบบเดิม
ในปี 1599 เป็นยุคที่ทหารเปอร์เซียเข้ามาในยุโรปเพราะสงคราม รองเท้าส้นสูงก็เข้ามาด้วยเช่นกัน เมื่อพระเจ้าหลุยส์ที่ 14 และเหล่าขุนนางชนชั้นสูงเห็นเข้า จึงได้มีการนำมาสวมใส่บ้าง รองเท้าส้นสูงจึงถูกนำมาเป็นเครื่องบอกสถานะทางสังคม การสวมใส่รองเท้าส้นสูงยังมีกฎบังคับความสูงของรองเท้าส้นสูง เพื่อแสดงถึงชนชั้นและอำนาจของราชวงศ์
ในยุคนี้รองเท้าส้นสูงได้รับความนิยมเป็นอย่างมากในหมู่ผู้หญิงที่ทำงานขายบริการ นอกจากรองเท้าส้นสูงแล้วเครื่องแต่งอื่น ๆ ของผู้ชาย ผู้หญิงเองก็นำมาสวมใส่เช่นกัน ไม่นานหลังจากรองเท้าส้นสูงเป็นที่นิยมในหมู่ประชาชนชั้นล่าง กลุ่มชนชั้นสูงเองก็ไม่ยอมจึงทำให้รองเท้ามีส้นที่สูงกว่า เพื่อความแตกต่างและเพื่อแสดงถึงอำนาจทางการเงินที่มั่งคั่งกว่า และยังมีการกำหนดประเภทของรองเท้าส้นสูงไว้อย่างชัดเจน โดยรองเท้าที่ส้นเรียวเล็กสำหรับผู้หญิง และรองเท้าที่ส้นหนากว่าสำหรับผู้ชาย
ในยุคนี้กระแสของรองเท้าส้นสูงซาลงเป็นอย่างมาก ด้วยภาวะบ้านเมืองที่เข้าขั้นลำบาก การแสดงออกถึงความมั่งคั่งเป็นเรื่องที่ไม่สมควร ประชาชนยากจน รองเท้าส้นสูงจึงไม่เป็นที่นิยม
ในช่วงเวลานั้นอังกฤษเองได้ออกกฎหมายห้ามผู้หญิงสวมใส่รองเท้าส้นสูง และผู้หญิงที่ใส่รองเท้าส้นสูงจะได้รับโทษทางกฎหมายเทียบเท่ากับการเป็นแม่มด เพราะนอกจากชนชั้นสูงแล้ว ก็มีหญิงขายบริการที่นิยมชมชอบในรองเท้าส้นสูง แต่กฎหมายนี้ไม่ค่อยได้ผล
ในยุคนี้เริ่มมีการติดต่อสื่อสารและสื่อโฆษณาเข้ามา มีช่างถ่ายภาพคนหนึ่งถ่ายภาพหญิงสาวนุ่งน้อยห่มน้อยใส่รองเท้าส้นสูงและตีพิมพ์ ทำให้ความนิยมของรองเท้าส้นสูงกลับมาอีกครั้ง นอกจากผู้หญิงที่เสพสื่อภาพหญิงสาวเซ็กซี่แล้วเหล่าทหารเองก็นิยมเป็นอย่างมากเพราะอยู่ในช่วงสงครามโลกครั้ง 2 โดยมักจะแขวนโปสเตอร์สาวสวยเซ็กซี่ที่มักมาพร้อมกับการใส่รองเท้าส้นสูงไว้ในที่พักเพื่อปลอบประโลมจิตใจจากสงคราม บทบาทและหน้าที่ของรองเท้าส้นสูงจึงเปลี่ยนไป กลายเป็นว่ารองเท้าส้นสูงนั้นมีไว้เพื่อความเย้ายวนและความมีเสน่ห์ของหญิงสาว
ความหมายและความสำคัญของรองเท้าส้นสูงต่างกันออกไปในแต่ยุคแต่ละสมัย เริ่มจากเพื่อความปลอดภัยในการขี่ม้า ต่อมากลายมาเป็นเพื่อบอกสถานะทางสังคม เข้าสู่ยุคตกต่ำและผิดกฎหมายสำหรับผู้หญิง จนมาถึงยุคโฆษณาที่ทำให้รองเท้าส้นสูงกลับมาเป็นที่นิยมอีกครั้ง และในปัจจุบันรองเท้าส้นสูงก็อยู่ในหลายบทบาทหน้าที่แตกต่างกันออกไป ขอให้เพื่อน ๆ ทุกคนมีความสุขกับการแต่งตัว และรู้จักกาลเทศะในการแต่งตัว “My Body, My Choice”
ให้ทุกเรื่องการเงินเป็นเรื่องง่าย เริ่มต้นวันดีๆ ไปกับเรา MAKE A GREAT DAY WITH ACU PAY
