สายบุญห้ามพลาด! คู่มือการขอพรที่เขาคิชฌกูฏ จังหวัดจันทบุรี ปี 2566

• ไม่ต้องจองคิวไปเขาคิชฌกูฏ

ในปี 2566 สามารถ Walk–in ไปที่เขาคิชฌกูฏ จังหวัดจันทบุรีได้เลย โดยไม่ต้องจองคิวล่วงหน้า ซึ่งจะต่างกับปี 2565 เนื่องจากปัจจุบันสถานการณ์โควิดดีขึ้นแล้ว

• วิธีการเดินทาง

สำหรับใครที่ไม่มีรถส่วนตัว สามารถเดินทางได้ด้วยรถโดยสารสาธารณะที่ทาง ขสมก.จัดไว้ให้สำหรับเดินทางไปเขาคิชฌกูฏ จังหวัดจันทบุรี โดยเฉพาะชาวกรุงเทพนั่งรถยาวๆไปถึงวัดกระทิง อำเภอเขาคิชฌกูฏ จังหวัดจันทบุรี ส่วนใครที่มีรถส่วนตัวจากรุงเทพ สามารถเริ่มต้นได้ที่ถนนศรีนครินทร์ กรุงเทพ ผ่านอำเภอบ้านบึง มุ่งสู่อำเภอแกลง จากสามแยกแกลงเลี้ยวซ้าย ใช้ทางหลวงหมายเลข 3 จนถึงจันทบุรี รวมระยะทาง 230 กิโลเมตร

• ในส่วนของค่าบริการและจุดขึ้นรถ

ค่าบริการ : ชาวไทยผู้ใหญ่ 20 บาท , เด็ก 10 บาท และ ชาวต่างชาติผู้ใหญ่ 100 บาท , เด็ก 50 บาท

จุดขึ้นรถ : จะมีด้วยกันทั้งหมด 2 จุดคือ วัดพลวงเที่ยวละ 50 บาท ต้องนั่งรถ 2 ต่อ หรือจะเลือกเป็นราคาเหมาขึ้น – ลงรวม 200 บาท กับอีกจุดคือวันกระทิง นั่งรถต่อเดียว ราคาเหมาขึ้น ลง 200 บาท ในช่วงคนหนาแน่นรอคิวอาจจะนานกว่าคิววัดพลวง

• การแต่งตัวขึ้นเขาคิชฌกูฏ จังหวัดจันทบุรี

แนะนำให้เพื่อนๆทุกคนที่จะไปใส่เสื้อภาพที่สุภาพ เพราะทางวัดค่อนข้างเข้มงวดเรื่องการแต่งกายไม่ว่าจะเป็นเสื้อสายเดี่ยว กางเกงขาสั้น ห้ามเด็ดขาด! แนะนำให้ใส่เสื้อผ้ามิดชิด ทะมัดทะแมงเพราะกับการเดิน รวมไปถึงรองเท้า หาที่ใส่สะดวก เดินสบาย 

• วิธีการขอพรตามจุดไฮไลท์ต่างๆที่ต้องสักการะ

จุดที่ห้ามพลาดสำหรับสายบุญที่จะไปสักการะเขาคิชฌกูฏ จังหวัดจันทบุรี นั่นก็คือ “รอยพระพุทธบาท” และหินก้อนใหญ่ที่ตั้งอยู่บนหน้าผา ส่วนใหญ่จะนิยมขอพรเรื่องหน้าที่การงาน เงินทอง ความรัก และสุขภาพ แต่ขอพรได้เพียงแค่ 1 ข้อเท่านั้น ใครที่ไปสักการะรอยพระพุทธบาทเชื่อว่าขอพรอะไรก็จะสัมฤทธิ์ผลและอีก 1 จุดที่ควรไปคือ “ผ้าแดง” ที่ต้องเดินทางไปอีกประมาณ 1 กิโลเมตร สามารถเขียนขอพรได้ที่ผ้าแดง เชื่อกันว่าจะได้พรตามคำของสมหวังตามปรานารถ อีกทั้งยังมีวิวมุมสูง วิวสวย วิวดีให้ชมอีกด้วย