fbpx
Search
Close this search box.

ย้อนตำนานเทศกาลวันไหว้พระจันทร์

เทศกาลไหว้พระจันทร์

เทศกาลไหว้พระจันทร์ เทศกาลปีละครั้งที่สำคัญกับคนจีนมาก รองจากเทศกาลตรุษจีนเลยทีเดียว เทศกาลนี้จะมีสัญลักษณ์ที่เรารู้กันดีอย่าง ‘ขนมไหว้พระจันทร์’ พร้อมกับตำนาน ‘เทพธิดาฉางเอ๋อเหินสู่ดวงจันทร์” ที่ชาวจีนเล่าสู่กันฟังจากรุ่นสู่รุ่น ใครอยากฟังตำนานนี้ เข้ามานั่งล้อมวง เดี๋ยวเอซียูเพย์ มาเล่าให้ฟัง

เทศกาลไหว้พระจันทร์

เทศกาลวันไหว้พระจันทร์ ตรงกับวันขึ้น 15 ค่ำเดือน 8 หรือวันเพ็ญเดือน 8 ตามปฏิทินจันทรคติของทุกปี ซึ่งปีนี้ วันศุกร์ที่ 29 กันยายน 2566 โดยเทศกาลนี้จะตรงกับเดือนกันยายน หรือตุลาคม อยู่ในช่วงกลางฤดูใบไม้ร่วง เพื่อเฉลิมฉลองการเก็บเกี่ยว ชาวจีนจึงเรียกว่า จงชิว แปลว่า กลางฤดูใบไม้ร่วง เป็นประเพณีที่ชาวจีนถือปฏิบัติสืบต่อกันมานับพันปี 

ในเทศกาลนี้ ชาวจีนจะเฉลิมฉลองด้วยการไหว้ดวงจันทร์ในเวลากลางคืน ในบางประเทศ เช่น สิงคโปร์ หรือเวียดนาม จะจัดเป็นประเพณีใหญ่ มีการเฉลิมฉลองด้วยโคมไฟสีแดง เป็นสีสันยามค่ำคืน หรือบางแห่งอาจมีการเชิดมังกรอีกด้วย ซึ่งเทศกาลนี้มีตำนานเล่าขานกันมาช้านานด้วย นั่นก็คือ เทพธิดาฉางเอ๋อเหินสู่ดวงจันทร์ และ กระต่ายบนดวงจันทร์

กำเนิดเทพธิดาดวงจัทร์ : ตำนานเทพธิดาฉางเอ๋อเหินสู่ดวงจันทร์

ตำนานแรกเกี่ยวกับเทศกาลวันไหว้พระจันทร์ เล่าขานกันว่า…เมื่อครั้งสมัยก่อนโบราณกาลนั้น โลกของเรามีดวงอาทิตย์อยู่ถึงสิบดวง ทำให้โลกมนุษย์เกิดภัยพิบัติไปทั่ว แผ่นดินร้อนระอุ น้ำเหือดแห้ง ผู้คนไม่มีที่หลบซ่อนอาศัย 

ต่อมาได้วีรบุรุษนามว่า ‘โฮ่วอี้’ ผู้ที่มีฝีมือในการยิงธนูได้แม่นยำ ใช้ลูกธนูเพียงดอกเดียวยิงเข้าใส่ดวงอาทิตย์ 9 ดวงจนเหลือเพียงดวงเดียว ทำให้เขาได้รับการยกย่องให้เป็นกษัตริย์ แต่เมื่อโฮ่วอี้ได้ขึ้นเป็นกษัตริย์ ก็ลุ่มหลงในอำนาจและสุรานารี ฆ่าฟันผู้คนตามอำเภอใจ ทำให้ราษฎรต่างโกรธแค้นชิงชังเขาเป็นที่สุด 

เมื่อโฮ่วอี้รู้ตัวดังนั้นจึงเดินทางไปที่ภูเขาคุนหลุน เพื่อขอยาอายุวัฒนะจากเจ้าแม่หวังหมู่มากิน แต่ ‘ฉางเอ๋อ’ ผู้เป็นภรรยากลัวว่า ถ้าสามีของนางมีอายุยืนนาน อาจจะนำพาเอาความเดือดร้อนมาสู่ประชาชน นางจึงตัดสินใจแอบขโมยยาอายุวัฒนะนั้นมากินเสียเอง 

หลังจากดื่มเข้าไปร่างของฉางเอ๋อจึงลอยขึ้นสู่ดวงจันทร์ นับแต่นั้นมาบนดวงจันทร์ก็ปรากฏร่างของเทพธิดาที่เชื่อกันว่าเป็นฉางเอ๋อ ทุกวันขึ้น 15 ค่ำ เดือน 8 ชาวบ้านจึงจัดพิธีไหว้ดวงจันทร์ เพื่อแสดงความเคารพต่อฉางเอ๋อที่ช่วยปกปักรักษาให้ชาวบ้านอยู่เย็นเป็นสุข

ตำนานกระต่ายบนดวงจันทร์

ยังมีอีกตำนานเล่าขานเกี่ยวกับ กระต่ายบนดวงจันทร์ โดยเล่าว่า…มีกระต่ายตัวหนึ่งอาศัยอยู่บนดวงจันทร์ กระต่ายตัวนี้ทำหน้าที่ปรุงยาอายุวัฒนะให้กับ ‘ฉางเอ๋อ’ เทพธิดาแห่งดวงจันทร์ บ้างก็ว่ากำลังทำขนมไหว้พระจันทร์ (ตำนานญี่ปุ่นเล่าว่ากำลังตำแป้งสำหรับทำโมจิ) 

วันหนึ่งได้เกิดอหิวาตกโรคระบาดครั้งใหญ่ในกรุงปักกิ่ง เทพธิดาฉางเอ๋อจึงส่งกระต่ายลงมารักษาโรคให้กับชาวบ้าน ชาวบ้านต่างซึ้งใจในความช่วยเหลือ หลังจากรักษาชาวบ้านและกำจัดโรคร้ายสำเร็จ กระต่ายก็กลับไปบนดวงจันทร์ ตั้งแต่นั้นมาชาวบ้านเลยกราบไหว้บูชาเทพเจ้ากระต่าย เลยเป็นธรรมเนียมในเทศกาลไหว้พระจันทร์ด้วย

ขนมไหว้พระจันทร์

ซึ่งสิ่งที่ขาดไม่ได้สำหรับเทศกาลไหว้พระจันทร์นั่นก็คือ ‘ขนมไหว้พระจันทร์’ ที่ใช้เป็นเครื่องเซ่นไหว้เทพเจ้าดวงจันทร์ โดยคนจีนจะเรียกขนมนี้ว่า ‘ขนมเอี้ยปิ่ง’ ซึ่งหมายถึงความสมบูรณ์ และความสมหวัง 

ขนมไหว้พระจันทร์ดั้งเดิมของจีนประกอบไปด้วย ถั่วแดง ลูกนัทจีน 5 ชนิด และเม็ดบัว ซึ่งจะต้องมีไส้หวาน หรือสอดไส้ด้วยธัญพืชที่มีรสหวานเท่านั้น ต่อมาประเพณีได้แพร่หลายออกไปหลากหลายที จึงมีการเปลี่ยนแปลงรสชาติและรูปแบบมากขึ้น

ชาวจีนทำอะไรบ้างในวันไหว้พระจันทร์ ?

คืนนี้พระจันทร์จะกลมโตและส่องสว่างงดงามที่สุดในรอบปี ทางการจีนกำหนดให้เทศกาลนี้เป็นวันหยุดยาว ชาวจีนที่ออกมาทำงานต่างเมืองจึงรอคอยที่จะใช้โอกาสนี้เดินทางกลับบ้านเกิดเพื่อใช้เวลาร่วมกับครอบครัว ส่วนผู้ที่ไม่ได้เดินทางกลับบ้านก็จะใช้โอกาสนี้พักผ่อนหรือใช้เวลาร่วมกับเพื่อนสนิทมิตรสหาย 

โดยเทศกาลนี้ผู้คนจะรวมตัวกันเพื่อรับประทานอาหารค่ำ ชมความงามของดวงจันทร์ พร้อมรับประทาน ‘ขนมไหว้พระจันทร์’ ที่เป็นสัญลักษณ์ของความสุขและความสมัครสมานสามัคคีของคนในครอบครัว ตามธรรมเนียมแล้วเวลากินขนมไหว้พระจันทร์ จะต้องตัดแบ่งเป็นชิ้นขนาดเท่า ๆ กันเท่ากับจำนวนสมาชิกในครอบครัว 

นอกจากนั้นแล้ว ในคืนวันไหว้พระจันทร์บางพื้นที่ก็จะมีการไหว้ขอพรจากดวงจันทร์ โดยมักเริ่มตั้งโต๊ะบูชาตั้งแต่ตอนหัวค่ำที่ดวงจันทร์ปรากฏบนท้องฟ้าไปจนถึงประมาณ 4 – 5 ทุ่ม และมีการจุดโคมเพื่อแต่งแต้มสีสันอีกด้วย

บทความที่เกี่ยวข้อง

เพื่อนๆ สามารถติดตาม ACU PAY Thailand ผ่านช่องทางการติดตามอื่นๆ ได้ที่